12 หวานในลิฟต์
เช้าวันต่อมาเจนนิสา ขับรถมารับอิงฟ้าที่บ้านตามปกติ บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของสองเพื่อนซี้ที่ปรึกษาหารือเรื่องแผนการพิชิตใจบอสหนุ่มอย่างดลภพ ก่อนจะรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าตึก JSK กรุ๊ป
หลังจากส่งอิงฟ้าลงที่หน้าบริษัทเรียบร้อย เจนนิสาก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังบริษัทเน็กซัสวันเพื่อทำหน้าที่เลขาฯ ให้กับแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งก็คือตรีทศที่เป็นซีอีโอของบริษัทเน็กซัสวันตำแหน่งเดียวกันกับดลภพที่อยู่ JSK กรุ๊ป ก่อนที่เจนนิสาจะเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังห้องทำงานของเธอพร้อมกับตรีทศแฟนหนุ่ม เสียงเข้มของท่านประธานธีระก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง เขากำลังเดินตรงเข้ามาในลิฟต์พร้อมเธอและตรีทศอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีครับท่านประธาน” ตรีทศรีบยกมือไหว้ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทด้วยความเคารพ
“หนูเจน อิงฟ้าไปไหน ทำไมไม่เห็นมาฝึกงานพร้อมหนูล่ะ...ไหนว่าไปรับไปส่งกันทุกเช้าไม่ใช่เหรอ” ท่านประธานธีระเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงความสงสัยอย่างชัดเจน
“เอ่อ ๆ คือว่า...” เจนนิสาอึกอักเล็กน้อย เธอเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอคำถามนี้
“คืออิงฟ้าขอไปฝึกอีกที่หนึ่งค่ะ พอดีเพิ่งจะเปลี่ยนกะทันหัน” เจนนิสารีบตอบด้วยรอยยิ้มและพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
“บริษัทของคุณทรงพลหรือเปล่า” ท่านประธานธีระถามเจาะจง
“อืม...เจนว่าไม่น่าจะใช่ค่ะ” เจนนิสาตอบเลี่ยงๆ เธอไม่อยากให้พ่อของอิงฟ้ารู้ว่าลูกสาวทำงานอยู่ที่บริษัทคู่แข่ง
“ยังไงกลางวันนี้ หนูเจนบอกให้อิงฟ้ากลับมาหน่อยนะ พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย” ท่านประธานธีระเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ได้ค่ะ” เจนนิสารับปากอย่างรวดเร็ว เมื่อท่านประธานธีระออกจากลิฟต์ไป เธอก็รีบปรึกษาแฟนหนุ่มทันที
“เอาไงดีคะ พี่ตรี!!! เพื่อนเจนต้องแย่แน่ๆ เลย” เจนนิสาเอ่ยขึ้นเสียงเครือ ดวงตาคู่สวยฉายแววร้อนรน
ตรีทศยังคงสุขุม และเยือกเย็น ก่อนจะยื่นมือมาจับมือเรียวของแฟนสาวอย่างอ่อนโยน
“ใจเย็นก่อนเถอะเจน” เสียงทุ้มนุ่มของเขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“พี่ว่าเจนควรจะไปรับเพื่อนออกมาช่วงกลางวัน แล้วค่อยหาวิธีให้เพื่อนคุยกับท่านประธานให้เข้าใจเสียก่อน”
“ถ้าท่านประธานรู้ว่าเจนมีส่วนร่วมโกหกกับอิงฟ้าละก็ มีหวังได้โดนไล่ออกแน่เลย” เจนนิสาพูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ตรีทศยิ้มบางๆ มือใหญ่บีบมือเธอเบาๆ เพื่อปลอบประโลม
“อย่าเพิ่งคิดไปไกลสิจ๊ะ... เชื่อพี่ ท่านประธาน เค้ารักลูกสาวจะตาย เขายังไงก็ต้องยอมอยู่แล้ว” คำพูดของตรีทศทำให้เจนนิสารู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง
“ถ้างั้นกลางวันนี้ เจนขอตัวออกไปรับเพื่อนนะคะ”
“ไปก่อนเที่ยงก็ได้พี่อนุญาต เดี๋ยวเจอรถติด จะไม่ทันเอา” ตรีทศพยักหน้าอย่างใจดี เขารู้ว่าเจนนิสาเป็นห่วงเพื่อนมากแค่ไหน
“ขอบคุณค่ะพี่ตรี” เจนนิสาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาซาบซึ้ง
“ขอบคุณอย่างเดียวเหรอ” ตรีทศแกล้งทำเสียงงอนๆ ดวงตาคู่คมทอประกายเจ้าเล่ห์
“จะเอาอะไรอีกล่ะคะ” เจนนิสายิ้มหวาน รู้ทันว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
“หอมแก้มพี่ก่อน” ตรีทศเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พลางยื่นแก้มให้
“หื้อออ!!!..นี่มันในลิฟต์นะคะ” เจนนิสาอุทานเบาๆ ถึงแม้จะอยู่กันแค่สองคนแต่เธอก็ไม่กล้า
“ในลิฟต์เนี่ยแหละ” ตรีทศยังคงคะยั้นคะยอ เขารู้ดีว่าเจนนิสาไม่กล้า แต่ก็ชอบหยอกล้อกับเธอแบบนี้เสมอ
“ไม่เอาค่ะ ในลิฟต์มันมีกล้องนะคะ” เจนนิสาปฏิเสธเสียงอ่อย ใบหน้าเริ่มแดงซ่าน ตรีทศหัวเราะเบาๆ
“แต่ถ้าในห้องทำงานพี่ต้องได้มากกว่าหอมแก้มนะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เจนนิสาใจเต้นแรง
“หือ...พี่ตรีอะ เอาเป็น..คืนนี้ไม่ได้เหรอคะ” เจนนิสาแกล้งออดอ้อนกลับไป
“ก็ได้ งั้นคืนนี้พี่ไปหาที่คอนโดนะ” ตรีทศตอบรับอย่างง่ายดาย พร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ทำให้หัวใจของเจนนิสาเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ค่ะ” เจนนิสารับคำสั้นๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า เธอรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเสมอเมื่ออยู่กับเขา ความห่วงใยและกำลังใจที่ตรีทศมอบให้ ทำให้เธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกปัญหา
11.00 น.
เจนนิสาขับรถออกมาจากเน็กซัสวัน เพื่อไปรับอิงฟ้าในช่วงพักเที่ยง ระหว่างนั้นเจนนิสาก็รีบกดโทรหาเพื่อนเพื่อบอกถึงปัญหา
“แย่แล้วอิงฟ้า! พ่อแกจับได้อะ” เจนนิสากรอกเสียงลงไปในสายด้วยความร้อนใจ
“จับได้เรื่องไร” อิงฟ้าถามกลับอย่างตกใจ หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม
“ก็จับได้ที่แกไม่ได้ฝึกงานอยู่กับฉันไง” เจนนิสารีบบอก
“แล้วแกได้บอกหรือเปล่าว่าฉันฝึกงานอยู่ที่ไหน” อิงฟ้าถามอย่างกระวนกระวาย
“เปล่าหรอก ฉันก็ตอบเลี่ยง ๆ ว่าเป็นบริษัทเล็ก ๆ ” เจนนิสาตอบ
“เฮ่อ...โล่งอก” อิงฟ้าถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจชั่วขณะ
“แต่พ่อแกอยากเจอแกอยู่นะ ช่วงกลางวันนี้เขาบอกให้แกรีบกลับมาด่วนเลย” เจนนิสาแจ้งข่าวสำคัญ
“ได้ ๆ ฉันจะรีบกลับไป ว่าแต่....” อิงฟ้าเริ่มคิดถึงปัญหาเรื่องการเดินทาง
“ไม่ต้องกังวลฉันกำลังขับรถไปรับแก” เจนนิสาบอกเพื่อน
“ได้ ๆ แกรีบ ๆ มานะเจน” อิงฟ้ารีบบอกเพื่อนทันที
ช่วงพักเที่ยง อิงฟ้าจำใจต้องกลับไปพร้อมเจนนิสาเธอลงมาพักเที่ยงเร็วกว่าปกติโดยไม่รอทานมื้อกลางวันกับดลภพ เมื่อรถของเจนนิสามาจอดรอที่หน้าตึก JSK กรุ๊ป อิงฟ้ารีบก้าวขึ้นรถของเพื่อนอย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมองอยู่จากหน้าต่างห้องทำงาน
ดลภพที่กำลังยืนมองอิงฟ้าขึ้นรถเก่งคันหรูออกไป เขาอยากรู้ว่าเธอไปที่ไหนกับใคร จึงตัดสินใจรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถ แล้วขับรถตามรถของเจนนิสาไปอย่างอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะมาทันเห็นรถที่อิงฟ้าขึ้นมาเมื่อสักครู่เลี้ยวเข้าสู่ถนนเส้นหลักซึ่งเขาจำรถคันดังกล่าวได้ไม่มีผิดเพี้ยน ก่อนจะขับตามไปอย่างแนบเนียน รถของเจนนิสามุ่งหน้าตรงไปยังใจกลางเมือง และในที่สุดก็เลี้ยวเข้าสู่ลานจอดรถของตึกสูงระฟ้าที่คุ้นตา... ตึกสำนักงานใหญ่ของ 'เน็กซัส วัน' ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และเป็นคู่แข่งตลอดกาลของ JSK กรุ๊ป!
ดลภพจอดรถในมุมที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เขามองเห็นอิงฟ้าและเจนนิสาเดินเข้าไปในตึกของ 'เน็กซัส วัน' ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความสงสัย เขาเก็บความข้องใจทั้งหมดไว้ในใจ ก่อนจะขับรถกลับไปยัง JSK กรุ๊ปตามเดิม
เมื่ออิงฟ้ากลับเข้าทำงานในช่วงบ่าย เธอพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลกับสิ่งที่พ่อได้พูดไป ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น ดลภพเรียกเธอเข้าไปในห้องทำงาน อิงฟ้าเดินเข้าไปด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“คุณไปที่ไหนมา...เมื่อช่วงพักกลางวัน” ดลภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดวงตาคู่คมจ้องมองอิงฟ้าอย่างพิจารณา อิงฟ้าถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย และไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยถามถึงเรื่องนี้
“เอ่อ...พอดีฉันไปทำธุระกับเพื่อนค่ะ” อิงฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุด
“ที่ไหน” ดลภพถามต่อ สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ แต่คำถามนั้นกลับทำให้หัวใจของอิงฟ้าตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม