11 แรงกดดันกับความลับที่สั่นคลอน
เน็กซัสวัน ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมหรูครบวงจร คุณธีระเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ทั้งคอนโดมิเนียมหรู โรงแรมระดับห้าดาว และรีสอร์ตริมทะเลอันงดงาม การแข่งขันของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ปคือการช่วงชิงทำเลทอง การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เป็นไอคอนิก และการให้บริการที่เหนือระดับ
ในขณะที่บริษัท JSK กรุ๊ป ซึ่งเป็นคู่แข่งตลอดกาลในวงการเดียวกัน แต่ปัจจุบันนี้ JSK กรุ๊ปหันมาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชิงพาณิชย์และที่พักอาศัยระดับพรีเมียม รวมถึงการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์หรูหรา
การแข่งขันระหว่าง เน็กซัสวัน และ JSK กรุ๊ป ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น แต่ได้ถูกสืบทอดมาตั้งแต่ รุ่นปู่ของดลภพ กับ รุ่นพ่อของท่านประธานธีระมานานแล้ว ศึกชิงความเป็นหนึ่งในวงการนี้ดุเดือดมาหลายทศวรรษ ตั้งแต่การประมูลที่ดินผืนงาม การช่วงชิงสัญญาโครงการใหญ่ๆ ไปจนถึงการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มข้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดและพิสูจน์ศักยภาพของตระกูล
ความบาดหมางทางธุรกิจที่ฝังรากลึกนี้เอง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิงฟ้าและดลภพ ซับซ้อนและท้าทายมากยิ่งขึ้น เจนนิสาครุ่นคิดอยู่ในใจถึงเรื่องนี้
“มาถึงกันแล้วเหรอจ๊ะ” คุณวิภาเดินออกมาจากห้องรับแขก ก่อนจะยิ้มต้อนรับลูกสาวและเจนนิสาที่ยืนอยู่พร้อมกัน
“สวัสดีค่ะคุณแม่” เจนนิสายกมือไหว้คุณวิภาด้วยความนอบน้อม
“หนูเจน!!! อยู่ทานข้าวเย็นกับแม่ก่อนนะ” ระหว่างนั้นนายทรงพลก็รีบเดินออกมาหาอิงฟ้าด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ” เจนนิสายกมือไหว้ชายสูงวัยที่เดินออกมาทีหลัง เขาคือท่านประธานธีระแห่งบริษัทเน็กซัสวันที่เจนนิสาทำงานอยู่
“ไปที่โต๊ะอาหารกันเถอะ” คุณอดุลย์ศักดิ์ผายมือเชื้อเชิญทุกคน
“อิงฟ้ามาก็ดีแล้ว วันนี้คุณทรงพล เค้าจะมาเสนอพ่อเรื่องโครงการเมกะโปรเจกต์ กรีนแลนด์ อาร์คาเดีย” ประธานธีระเอ่ยกับบุตรสาว อิงฟ้ายิ้มเจื่อน ๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่บิดาบอก ระยะหลังมานี้นายทรงพล นักธุรกิจหนุ่มใหญ่พยายามทำตัวสนิทสนมกับครอบครัวของเธออย่างรวดเร็ว
บนโต๊ะอาหารค่ำที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส แต่บรรยากาศกลับไม่เป็นอย่างที่อิงฟ้าต้องการ ทรงพลหนุ่มใหญ่หน้าตาดูภูมิฐาน แต่แววตากลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ กำลังนั่งคุยอยู่กับท่านประธานธีระ บิดาของอิงฟ้า และโอ้อวดถึงความสำเร็จทางธุรกิจของตนเองอย่างออกรส
“คุณธีระครับ! โครงการเมกะโปรเจกต์กรีนแลนด์ อาร์คาเดีย ที่ผมเพิ่งชนะการประมูลจากภาครัฐมา ถ้าคุณธีระต้องการจะร่วมลงทุนด้วยผมก็ยินดีนะครับ” คุณทรงพลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นพลางเหลือบมองมาทางคุณวิภาอย่างมีนัยยะ
“รับรองนะครับ ว่าครั้งนี้จะการลงทุนในธุรกิจ พลังงานสะอาดและนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้เลยครับ ผมคาดว่าจะให้เป็นเมืองต้นแบบ ที่รวมเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยกับธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ส่วนมูลค่าโครงการสูงก็ถึงหมื่นล้านบาทเลยทีเดียวครับ” ทรงพลยังคงเชิญชวนให้ท่านประธานธีระร่วมลงทุนไปด้วย ก่อนที่เขาจะหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปสบตาอิงฟ้าโดยตรง ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้
“ผมคิดว่าโครงการนี้จะสร้างโอกาสมหาศาล และกำลังมองหาคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลมาร่วมงานด้วย ผมว่าคุณอิงฟ้าควรจะได้ลองลงทุนโครงการนี้ดูนะครับ จะได้ทำแทนคุณพ่อด้วย” คำพูดของคุณทรงพลนั้นเจาะจงและมีน้ำเสียงที่จงใจให้คุณวิภาและคุณอดุลย์ศักดิ์ได้ยิน คุณวิภาหันมายิ้มหวานให้อิงฟ้า
“อิงฟ้า คุณทรงพลนี่เค้าเก่งเรื่องธุรกิจมากเลยนะลูก ช่วงนี้แม่อยากลองให้หนูไปลองฝึกงานกับพี่เค้าดูก่อน” คุณวิภาเอ่ยขึ้นอย่างมีนัยยะ
“จะได้เรียนรู้งานจากเค้า เผื่อว่าคุณพ่อจะร่วมลงทุน” ท่านประธานธีระนิ่งเฉย ส่วนอิงฟ้าก็รีบปฏิเสธทันควัน “คุณแม่คะ! หนูก็ฝึกงานอยู่กับเจนแล้วนี่ค่ะ” เธอส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปให้เจนนิสา
“ใช่ค่ะคุณแม่ อิงฟ้าฝึกงานกับหนูอยู่ค่ะ ตอนนี้กำลังไปได้สวยเลยนะคะ” เจนนิสารีบช่วยเพื่อนพูดเสริม
“อ้าวเหรอจ๊ะ” คุณวิภาเลิกคิ้วเล็กน้อย
“คุณตรีทศก็เก่งเรื่องธุรกิจค่ะ คุณแม่” อิงฟ้าเสริมทัพ
ท่านประธานธีระนั่งเงียบฟังเงียบ ๆ ไม่ได้แสดงความคิดอะไร เพราะยังไม่ค่อยไว้ใจนายทรงพลสักเท่าไหร่ ธุรกิจของเขาเติบโตอย่างรวดเร็วก้าวกระโดด และรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
หลังจากมื้อค่ำที่เต็มไปด้วยความอึดอัดสิ้นสุดลง เจนนิสา ก็ขอตัวกลับทันที ปล่อยให้ท่านประธานธีระและนายทรงพล ยังคงนั่งหารือเรื่องธุรกิจกันต่อในห้องอาหาร อิงฟ้าเดินมาส่งเพื่อนรักที่หน้าบ้าน พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นรถของเจนนิสาแล่นลับตาไป
ทันทีที่ อิงฟ้าก้าวกลับเข้ามาในบ้าน คุณวิภาผู้เป็นมารดาที่ยืนรออยู่แล้ว ก็รีบเดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
“พักนี้แม่ว่าหนูดูแปลกไปนะอิงฟ้า” คุณวิภาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แฝงความสงสัยจนอิงฟ้าสัมผัสได้
“แม่เห็นหนูออกไปทำงานแต่เช้าทุกวัน แถมยังไม่เคยขับรถไปที่ทำงานด้วยตัวเอง มีแต่ให้หนูเจนมารับ...ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่”
คำถามของมารดาทำให้อิงฟ้าถึงกับสะดุ้งเฮือก อิงฟ้ารู้สึกเหมือนหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ความลับที่เธอพยายามปกปิดกับเพื่อนกำลังจะถูกเปิดเผย! ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เธอยอมไม่ได้ ก่อนจะรีบบ่ายเบี่ยงและปฏิเสธผู้เป็นมารดาอย่างแนบเนียนที่สุด
“ก็หนูขับรถไม่ค่อยเก่งนี่คะ...คุณแม่ ให้ยัยเจนมารับน่ะดีแล้ว” อิงฟ้าพยายามตอบด้วยน้ำเสียงที่ปกติ คุณวิภาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอไม่ได้คล้อยตามคำตอบของบุตรสาว
“แล้วทำไมไม่ออกไปทำงานพร้อมคุณพ่อซะเลยล่ะ บริษัทเราก็มีตั้งหลายแผนก จะไปฝึกทำไมตำแหน่งเลขาฯ แม่ว่าหนูไปช่วยคุณพ่อดูแลธุรกิจโรงแรมก็ได้นี่”
“ไม่เอาอะค่ะคุณแม่! อยู่กับคุณพ่อ...หนูเครียดตายเลย” อิงฟ้ารีบปฏิเสธเสียงสูง
“หนูขอหาประสบการณ์ด้วยตัวเองก่อนนะคะ”
คุณวิภาถอนหายใจ ก่อนจะมองอิงฟ้าด้วยสายตาจริงจังแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“แต่แม่อยากให้หนูลองไปทำโครงการใหม่ของคุณทรงพลเค้าดู โครงการกรีนแลนด์ อาร์คาเดีย จะทำให้หนูได้ประสบการณ์มากกว่าไปฝึกงานเป็นเลขาฯ อีกนะลูก เขาจะได้คอยช่วยเหลือ เป็นที่ปรึกษาให้หนูได้” คุณวิภาพูดพลางยิ้มอย่างพึงพอใจ
อิงฟ้าหน้าเสียทันที เธอรู้ว่านี่คือความพยายามของแม่ที่จะจับคู่เธอกับนายทรงพล
“แต่คุณพ่อยังไม่ได้ตกลงที่จะร่วมลงทุนเลยนะคะคุณแม่” เธอพยายามหาเหตุผลมาค้าน
“เดี๋ยวก็ตกลงเองแหละ ไม่เห็นเหรอว่าเขากำลังคุยกันอยู่” คุณวิภาพูดอย่างมั่นใจ พร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปห้องรับแขก ที่ซึ่งท่านประธานธีระ และนายทรงพล ยังคงนั่งคุยกันอย่างออกรส
อิงฟ้ามองตามสายตาของแม่ไปยังห้องรับแขก ภาพของบิดาทำให้เธอรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก เธอรู้ดีว่านี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่หลวงที่เธอกำลังจะต้องเผชิญ นอกจากจะต้องปิดบังความจริงเรื่องที่เธอทำงานให้บริษัทคู่แข่งแล้ว เธอยังต้องหาทางหลีกเลี่ยงการถูกจับคู่กับ นายทรงพลอีกด้วย! ภารกิจพิชิตบอสของเธอคงไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว