บท
ตั้งค่า

10 กับดักรัก...ของคุณหนู

อิงฟ้าอ้างว่าที่เธอไปทำงานเป็นเลขาฯ ของดลภพในทุก ๆ วัน เธอบอกว่าไปฝึกงานอยู่กับเจนนิสา เพื่อเรียนรู้งานของบริษัทอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

“ห๊า!!..จริงอะ” เจนนิสาถึงกับหลุดอุทานเสียงดังลั่น

“อื้อ!!!..ก็จะให้ฉันโกหกว่าไงล่ะ” อิงฟ้าโอดครวญ

“ไม่บอกว่าไปฝึกงานเป็นแม่บ้านก็ดีนักหนาแล้ว”

“ตาย ๆ! ถ้าวันไหนแม่แกเกิดเข้าออฟฟิศขึ้นมา ฉันไม่แย่เลยรึ!!!” เจนนิสาโวยวายด้วยความกังวล เพราะถ้าคุณวิภามาที่บริษัทจริง ความลับต้องแตกแน่ ๆ แล้วเธอเองเนี่ยแหละจะซวย!

“แม่ฉ้นไม่ไปหรอกน่า รายนั้นเพื่อนเค้าเยอะ วัน ๆ ก็เอาแต่ตีดัมมี่” อิงฟ้าพูดอย่างสบายใจ เธอรู้จักนิสัยแม่ดี ว่าเป็นคนสังคมจัด ไม่ค่อยได้เข้ามาในออฟฟิศเท่าไร บางวันก็ชวนกันเล่นไพ่ที่บ้าน

“ค่อยยังชั่ว!!” เจนนิสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก

“หวังว่าคงไม่ขาขาด แล้วมาหาเอาตามออฟฟิศหรอกนะ” เจนนิสาเปรยขึ้นมาอย่างขำๆ

“ไม่หรอกน่า แกก็เล่นเพลินๆ ไปตามประสาคนแก่นั่นแหละ ส่วนใหญ่จะคุยกันซะมากกว่า” อิงฟ้าบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจกับมุก ฮาๆ ของเพื่อน

“เอาล่ะๆ มาคุยเรื่องคุณดลย์ต่อเถอะ” อิงฟ้าวกเข้าเรื่องหลักอีกครั้ง

“แกว่าฉันควรจะรีบปิดจ๊อบเลยดีมั้ย” อิงฟ้าถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น แสดงให้เห็นถึงความใจร้อน

“นี่แกพูดอย่างกะจะลากเค้าขึ้นเตียงอย่างงั้นแหละ” เจนนิสาถามกลับอย่างตรงไปตรงมาจนอิงฟ้าถึงกับหน้าแดงก่ำ

“บ้า! ใครจะไปทำอย่างนั้นเล่า!” อิงฟ้ารีบปฏิเสธเสียงหลง

“ฉันหมายถึง...ฉันควรจะใช้เทคนิคขั้นต่อไปเลยดีไหม หรือว่ารอไปก่อนดี” อิงฟ้าอธิบายความหมายของคำว่า 'ปิดจ๊อบ' ของเธอ

เจนนิสาเงียบไปครู่หนึ่ง เธอคิดทบทวนถึงสถานการณ์ทั้งหมดของเพื่อนรัก ตั้งแต่การที่ดลภพรับอิงฟ้าเข้าทำงานโดยไม่ต้องสัมภาษณ์ และการที่ดลภพมาส่งที่คอนโด แถมยังพาออกไปทานข้าวถึงสองครั้ง แต่ยังคงมีความกังวลเรื่องที่เพื่อนถูกจับผิด

“แกฟังฉันให้ดีนะ...อิงฟ้า” เจนนิสาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาทันที

“ตอนนี้แกก็ได้เข้าใกล้คุณดลภพเค้าแล้ว แถมเค้าก็ดูออกจะสนใจแกอยู่ไม่น้อย... แต่ตอนนี้สิ่งที่แกต้องระวังคือความลับของตัวเอง ที่จะไม่ถูกเปิดเผยมาเสียก่อน”

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า...เรื่องนั้นฉันจะระวังให้ดีเลย!” อิงฟ้าตอบรับอย่างหนักแน่น

“ส่วนเรื่องปิดจ๊อบของแกน่ะ...ฉันว่าเอาไว้ก่อน!” เจนนิสาเน้นเสียง

“ผู้ชายอย่างคุณดลภพเค้าไม่ได้ชอบผู้หญิงที่จู่โจมเร็วเกินไปหรอก เขาชอบความท้าทาย และชอบที่จะเป็นฝ่ายรุกเองเสียมากกว่า”

“แล้วฉันต้องทำยังไง” อิงฟ้าถามอย่างกระตือรือร้น

“แกต้องใช้เทคนิคจิตวิทยาบ้าง” เจนนิสาเริ่มบรรยายแผนการใหม่

“คือทำให้เขาคลั่งไคล้ในตัวแกจนตามติดแกไม่ห่าง แต่แกต้องทำให้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าแกคิดอะไรกับเขากันแน่! ไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินไป! ทำให้เขาเป็นฝ่ายกระวนกระวาย อยากรู้ อยากใกล้ชิดแกเอง”

“มันกว้างไปอะ ไหนแกลองยกตัวอย่างมาสักข้อสิ” อิงฟ้าเร่งเร้า

“โอเคๆ ฟังนะ” เจนนิสาเริ่มบรรยายแผนการอย่างจริงจัง

“สมมุติว่าถ้าหลังเลิกงานแล้วเค้าโทรหาแก แกอย่าเพิ่งรับสายเด็ดขาด จะเป็นไลน์ก็ช่าง...ห้ามอ่านห้ามตอบเด็ดขาด ให้รอไปสักระยะหนึ่งก่อน ถ้าเป็นโทรศัพท์ก็ให้มิสคอลไปสักสองสามครั้ง”

“อ่าว!!!..แล้วถ้าเป็นเรื่องงานล่ะ ฉันจะไม่โดนดุหรือไง” อิงฟ้าถามอย่างตกใจ เธอเป็นห่วงเรื่องงานมากกว่าเรื่องรักเสียอีก

“ก็มันหลังเลิกงานแล้วนี่..แกจะไปกลัวอะไร” เจนนิสาตอบกลับอย่างสบายๆ

“อะๆ แล้วไงต่อ” อิงฟ้าพยักหน้าตาม

“แกห้ามเรียกร้องมากเกินไป แล้วก็ห้ามโพสต์ว่าตัวเองโสด รู้มั้ย” เจนนิสากำชับเสียงเข้ม

“เอ้า!!!...จะบ้าเหรอ!!!..แล้วเค้าจะรู้ได้ไงว่าฉันโสดอะ” อิงฟ้าถามอย่างงงๆ

“จะยากอะไรเล่า ก็ภาพถ่ายตามสถานที่ต่าง ๆ ที่แกไปคนเดียวไง แค่โพสต์แบบนั้นบ่อย ๆ เดี๋ยวเค้าก็ดูออกเองแหละว่าโสด” เจนนิสาอธิบาย

“ให้เขารู้สึกว่าแกเป็นคนมีโลกส่วนตัว มีไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ และก็ยังโสดอยู่ ให้เขาเป็นฝ่ายอยากรู้ และเข้ามาหาแกเอง”

“แต่เค้าไม่ได้ Follow ไอจีฉันเลยอะ มีแต่ไลน์ แล้วเค้าจะเห็นที่ฉันโพสต์ได้ยังไงกันล่ะ!!” อิงฟ้าบอกปัญหา

“เฮ่อ!!!...วันหลัง แกก็พยายามไม่ตอบไลน์ของเขาบ้างสิ พอเขาถาม แกก็บอกว่าเล่นไอจีเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็บอกให้เค้ามา Follow ไอจีของแกซะ...แค่นี้เอง จะไปยากอะไร” เจนนิสาวางแผนให้เสร็จสรรพ เธอพอจะเข้าใจบ้างแล้วว่าเพราะอะไรเพื่อนถึงโสดมาจนถึงทุกวันนี้

“แล้วก็หมั่นสังเกตนะ เขาถนัดหรือชอบอะไรเป็นพิเศษ” เจนนิสากล่าวเสริม

“ยังไงเหรอ” อิงฟ้าถามอย่างไม่เข้าใจ

“เอ้า!!!..แกก็ต้องทำเป็นสนใจให้เหมือนเค้าสิ แต่ต้องทำเป็นเหมือนเพิ่งหัดหรือเริ่มนะ เขาจะได้สอนไง” เจนนิสาให้คำแนะนำอย่างมีชั้นเชิง

“อ๋อ..เรียกง่ายๆ ว่าขอความช่วยเหลือในสิ่งที่เขาถนัด ถูกป่ะ” อิงฟ้าเริ่มปะติดปะต่อแผนได้

“ถูกเผงเลย ประมาณนั้นแหละ” เจนนิสาตอบรับ

“สงสัยว่า...ฉันต้องแกล้งโง่บ้างแล้วล่ะ” อิงฟ้าอมยิ้มกับความคิดของตัวเอง ที่เอ่ยออกมา

“โง่ กับซุ่มซ่าม แกเอาไปใช้ได้เลย รับรองมัดใจเขาได้แน่” เจนนิสาบอกอย่างมั่นใจ

“หือ...แกนี่ร้ายไม่เบานะเนี่ย ถึงว่าล่ะ เอาคุณตรีทศซะอยู่หมัดเชียว” อิงฟ้าแซวกลับไป

“แล้วยังมีอะไรอีกป่ะ” อิงฟ้าถามต่อ

“มีอีกเยอะ เอาไว้นึกได้แล้วจะบอก จะถึงบ้านแกอยู่แล้วเนี่ย!!!” เจนนิสาพูดเสียงเตือนเมื่อมองเห็นซอยเข้าหมู่บ้านของอิงฟ้า

“เอ่อ ๆ แกลงไปกับฉันก่อนนะ แล้วก็ช่วยนั่งทานมื้อค่ำเป็นเพื่อนฉันด้วย ฉันเบื่อนายทรงพลนั่นจะตายอยู่แล้ว” อิงฟ้ารีบชวนเพื่อนลงไปด้วยกัน เธอไม่อยากนั่งทานข้าวโดยต้องนั่งเผชิญหน้ากับนายทรงพลนักธุรกิจหน้าหม้อคนนั้น

“ไม่ชอบก็บอกเขาไปตามตรงสิ” เจนนิสาเตือน

“ก็แม่ฉันอะดิ! บอกว่าถ้าฉันยังไม่มีใครก็ให้คุยๆ กับนายนั่นไปก่อน” อิงฟ้าบ่นอย่างเซ็งๆ

“เฮ่อ!!!..สงสัยแม่แกจะว่างงานจริงๆ แหละ แต่ว่างหาผัวให้ลูกสาวนะ คริๆๆ” เจนนิสาเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เพราะเห็นสีหน้าเพื่อนที่กำลังนั่งหน้ามุ้ยอยู่

“ว่างน่ะ..ฉันไม่ว่าหรอก แต่หาผู้ชายมาให้...เนี่ยสิ หัวจะปวด!!!” อิงฟ้าบ่นอุบพร้อมกับเปิดประตูรถลงไป โดยมีเจนนิสาเดินตามติดๆ

เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน อิงฟ้าและเจนนิสาก็พบกับบรรยากาศอันคุ้นเคยของโต๊ะอาหารค่ำที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส ที่่แม่ครัวและคนรับใช้กำลังช่วยกันจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม และแน่นอนว่า นายทรงพลยังคงนั่งคุยกับบิดาและมารดาของเธอภายในห้องรับแขกที่อยู่ไม่ไกลจากห้องอาหาร อิงฟ้ารีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรักทันที
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel