บท
ตั้งค่า

8

ออสตินมองพร้อมกับขมวดคิ้วก่อนจะวางหน้าเรียบเฉยไม่พูดอะไร ได้แต่ยืนนิ่งให้คนของเขาจัดการกดลิฟต์ซึ่งแยกต่างหากเฉพาะผู้บริหาร.....เฮ้อ...นี่เขาจะต้องทำหน้าแข็งเป็นหินเพื่อ?......เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟต์ด้วยกันหล่อนเผลอคิดแล้วมองหน้าพ่อเทพบุตรปูนปั้นแล้วทำปากขมุบขมิบโดยไม่รู้ตัว............

“มีอะไร” ถามเสียงสะบัดนิด ๆ เพราะดูท่าทางแล้วเจ้าหล่อนน่าจะกำลังคิดกับเขาในแง่ลบอยู่แน่ ๆ

“ปะ...เปล่าค่ะ”

“อันนา” ท่านประธานกดเสียงต่ำบังคับให้หล่อนสารภาพกลาย ๆ

“ก็.......ฉันกำลังสงสัยว่าทำไมคุณจะต้องทำหน้าเป็นปูนปั้นตลอดเวลาด้วยคะ ไม่เห็นเหมือนตอนที่อยู่เพนท์เฮาส์เลยอ่ะ”

ออสตินไม่ตอบ พอดีลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการ......ท่านประธานหนุ่มเดินนำหน้าออกไปตามด้วยผู้ช่วยเลขาหมาด ๆ ที่ก้าวตามไปติด ๆ...อันนาสังเกตบริเวณโดยรอบเงียบมากราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิต.......จะมีก็แต่ผู้ชายหน้าตาดีนั่งทำงานกันอยู่สองคนเท่านั้น....ซึ่งหล่อนได้รู้ในเวลาต่อมาว่าคนหนึ่งชื่อเจมส์น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับท่านประธานปูนปั้น ส่วนอีกคน ไบรอันเป็นเลขาของเขาแลดูอ่อนวัยกว่าคุณเจมส์นิดหน่อย....

ออสติน สั่งให้ไบรอันเทรนงานเลขาทั้งหมดให้กับอันนา ก่อนที่เขาจะเดินไปที่ห้องทำงานกับบอดี้การ์ดอีกสองคนไม่นับพวกที่เฝ้าตั้งแต่ลานจอดรถกับหน้าลิฟต์ชั้นล่าง.....ดูเหมือนพวกมาเฟียจริง ๆ ด้วย ......อันนาอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีศัตรูมากมายถึงต้องมีทีมรักษาความปลอดภัยขนาดนี้เลยหรือไง.....อันนาวางความสงสัยไว้ก่อนจะหันมาฝากเนื้อฝากตัวกับครูฝึกของหล่อนดีกว่า...น่าจะทำให้ฝีมือหล่อนแกร่งกล้าในเส้นทางเลขาแน่ ๆ ....หญิงสาวยิ้มกับโชคชะตาที่นำพาให้หล่อนได้งานนี้อย่างง่ายดาย

“สวัสดีค่ะคุณเจมส์ คุณไบรอัน” อันนายิ้มหน้าบานโล่งใจที่ทั้งคู่พูดภาษาไทยชัดแจ๋วทั้งที่ดูท่าทางเป็นฝรั่งจ๋าออกอย่างนั้น.......

“อันนา ตามฉันเข้ามานี่ก่อน” ออสตินกำลังจะเข้าห้อง แต่ก็เปลี่ยนใจเอี้ยวตัวหันกลับมาเรียกยัยตัวยุ่งเข้าไปทำความเข้าใจกันก่อนที่จะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นที่นี่....

“ค่ะ...” หญิงสาวแอบยู่หน้ากับคำสั่งขัดขวางการสร้างความสนิทกับผู้ชายสองคนที่ดูแล้วว่าฝีมือไม่ธรรมดา อันจะนำพาหล่อนเข้าสู่เส้นทางของเลขามืออาชีพเลขาผู้ทรงประสิทธิภาพของหล่อน

ออสตินเดินไปนั่งหลังโต๊ะทำงานสุดหรูที่วางอยู่กลางห้อง ส่วนอันนาเลือกนั่งเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงาน ใบหน้าของหล่อนยังระบายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขในวันแรกของการทำงาน...ใครจะไม่สุขบ้างล่ะ ได้ทำงานในบริษัทใหญ่โตแถมตำแหน่งก็ไม่ธรรมดา ส่วนเงินเดือนไม่ต้องพูดถึง เกินจากที่หวังเอาไว้มาก งานนี้แทบจะหุบยิ้มไม่ลงกันเลยทีเดียว

“เป็นอะไรไปคะบอส.....” หญิงสาวเอ่ยถามคนนั่งหน้าตูมเมื่อรู้สึกถึงรังสีบางอย่างที่พร้อมจะทำลายล้างของเจ้านาย..... เขาเรียกหล่อนเข้ามาเองแล้วทำไมต้องทำหน้าไม่พอใจด้วยนะหรือว่าเกิดเสียดายเงินเดือนที่เสนอมา.....ไม่ได้นะผู้บริหารห้ามคืนคำเด็ดขาด....

“คุณไม่ควรยิ้มให้คนของผม” ออสตินเอ่ยเสียงขุ่นบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจมาก ๆ

“อ๊าว !! ..... ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยิ้มไม่ได้” งงในงง คนละเรื่องกับที่คิดไว้เลย

“เพราะยิ้มของคุณจะทำให้เสียการปกครอง” พูดนิ่ง ๆ แต่เครียดจริง

“ไม่เข้าใจอยู่ดีค่ะ”

“อยากพักงานไปทำความเข้าใจก่อนไหมล่ะ”

“โอเค...ฉันไม่ยิ้มให้ใครก็ได้...”

“ยกเว้นผม” ออสตินพูดต่อหน้าตาเฉยซ่อนความพอใจเอาไว้มิดชิด

“รับทราบค่ะ” พูดจบอันนาก็ลุกพรวดขึ้นชักโมโหคนที่เอาแต่ขู่...หล่อนพยายามสงบปากสงบคำเพื่อจะกลับไปทำงานของตัวเอง

“เดี๋ยว.....อันนาคุณลืมอะไรหรือเปล่า” ออสตินลุกเดินมาหาคนที่กำลังจะออกจากห้อง...เขาคว้าแขนหล่อนไว้ให้หันมาเผชิญหน้าก่อนที่จะใช้สองมือดึงแก้มทั้งสองข้างยืดออกเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว

“บอส.. !...” อันนาปัดมือเขาออกอย่างเคือง ๆ ไหนจะความวูบวาบจากกลิ่นประจำตัวของเขาและแรงดึงดูดบางอย่างเวลาที่ต้องใกล้ชิดกัน

“ก็คุณอยากไม่ยิ้มเองนะ”

“โอเค......คุณฉีกยิ้มฉันแล้ว ก็ปล่อยได้แล้วค่ะ”

ออสตินปล่อยมือทันทีพร้อมกับรอยยิ้มยั่วเย้านัยน์ตาพราวที่อันนาเพิ่งจะได้เห็นตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในบริษัท.......จู่ ๆ หัวใจก็เต้นแรงจนต้องรีบออกจากห้องอย่างรวดเร็ว......

หญิงสาวเดินออกมาจากห้องทั้งที่ยังรู้สึกเหมือนลอย ๆ ปรับอารมณ์ตามท่านประธานใหญ่ไม่ทัน แสดงว่าภาพที่เห็นเขาต่อหน้าคนอื่นคือสวมหน้ากากอยู่สินะ...คนบ้ายังจะบ้าอำนาจบังคับให้คนอื่นทำแบบตัวเองอีก…..

“คุณไบรอันคะ ฉันพร้อมแล้วสำหรับการเริ่มงานค่ะ” หญิงสาวก้าวเข้าไปยืนหน้าโต๊ะของคุณเลขาพร้อมกับเอ่ยกับเขาอย่างเป็นงานเป็นการไม่มีรอยยิ้มหวานแต่งแต้มบนใบหน้าแม้แต่น้อย

“เอ่อ...ครับ” ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวรู้สึกแปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของหล่อนหลังจากตามเจ้านายเข้าไปในห้อง…อยากรู้จริง ๆ ว่าคุณออสตินพูดอะไรกับผู้ช่วยเลขาคนใหม่.......ไบรอันคิดอย่างคนที่รู้จักเจ้านายของตัวเองดี ก็เพราะเขาเป็นเบ้ให้อีกฝ่ายตั้งแต่เด็ก ๆ สนิทกันราวกับพี่น้องท้องเดียวกันเพราะเขาเป็นญาติห่าง ๆ ที่มัมรับมาเลี้ยงดูประหนึ่งลูกชายในไส้ ตั้งแต่เสียบิดามารดาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ

“เชิญแนะนำมาได้เลยค่ะ” อันนาพูดแข็ง ๆ กล้ามเนื้อบนใบหน้าแทบไม่กระดิก

“เดี๋ยวนะครับ....เอ่อ....ขอโทษจริง ๆ คือว่า.....โบท็อกซ์มีปัญหาหรือครับ” ไบรอันจ้องมองหน้าอีกฝ่ายอย่างค้นหาความผิดปกติ พร้อมกับพูดด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจและด้วยความปรารถนาดีจากใจมิได้มีเจตนาเสียดสีแต่อย่างใด บางทีหล่อนอาจจะกำลังประสบกับปัญหาหน้าตึงจนเกินไปก็ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel