13
“มัมอย่าล้อเมียผมเล่นสิ ตกใจหน้าซีดหมดแล้ว” ออสตินหันมาจูบกระหม่อมคนในอ้อมแขน ที่ยิ่งทำตัวแข็งเข้าไปใหญ่....หึหึ...ดาราตุ๊กตาเพชรเหรอวะ.....
“มัม...เอ่อคุณท่านคะ...เรารักกันจริง ๆ นะคะ” หญิงสาวละล่ำละลักรีบแก้ตัวโดยไว หล่อนจะมาตกม้าตายตั้งแต่เริ่มต้นไม่ได้...เดือนละล้านเชียวนะยัยอันนา....หญิงสาวสอดแขนกอดเอวหนาพลางซุกซบเข้ากับแผงอกเพื่อความสมจริง.....
“เอาเถอะ...เรียกมัมก็ได้...แต่อย่าให้รู้นะว่าสมรู้ร่วมคิดกัน ไม่งั้นฉันเอาเธอตายแน่” ดวงตาคมกริบกรีดอายไลน์เนอร์มาชัดเป๊ะจับจ้องใบหน้าหญิงสาวอย่างต้องการข่มขู่...บทนี้เธอถนัดเพราะใช้กับคุณสามีบ่อย ๆ
“ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกันแน่ ๆ ค่ะมัม” หญิงสาวยิ้มแหย ๆ หล่อนแค่รับจ้าง ไม่ได้ร่วมวางแผนด้วยสักหน่อย
“เอาล่ะ.....ไบรอันเอากระเป๋าฉันเข้าไปเก็บได้แล้ว”
“มัมจะนอนที่นี่เหรอครับ” ชายหนุ่มถามอย่างแปลกใจปกติท่านจะไปพักที่คฤหาสน์หลังงามมากกว่า
“ใช่...ไม่ได้หรือไง”
“ได้สิครับ...ว่าแต่ทานข้าวหรือยัง”
“ไม่...ขอผลไม้ให้ฉันจานเดียวก็พอ”
“หืม...รักษาหุ่น....กลัวแด๊ดมีเมียน้อยหรือไงครับมัมคนสวย” ชายหนุ่มหยอกมารดาอย่างอารมณ์ดี
“กล้าก็ลองดูสิ !...” มาดามพูดเสียงเหี้ยมพลางค้อนควักเจ้าลูกชายที่ถอดแบบคนเป็นพ่อมาเป๊ะ ๆ เพียงแต่อลันหยุดได้หลังจากมีครอบครัวแต่หล่อนก็ไม่เคยนิ่งนอนใจสารพัดที่จะหาวิธีมามัดใจสามีไม่ได้หยุด….
หลังจากโดนซักประวัติจากมาดามเอมิกาตอนที่ร่วมโต๊ะอาหารค่ำอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาถึงแม้ท่านจะรับเพียงแค่ผลไม้จานเดียว...แต่มารดาของออสตินก็ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุดในการล้วงข้อมูลจากคนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ ซึ่งอันนาตอบได้คล่องปากขึ้นเพราะหล่อนเลือกที่จะตอบตามความจริงตั้งแต่เหตุการณ์แรกพบจนกระทั่งย้ายมาอยู่กับท่านประธานหนุ่มที่นี่ ยกเว้นก็แต่เรื่องข้อตกลงจ้างงานหลังจากนั้นซึ่งพูดไม่ได้จริง ๆ
“เป็นอะไรหึ...จะนั่งถอนหายใจทั้งคืนเลยหรือไง” ออสตินนอนมองเมียกำมะลออยู่นานสองนานเห็นหล่อนนั่งอยู่ปลายเตียงพลางถอนหายใจอยู่หลายเฮือก ไม่รู้อึดอัดใจอะไรนักหนา
“คุณว่ามัมจะจับได้ไหมคะ”
“คงไม่มั้ง คุณแสดงซะแนบเนียนขนาดนั้นนี่”
“ไม่ต้องมาประชด” อันนาหันกลับไปขว้างค้อนตาขวาง
“อ๊าว !...รู้ตัวเหมือนกันเหรอ ไหนว่าฝีมือระดับตุ๊กตาเพชร” พูดกลั้วหัวเราะ เอ็นดูคนขี้โม้
“ก็ฉันกลัวเหมือนกันนะคุณ......จะว่าไปคุณมัมน่ารักจนฉันไม่กล้าโกหก...ฉันว่าท่านทำเป็นดุข่มขวัญฉันแค่นั้นเอง”
“อืม....งั้นก็ไม่ต้องโกหกแล้ว”
“ห๊า...ไม่ได้นะคุณ อยู่ ๆ คุณจะมายกเลิกการจ้างกลางคันแบบนี้ไม่ได้นะ” อันนาปราดเข้าไปนั่งข้าง ๆ เรือนร่างใหญ่โตที่นอนหงายอย่างสบายอารมณ์อยู่อีกฝั่งหนึ่ง
ออสตินเอื้อมมือเพียงนิดเดียวก็สามารถดึงร่างบางลงมานอนบนหน้าอกแกร่งได้อย่างง่ายดายแต่หล่อนก็หาได้นอนเฉย ๆ ให้เขากอดตามอำเภอใจไม่
“ปล่อย!....”
“เดี๋ยวสิฟังให้จบก่อน” ชายหนุ่มออกแรงเพิ่มอีกนิดก็ล็อคคนตัวบางกว่ามากได้นิ่งสนิท
“อะไรของคุณ รีบ ๆ พูดมาสิ” อันนาต่อว่าเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าโกรธหรืออายกันแน่
“ยอมเป็นเมียผม..... คุณจะได้มากกว่าเดือนละล้านอีกนะ....สนป่ะ” ชายหนุ่มหว่านเสน่ห์ไม่บันยะบันยังแถมหลิ่วตาให้พลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากทำท่าทางซะเหมือนโจรหื่นกามไม่มีผิด
“อร๊ายยยยย........ไอ้ทุเรศ....ไอ้ลามก....ไอ้โจรหื่นกาม...ไอ้@#$%.....”
อันนาได้ฟังแล้วควันออกหู หล่อนไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ลุกขึ้นนั่งคร่อมทับกลางลำตัวของท่านประธานที่เคารพก่อนจะกระหน่ำทุบตีไม่ยั้งทั้งหยิกทั้งข่วนชวนสยดสยอง ในขณะที่คนตัวโตได้แต่ปัดป้อง...........กูพูดอะไรผิดวะเนี่ย........อุตส่าห์จริงจังยกตำแหน่งเมียให้อย่างที่ไม่เคยคิดจะให้ใครแล้วเชียว........ยัยตัวแสบ.......
บทที่ 4
“เดี๋ยว !.....ฟังก่อนอันนา....อันนา”
“ไอ้บ้านี่......ยังมีหน้าจะมาขอแก้ตัวอีกเหรอ” นอกจากไม่ฟังแล้วอันนายังระดมรัวกำปั้นเข้าใส่ไม่ยั้ง ถึงแม้จะไม่ค่อยถนัดเพราะเขาปัดป้องได้ไวไม้แพ้คนบุกโจมตี
“หยุด !!.....”
ออสตินรวบเรือนร่างบอบบางพลิกกลับลงไปด้านล่างแล้วกักกดไว้ด้วยร่างกายหนาหนักของตัวเองอย่างแน่นหนายากที่จะดิ้นหนี
“จะฟังกันดี ๆ ได้ไหม หรือจะรอให้ฉันปล้ำให้หมดแรงก่อนถึงจะยอมหยุดหึ !....” ชาย หนุ่มเค้นเสียงเข้มดุ ท่าทางขึงขังส่งผลให้อีกฝ่ายสงบปากสงบคำลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ฉันบอกแล้วว่าไม่ขายไงเล่า” อันนาพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่อง หล่อนเข้าใจอย่างนั้น ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ
“ก็ไม่ได้จะซื้อ อยากให้มาเป็นเมียเฉย ๆ ไง...อ๊ะ...ฟังให้จบก่อน” ออสตินรีบขัดเมื่อหล่อนอ้าปากเตรียมจะพ่นคำด่าออกมาอีกชุดใหญ่...ผู้หญิงอะไรวะปากร้ายฉิบหา...ย...
“อย่าบอกนะว่าเกิดรักฉันสุดจิตสุดใจจนอยากได้มาเป็นแม่ศรีเรือน” สายตาคมตวัดมองคนข้างบนอย่างไม่เกรงกลัว
“แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะ” ชายหนุ่มถามยิ้ม ๆ
“ฮึ....ฉันไม่เชื่อคุณหรอก......ฉันกินข้าวนะไม่ได้กินหญ้า” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มเปรียบว่าควายโง่......แต่ยังไงอันนาก็คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าควายอยู่ดี
“อืม...ฉลาดดีสมกับเป็นแม่พันธุ์”
