บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 แพ้ท้อง

ตอนที่ 6 แพ้ท้อง

หลายอาทิตย์ต่อมา

ปิ่นมุกตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ ทันทีที่เธอลืมตาตื่น เธอรู้สึกพะอืดพะอมและวิงเวียนศีรษะ มีอาการเหมือนอยากจะอาเจียน

“อุ๊บ!” ฝ่ามือเรียวเล็กยกขึ้นปิดปากตัวเองแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที เธออาเจียนออกมาอย่างหนักอยู่สักครู่ใหญ่ๆ จนไม่มีอะไรจะออกมาแล้ว เธอบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด ฝ่ามือข้างหนึ่งวางลงมาที่หน้าท้องของตัวเอง จากนั้นก็ปล่อยโฮออกมา

“ฮื่อๆๆๆ” ก่อนหน้านี้เธอเฝ้ารอประจำเดือน แต่มันก็ไม่ยอมมาให้เธอสักที จนมีอาการอย่างเช่นที่เห็น นั่นจึงทำให้เธอมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าตอนนี้ในท้องของเธออาจจะมีเด็กตัวน้อยๆนอนอยู่ข้างในก็ได้

ปิ่นมุกพยุงตัวเองเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา งานก็ยังไม่มีทำ เงินที่มีอยู่ก็กำลังจะหมดไป ไหนจะต้องมาตั้งท้องอีก ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าพ่อของลูกในท้องเป็นใคร แต่เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะยากเกินไปสำหรับเธอ

เธอนั่งลงกอดตัวเองเอาไว้แน่น น้ำตาก็ยังคงไหลออกมาไม่ได้หยุด เธอยังไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตนี้ของตัวเองดี มันมืดแปดด้านไปหมด

"แม่จ๋า...อนาคตหนูคงหมดแล้ว ฮื่อๆๆ" ตั้งท้องแล้วแบบนี้ คงไม่มีบริษัทไหนให้งานเธอทำ ขนาดไม่ท้องยังไม่มีใครจ้างเลย หรือเธอควรจะกลับบ้านแล้วบอกความจริงกับพ่อกับแม่หรือจะแบกหน้าไปหาเขาดี บอกเขาว่าในท้องของเธอมีลูกของเขานอนอยู่ในนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโดนด่ากลับมาหรือเปล่า เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันที่มีเพียงน้อยนิดก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง บางคนกลับบ้าน บางคนได้งานที่ไกลๆ หลังจากเรียนจบออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัยเธอก็ไม่ได้ติดต่อกับใครอีกเลย เห็นทีว่าเรื่องนี้คงต้องพึ่งตัวเองแล้ว เธออาจจะต้องลองยอมแบกหน้าไปหาเขา อย่างน้อยๆลูกในท้องของเธอก็จะได้มีพ่อ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบอสจะยอมเป็นพ่อให้กับลูกของเธอหรือเปล่า

ไปหาเขาคงเป็นทางเลือกแรก แต่ถ้าเขาไม่รับว่าเด็กในท้องเป็นลูก ทางเลือกสุดท้าย เธอคงต้องกลับบ้าน แต่ก่อนอื่นเลยเธอต้องไปตรวจให้แน่ใจก่อนว่า เธอได้ตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ เมื่อคิดได้ดังนี้ เธอจึงใช้นิ้วมือปาดน้ำตาที่แก้มทิ้งแล้วลุกเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็ออกมาแต่งตัวแล้วไปโรงพยาบาล คนอย่างเขาถ้าหากไม่มีหลักฐานชัดเจนมากพอ เขาคงไม่เชื่อเธอง่ายๆ คงเป็นเธอที่ต้องโดนด่าเสียๆหายๆอีกตามเคย

ณ โรงพยาบาลรัฐใกล้ๆ

“หมอยินดีด้วยครับ ผลตรวจออกมาแล้วว่าคุณตั้งครรภ์ ถ้าหากนับจากวันมีเพศสัมพันธ์ คุณตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้วครับ” จบคำพูดของคุณหมอดวงตากลมโตของเธอก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา

“หนูท้องจริงๆเหรอคะคุณหมอ”

“ครับ หมอยินดีด้วยนะครับ”

“ค่ะ หนูขอเอกสารยืนยันการตั้งครรภ์ด้วยได้มั้ยคะ”

“ได้ครับ” คุณหมอหยิบเอกสารหนึ่งใบมาเขียนอยู่สักครู่ จากนั้นก็ปั๊มตราโรงพยาบาล แล้วยื่นกระดาษแผ่นนั้นมาให้เธอ

“เรียบร้อยครับ”

“ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ” ปิ่นมุกยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกมาจากห้องตรวจ

เธอหยิบมือถือขึ้นมาดูนาฬิกา ปรากฏว่าเวลานี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว เธอคิดว่าเวลานี้บอสต้นน้ำน่าจะออกจากออฟฟิศไปหาอาหารเที่ยงกิน เธอจึงรีบไปที่หน้าบริษัทเพื่อไปดักเจอเขา

เมื่อปิ่นมุกมาถึงหน้าบริษัท เธอชั่งใจอยู่สักครู่ว่าจะเดินเข้าไปดีมั้ย แต่แน่นอนว่ายังไงก็ต้องผ่านพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เฝ้าอยู่ข้างหน้า

“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไหนๆก็มาแล้วนี่” เมื่อเธอตัดสินใจได้ดังนี้ เธอจึงเดินไปหาลุงยามที่นั่งเฝ้าประตูทางเข้าแล้วยื่นความจำนงขอพบบอสต้นน้ำ

“ลุงคะ”

“หน้าคุ้นๆนะเราน่ะ”

“หนูเคยทำงานที่นี่ค่ะ”

“อ๋อจำได้แล้ว ยัยหนูนั่นเอง ถ้าจะมาสมัครงานใหม่คงไม่ได้แล้วแหละ เจ้าของที่นี่เขาไม่รับคนเก่าเข้าทำงานหรอกอีหนู” ที่ผ่านมาหากใครที่ลาออกจากที่นี่ไปแล้ว ต้นน้ำจะไม่รับกลับเข้ามาทำงานอีก ไม่ว่าคนคนนั้นจะมากไปด้วยฝีมือขนาดไหนก็ตาม เขาถือว่าหมดใจจากที่นี่แล้ว เพราะงานของเขาต้องอาศัยใจรักด้วย ไม่ใช่ทำไปวันๆ

“ไม่ใช่ค่ะ หนูแค่อยากจะมาขอพบบอสต้นน้ำ ไม่ทราบว่าตอนนี้บอสอยู่ที่ด้านในมั้ยคะ” ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงพักเที่ยง ยังไม่ถึงเวลาเข้างาน บริษัทนี้คนน้อยไม่มีอาหารขายในบริษัทเหมือนกับบริษัทอื่นๆ ถ้าไม่ห่อข้าวมากินเอง ก็ต้องสั่งให้ร้านค้ามาส่งให้หรือไม่ก็ต้องออกไปหากินข้างนอกเอาเอง

“ตอนนี้พักเที่ยง คุณต้นน้ำออกไปข้างนอก น่าจะไปหาข้าวกิน อีกสักพักก็คงกลับมา มีอะไรหรือเปล่าแจ้งไว้ก่อนได้นะ”

“งั้นหนูนั่งรอนะคะ” ลุงยามเห็นใบหน้าของหญิงสาวตัวเล็กดูซีดเซียวจึงไม่อยากเซ้าซี้ถาม ส่วนปิ่นมุกก็หันไปหาที่นั่งพัก เวลานี้แดดที่นี่แรงมาก เธอรู้สึกร้อนเหลือเกิน ถ้าหากได้น้ำเย็นๆสักแก้วมาดับกระหายก็คงดี

ตั้งแต่เช้าเธอรีบไปโรงพยาบาล เสร็จจากโรงพยาบาลที่แสนจะแออัด ก็รีบมาที่นี่อีก ตอนนี้ท้องของเธอเริ่มหิว ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่เธอก็ต้องอดทนไปก่อน รอคุยกับเขาให้เสร็จ เธอจะไปหาอะไรมารองท้องสักหน่อย

เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ ต้นน้ำก็กลับเข้ามาที่บริษัทกับกีกี้สองคน ลุงยามเดินออกไปดักรถของเจ้าของบริษัท ทันใดนั้นต้นน้ำที่กำลังขับรถเข้ามาก็เหยียบเบรคแล้วลดกระจกลง

“คุณต้นน้ำครับ มีน้องผู้หญิงมาขอพบครับ”

“ใครคะ” ต้นน้ำเอ่ยถามพร้อมกับชะโงกหน้าไปมองผู้หญิงคนที่ลุงยามบอก ซึ่งเธอกำลังยืนมองมาที่เขาพอดี คิ้วเรียวสวยของเขาขมวดเข้าหากันแน่นทันที ก่อนที่จะหันไปมองหน้ากีกี้ที่นั่งรถมาด้วยกัน

“ยัยน้องเกลนี่ นางมาทำไม” ต้นน้ำถอนหายใจเฮือกใหญ่ สีหน้าจากคนอารมณ์ดีเมื่อสักครู่เปลี่ยนไปทันที

“หล่อนลงไปก่อน คงต้องไปคุยกันที่อื่น”

“ไปด้วยไม่ได้เหรอ”

“จะไปก็ไป เรียกยัยนั่นให้ขึ้นรถซิ”

“นี่หล่อน ขึ้นรถ!” เสียงมีจริตจะก้านของกีกี้ร้องเรียกให้ปิ่นมุกขึ้นรถ ซึ่งเธอก็ไม่รอช้ารีบเดินเร็วๆมาขึ้นรถทันที จากนั้นต้นน้ำก็ถอยหลังรถออกจากบริษัท ไปหาที่เหมาะๆจอดคุย เขาเลือกเป็นปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก

“ลงมา!” ตลอดทางนั่งรถมาที่ปั๊มน้ำมันแห่งนี้ ไม่มีใครพูดอะไร นั่งเงียบกันมาตลอดทาง

“เฮ๊ยอีบอส มึงใจเย็นๆกับน้องมันหน่อยดิวะ” สีหน้าซีดเซียวของปิ่นมุก ไหนจะดวงตาแดงๆเหมือนคนผ่านการร้องไห้มา ทำให้กีกี้นึกสงสาร

“มีอะไร จะมาเรียกร้องอะไรอีกล่ะ”

“บอสคะ หนูท้อง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel