ตอนที่ 5 เรื่องเล่าเช้านี้
ตอนที่ 5 เรื่องเล่าเช้านี้
เช้าตรู่ของวันต่อมา
“ติ้งต่อง...ติ้งต่องๆๆๆๆ” กีกี้มาที่คอนโดของต้นน้ำแต่เช้า เสียงกดออดดังขึ้นรัวๆ จนคนด้านในต้องรีบสาวเท้าอย่างไวมาเปิดประตูให้
“มาแล้วๆ โอ๊ยหนวกหู!” ทันทีที่ประตูหน้าห้องเปิดออก กีกี้ก็รีบสาวเท้าเดินเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว สายตาของเขากวาดมองไปจนทั่วห้อง ก็ไม่เจอใครอื่นนอกจากต้นน้ำ
"มองหาอะไร อยู่คนเดียว" กีกี้หันมามองหน้าเพื่อน ก่อนที่จะวางกระเป๋าถือลงบนโต๊ะใกล้ๆ
“พร้อมฟังแล้ว จะเล่าได้หรือยัง” ประโยคแรกของกีกี้ ดูตั้งอกตั้งใจมาฟังเรื่องนั้นโดยเฉพาะ ทำเอาเจ้าตัวเริ่มไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงไหนก่อนดี
“ขอเวลาใส่เสื้อผ้าก่อน เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ” ต้นน้ำพูดจบเขาก็เดินเข้าไปในห้องนอน กีกี้ไม่รอช้าเดินตามเข้าไปด้วยติดๆ
“ใส่ไปเล่าไปก็ได้”
“อยากรู้อะไร ถามมาสิ”
“ผู้ชายที่ไหนวะ แล้วฉันรู้จักมั้ย หล่อกว่าผัวฉันมั้ย ดาราหรือว่านายแบบ” คำถามของกีกี้ทุกประโยค ทำให้ต้นน้ำเริ่มมั่นใจแล้วว่าเพื่อนไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นในเรื่องคืนนั้น
“ผิดตั้งแต่คำถามแรกแล้ว”
“คำถามแรก ฉันถามหล่อนว่าอะไรนะ”
“ผู้ชายที่ไหน” ต้นน้ำทวนคำถามของเพื่อนอีกครั้ง
“ไม่เข้าใจ ผู้ชายนั่นแหละถูกแล้ว” สีหน้างุนงงของกีกี้ทำให้ต้นน้ำนึกขำขึ้นมาในใจ
“ไม่ใช่ผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิงต่างหากล่ะ”
“ห๊ะ!! ผู้หญิง! ผู้หญิงที่ไหน แล้วฉันรู้จักหรือเปล่า หล่อนกลับใจตั้งแต่เมื่อไหร่” กีกี้ยิงคำถามใส่เพื่อนรัวๆ น้ำเสียงค่อนข้างดังและเร็ว ส่วนคนฟัง ฟังไม่ทัน
“ถามเร็วเกินไป ฟังไม่ทัน”
“อีบอส หล่อนจะลีลาให้ได้โล่เลยหรือไง รู้มั้ยว่าเมื่อคืนกว่าฉันจะหลับได้ ไม่ง่ายเลยนะ ฉันอุตส่าห์วาดภาพผู้ชายของแกไว้ซะหล่อเลย แล้วทำไมถึงเป็นชะนีได้ล่ะ”
“ไม่ต้องถามแล้ว เดี๋ยวเล่าให้ฟัง แต่แกต้องสัญญากับฉันมาก่อนว่าจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ”
“ทำไมวะ”
“สัญญามาก่อน”
“อ่ะๆสัญญาก็ได้” ต้นน้ำสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วเรียบร้อย ทั้งสองจึงพากันเดินออกมาจากห้องนอน มาหย่อนก้นนั่งลงที่โซฟา จากนั้นต้นน้ำก็เริ่มเล่าเรื่องราวของวันนั้นให้เพื่อนฟัง
“เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว วันเงินเดือนออก วันนั้นหล่อนขอกลับบ้านไปก่อน”
“ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่หล่อนเพิ่งจะมาพูดนี่นะ”
“คืนนั้นฉันโดนวางยาปลุกเซ็กซ์กับเกล” คิ้วเข้มๆของกีกี้ที่ถูกวาดด้วยดินสอเขียนคิ้วราคาแพงถูกขมวดเข้าหากันแน่นทันที
“เกลเด็กใหม่น่ะเหรอ”
“อือ” ต้นน้ำพยักหน้าให้เป็นคำตอบ
“อย่าบอกนะว่าที่น้องไม่มาทำงานเป็นเพราะเรื่องนี้”
“ใช่”
“นางคงอาย ไม่กล้าสู้หน้าหล่อนล่ะมั้ง”
“เปล่า ฉันไล่เธอออกเอง”
“เฮ้ย! แต่ยัยนั่นไม่ผิดนะ ทำแบบนี้มันจะเป็นการซ้ำเติมน้องหรือเปล่า”
“ฉันไม่สน นางเป็นคนเริ่ม ฉันเสียความบริสุทธิ์ให้ผู้หญิง คิดแล้วยังขยะแขยงอยู่เลย”
“ถ้าไม่ชอบ ทำไมไม่ขัดขืนล่ะ ตัวหล่อนสูงใหญ่กว่ายัยนั่นตั้งเยอะ”
“สถานการณ์แบบนั้น ใครมันจะไปทนไหว มึงก็ถามแปลกๆ”
“แสดงว่าสมยอม”
“สมศักดิ์!”
“ฉันชื่อกีกี้ย่ะ เรียกให้มันดีๆหน่อย”
“...........”
“ว่าแต่...เป็นยังไงบ้างวะ”
“หมายถึงอะไร”
“ก็ตอนทำไง หล่อนต้องเสียบใส่ป่ะ”
“ก็ดี” ต้นน้ำตอบเสียงแผ่ว เขาคิดว่าความรู้สึกในตอนนั้นน่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยามากกว่า
“ก็ดี ฮ่าๆๆๆ” กีกี้แซวเพื่อน ด้วยท่าทางขบขัน
“สมศักดิ์! ถ้าหัวเราะอีกจะไม่เล่าให้ฟังแล้วนะ” ต้นน้ำทำหน้าเง้างอนใส่เพื่อน
“อ่ะๆ ไม่หัวเราะแล้วก็ได้ แล้วยังไงต่อ”
“ฉันกำลังหาตัวคนทำ ทุกคนในออฟฟิศเป็นผู้ต้องสงสัยทุกคน ส่วนหล่อนผ่านแล้ว”
“ฉันจะทำไปทำไม”
“นั่นสิ แล้วคนอื่นๆล่ะ ทำงานอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน จะทำเรื่องนี้ไปทำไม” แน่นอนว่าในบรรดาคนทั้งหมดจะต้องมีหนึ่งคนหรือมากกว่า
“แล้วน้องเกลล่ะ หล่อนไม่สงสัยเลยเหรอ น้องมันเข้ามาไม่นานก็เกิดเรื่องขึ้น แถมยังเป็นคนทำเรื่องนั้นกับหล่อนด้วย”
“เคยสงสัย แต่ฉันจำเป็นต้องตัดเธอทิ้ง”
“เพราะอะไร”
“ข้อแรกยาที่เราสองคนกินเข้าไปมันแรงมาก ทรมานสุดๆ ใครไม่เคยโดนไม่มีทางเข้าใจหรอก ฉันเชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าเอาให้ตัวเองกินอย่างแน่นอน ส่วนข้อสอง เธอบอกว่าเธอเห็นเงาคนยืนอยู่ที่ประตูหน้าห้อง ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ ฉันก็เลยลองเปิดกล้องวงจรปิดดู มันมีเงาคนยืนอยู่จริงๆ ช่วงเวลานั้นเรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ทันได้ปิดประตู”
“แล้วพอมองออกมั้ยว่าเงาใคร” ต้นน้ำส่ายหน้าให้เพื่อนแล้วพูดต่อว่า...
“มองไม่ออกเลยว่ะ แต่มั่นใจมากว่าต้องเป็นคนใดคนหนึ่งในบริษัทของเรานี่แหละ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องเป็นความลับ จนกว่าจะหาตัวคนทำได้ กูจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด ไอ้คนไม่รักดี”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน พอได้ฟังแล้วทำไมถึงได้รู้สึกว่ามันน่ากลัวจังวะ แล้วไอ้คนนั้นมันต้องการอะไรกันแน่ แล้วหล่อนคิดว่าคนที่ทำจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ไม่รู้เลยว่ะ ช่วงนี้มันอาจจะรอให้เรื่องเงียบสักพักก่อน อีกไม่นานหรอกเดี๋ยวหางมันก็โผล่”
“แล้วตอนนี้น้องเกลเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่รู้ ไม่ได้ติดต่อ หล่อนอย่าพูดถึงยัยชะนีน้อยนั่นอีกได้มั้ย”
“อ่ะๆ ไม่พูดก็ไม่พูด กินข้าวเช้าหรือยัง ไปหาอะไรข้างนอกกินกันมั้ย”
“ยังไม่ได้แต่งหน้าเลย”
“ไปๆ รีบๆแต่ง ผัวก็ไม่มี ไม่รู้จะแต่งไปให้ใครดูนักหนา”
“ก็ฉันชอบให้ตัวเองสวยนี่ หล่อนจะทำไม กินข้าวเสร็จแล้วเราไปเข้าร้านทำเล็บทำผมกันดีมั้ย”
“ไปก็ไป”
ทางด้านปิ่นมุก
ในทุกๆวัน เธอไม่เคยหยุดพักที่จะหางานทำ แต่ก็ยังไม่มีบริษัทไหนรับเธอเข้าทำงานเลยสักที่ ในขณะที่เธอกำลังเดินหางานไปจนทั่ว อยู่ๆเธอก็เดินผ่านเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งกำลังร้องไห้งอแง
ทันใดนั้นเอง เธอก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าวันนั้นเธอลืมคุมกำเนิด เธอลืมไปสนิทเลย มัวแต่คิดถึงแต่เรื่องหางาน แต่มาคิดออกเอาเวลานี้มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว สิ่งที่จะทำได้ตอนนี้ก็คือภาวนา ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย...
