บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ผู้ต้องสงสัย/1

ตอนที่ 4 ผู้ต้องสงสัย/1

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...

ภายในห้องทำงานที่บริษัท ต้นน้ำกำลังนั่งใช้ความคิดอย่างหนักอยู่คนเดียวเงียบๆ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแล้ว เขายังไม่สามารถหาตัวคนวางยาได้เลย คนในบริษัทก็มีกันอยู่แค่ไม่กี่คน ไม่มีใครมีพิรุธเลย

“ยัยเกล...ชะนีน้อย...ตัดทิ้ง” เขากำลังนั่งพูด นั่งคิดอยู่คนเดียว วันนั้นมีคนอยู่ที่หน้าประตูห้องจริงๆเธอไม่ได้โกหก แถมยานั่นเวลาออกฤทธิ์ยังทรมานแทบคลั่งใครมันจะบ้าวางยาตัวเอง ต้นน้ำจึงเลือกที่จะตัดเธอออกจากผู้ต้องสงสัยเป็นคนแรก ซึ่งเวลานี้ก็เป็นเวลาเลิกงานพอดี ทุกคนที่นั่งอยู่ด้านนอกกำลังทยอยกันกลับบ้าน

“คนต่อมา...กีกี้...วันนั้นมันขอกลับบ้านก่อน ไม่ได้นั่งกินอยู่ด้วยกัน” กีกี้เป็นทั้งเพื่อนและพนักงานในบริษัทของเขา ที่ผ่านมากีกี้ทำงานดีมาตลอด ถ้ากีกี้เป็นคนทำ อะไรคือสาเหตุจูงใจ

“อีบอส...ไม่กลับบ้านเหรอ” นึกถึงกีกี้ กีกี้ก็เดินเข้ามา ท่าทางของกีกี้ปกติดีทุกอย่าง แต่เขาก็ยังไม่อยากตัดทิ้งง่ายๆถ้ายังไม่มีความมั่นใจมากพอ

“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” ในขณะที่ต้นน้ำกำลังพูดกับเพื่อน เขาก็มองไปที่ใบหน้าของเพื่อน มองลึกเข้าไปในแววตา เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนวางยาเขาในคืนนั้น

“ทำไมมองฉันแบบนี้ล่ะ” คำถามของเพื่อนทำให้ต้นน้ำหลุบตาต่ำลง ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มหวานๆให้เพื่อน

“ทุกคนกลับไปกันหมดแล้วหรือยัง”

“อือไปกันหมดแล้ว มึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า พักนี้กูรู้สึกว่ามึงดูเงียบๆไปนะ” ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาเงียบไปจริงๆ แต่คนที่เป็นเพื่อนกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน คงไม่แปลกถ้าจะมองออกว่าเขาเปลี่ยนไป

“นั่งลงก่อนสิ มีเรื่องจะบอก” กีกี้รีบทิ้งตัวนั่งลงไปที่เก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานของต้นน้ำทันที สีหน้าอยากรู้อยากเห็นสุดๆ ตามนิสัยของนาง

“เรื่องอะไร เรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี” ไม่ได้ถามเปล่าแต่ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้จนต้นน้ำนึกขำ

“ไม่ดี” เขาตอบเสียงเรียบพร้อมกับมองหน้าเพื่อน ทุกกิริยาของเขาแอบสังเกตพิรุธของคนตรงหน้าไปด้วย บอกตามตรงตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น เขาไม่กล้าไว้ใจใครอีกเลย ไม่ว่าที่ผ่านมาจะเคยสนิทกันมากขนาดไหนก็ตาม

“ว๊าย! ไม่อยากรู้เลยอ่ะ ไหนลองเล่ามาซิ” สีหน้าของกีกี้ดูตกใจในแบบเวอร์ๆ ตามนิสัยของกะเทย ต้นน้ำกรอกตามองบน แล้วพูดกับเพื่อนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มไปว่า...

“แหม! อีเพื่อน...ไม่อยากรู้เลยเนอะ” ปากพูดว่าไม่อยากรู้ แต่ในใจกลับตรงกันข้ามกับปากอย่างสิ้นเชิง

“บริษัทเราช่วงนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ดีนี่หว่า เรื่องอะไรวะ” กีกี้ถามต่อ

“ให้เดา” ทุกประโยคของต้นน้ำ แฝงอะไรบางอย่างเอาไว้ จนกีกี้รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

“เรื่องงานไม่มีปัญหาอะไร ถ้างั้นก็คงเป็นเรื่องส่วนตัว”

“อือ” ต้นน้ำพยักหน้าให้

“อื้อ...ถ้ากะเทยอย่างหล่อนเจอคนที่ชอบ ก็น่าจะเป็นเรื่องดี แต่ทำไมถึงบอกว่าเป็นเรื่องไม่ดีล่ะ”

“ฉันไม่ใช่กะเทย ฉันเป็นผู้หญิง” บุคลิกของต้นน้ำกับกีกี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กีกี้จะออกแนวตุ้งติ้งแต่ต้นน้ำไม่ บุคลิกของเขานิ่ง ใบหน้าสวย เรืองร่างงามสง่า

“อีไม่ยอมรับตัวเอง มึงมีหำใหญ่กว่ากูด้วย” ต้นน้ำเบือนหน้าหนีแต่ก็แอบหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเพื่อน

“กูจะเกลียดมึงก็ตรงนี้แหละ” ชอบเอาเรื่องจริงมาพูด!

“อ่ะๆ เฉลยมาได้แล้ว กลับบ้านช้าเดี๋ยวผัวกูบ่น ปากมันก็ไม่ธรรมดาพอๆกับปากมึงนี่แหละ” กีกี้เร่ง เขาเริ่มอยากรู้ในสิ่งที่เพื่อนกำลังไม่สบายใจ

“กู...”

“กูอะไร!”

“กูจะบอกมึงดีมั้ยนะ” ใบหน้าสวยของต้นน้ำฉีกยิ้มเมื่อได้แกล้งเพื่อน แต่สีหน้าของกีกี้กลับแตกต่างกับต้นน้ำอย่างสิ้นเชิง ราวกับอาจารย์แม่กำลังพิโรธ มองดูแล้วตลกดี

“เอาที่มึงสบายใจเลย ถ้ามึงอยากบอก มึงก็บอก แต่ถ้ามึงไม่อยากบอก มึงก็ไม่ต้องบอก แต่มึงจงจำเอาไว้ ถ้ามึงมีเรื่องไม่สบายใจ กูพร้อมที่จะรับฟังและช่วยมึงแก้ไขปัญหาได้เสมอ...กูกลับบ้านก่อนนะ” กีกี้ลุกขึ้นพรวดพราดจากเก้าอี้ แล้วหันหลังเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานของเพื่อน

“กูเสียตัวไปแล้ว” ทันใดนั้นขาของกีกี้ก็หยุดชะงักทันที

“ห๊ะ!! กับใคร! ที่ไหน! ยังไง!” ในตอนแรกที่ดูเหมือนจะเซ็งๆแต่เมื่อได้ฟังคำตอบ ความรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อสักครู่กลับหายไปจนหมด

“ไม่สะดวกเล่าที่นี่ พรุ่งนี้วันหยุด ถ้ามึงว่างมาหากูที่คอนโดได้มั้ย” ต้นน้ำยังไม่อยากปักใจเชื่อว่าเพื่อนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น และที่นี่ก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเขาอีกต่อไปจนกว่าจะจับตัวคนทำได้ แต่กีกี้กลับมองว่าที่นี่ไม่มีใครแล้ว

“อีนี่! มาทำให้อยากแล้วจากไป แล้วคืนนี้กูจะนอนหลับมั้ยเนี่ย”

“ไปๆกลับบ้านได้แล้ว ผัวรออยู่ไม่ใช่เหรอ”

“อีบอส...มึงจะไม่เล่าตอนนี้จริงๆเหรอ แล้วไหนบอกว่าเป็นเรื่องไม่ดีไง เสียตัวสำหรับกะเทยอย่างเราเป็นเรื่องดีนะโว้ย”

“ดียังไง”

“อย่างน้อยๆก็มีคนเอาไงล่ะ” ที่ผ่านมาถ้าไม่ช่างเลือกป่านนี้ก็คงมีกับเขาแล้ว ไม่ใช่ไม่มีใครเอา เขาสวยขนาดนี้พูดแบบนั้นมันก็ไม่ถูกต้อง

“เฮ้ย...ไม่บอก ปล่อยให้งง พรุ่งนี้ก็คือพรุ่งนี้ กลับๆๆ แยกย้าย อยู่นานเปลืองค่าไฟ”

“มึงจะมาขี้งกอะไรตอนนี้เนี่ย นี่!! จะไม่เล่าจริงๆเหรอ” คนอยากรู้เริ่มหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม

“จะออกหรือไม่ออก ถ้าไม่ออก กูจะขังมึงไว้ในนั้นนะ” ต้นน้ำเร่ง เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังคงยืนเท้าเอวอยู่ในห้องทำงานของเขาไม่ยอมเดินออกมา

“ออก!” กีกี้เดินตามออกไปด้วยท่าทางเหนื่อยหน่ายสุดๆ

ทางด้านปิ่นมุก

หลังจากวันนั้นที่เธอโดนไล่ออก จนมาถึงวันนี้ก็หนึ่งอาทิตย์แล้ว เธอออกหางานทำทุกวัน แต่งานของเธอจะต้องเป็นงานออกแบบเสื้อผ้าเท่านั้น ก็อย่างที่บอกเธอมีความฝัน ซึ่งบริษัทแต่ละที่ ที่เธอไปสมัครงาน ก็ยังไม่มีที่ไหนรับเธอเข้าทำงานเลย พวกเขาบอกว่าเธอไม่มีประสบการณ์ ก็ใช่น่ะสิก็เธอเพิ่งจะเรียนจบมา จะไปเอาประสบการณ์ที่ไหนมา สิ่งที่เธออยากได้จากบริษัทเหล่านั้นก็คือประสบการณ์ แต่ยังไม่มีที่ไหนให้ประสบการณ์กับเธอเลย

Rrrrrrrrr เสียงมือถือส่วนตัวของปิ่นมุกดังขึ้นในช่วงหัวค่ำ

“ค่ะแม่”

“เกลทำอะไรอยู่ลูก กินข้าวหรือยัง”

“กินแล้วค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงเกลนะ เกลดูแลตัวเองได้”

“งานที่ทำเป็นยังไงบ้าง ยากมั้ย”

“ไม่ยากค่ะแม่ หนูจะรีบเก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้วเอาความรู้ไปเปิดร้านที่บ้านของเรานะ”

“แม่จะรอนะ แต่ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านเรา เสียงเกลฟังดูเหนื่อยๆนะ”

“นิดหน่อยค่ะแม่ งานที่ไหนทำแล้วไม่เหนื่อยบ้างล่ะ”

“ก็จริง ดูแลตัวเองด้วย แม่เป็นห่วง”

“ค่ะ หนูจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี รักแม่นะคะ”

“จ้า แม่ก็รักเกลนะ” ทันทีที่สายสนทนาถูกตัดไป น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา เธอไม่อยากโกหก แต่ก็ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ เธอจึงเลือกที่จะโกหกออกไปแบบนั้น เพื่อให้แม่ไม่เป็นห่วง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel