บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

รติชาหอบหิ้วงานกลับมาที่โต๊ะ ไหนจะตารางนัดหมายของปิลันธน์ที่ยาวเป็นหางว่าวนี่ถ้าไม่บอกว่าเขาทำงานบริษัทเธอคงคิดว่าเขาเป็นดาราแน่ๆ คิวงานถึงได้แน่นขนาดนี้ แต่ก็ไม่แปลกใจนักเพราะชายหนุ่มทำธุรกิจหลายตัว ทั้งนำเข้ารถยนต์หรูเป็นเจ้าของรีสอร์ตที่ระยองอีกและที่ฮิตติดลมบนในตอนนี้คือการเช่ารถยนต์หรูรวมถึงสินค้าระดับไฮเอนจากแบรนด์ต่างๆ

แต่ขณะที่กำลังนั่งคิดเรื่องงานของปิลันธน์อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น รติชาสลัดความคิดอื่นออกไปจากหัวแล้วยื่นมือไปคว้ามารับสาย ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรปลายสายก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“คุณ...เข้ามาในห้องผมหน่อย” ถ้ารติชาฟังไม่ผิดน้ำเสียงของปิลันธน์นั้นฟังดูตื่นตระหนกแปลกๆ เธอจึงรีบเข้าไปในห้องทำงานของปิลันธน์ทันที และเมื่อมาถึงสิ่งที่เห็นก็ทำเอาเธอแทบหลุดหัวเราะออกมา

เพราะบนศีรษะของบอสหนุ่มตอนนี้มีตั๊กแตนตำข้าวเกาะอยู่ ซึ่งมันน่าจะเข้ามาตอนที่แม่บ้านเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เจ้าตั๊กแตนตำข้าวค่อยๆ ขยับขายาวๆ ของมันเกาะบนเส้นผมของปิลันธน์ ยิ่งมันขยับชายหนุ่มก็ยิ่งนั่งนิ่ง พร้อมกับส่งสายตามายังรติชาเพื่อขอให้เธอช่วย

“มีอะไรสักตัวอยู่บนหัวผมใช่ไหม” รู้ทั้งรู้ว่ามีแต่ปิลันธน์ก็ยังถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขารับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของมัน แต่สิ่งที่ไม่รู้คือตัวอะไรนั่นเอง

“มีค่ะ”

“อะไร” แม้จะพยายามคุมโทนเสียงให้เป็นปกติ แต่ความตกใจของปิลันธน์ก็แสดงออกผ่านท่าทางที่เวลานี้ บอสหนุ่มนั่งตัวแข็งทื่อ

“อืม...น่าจะเป็นตั๊กแตนตำข้าว” จากลักษณะของแมลงที่เห็นเกาะอยู่บนหัวของปิลันธน์ขณะนี้ รติชาก็พอจะเดาได้ว่าคืออะไร

“คุณกลัวแมลงหรือเปล่า”

“ถ้าเป็นตัวที่อยู่บนหัวบอสฉันไม่ค่อยกลัว”

“งั้นช่วยเอามันออกไปหน่อยได้ไหม พอดีว่าผมไม่ค่อยชอบแมลงบนโลกใบนี้เท่าไหร่ เร็วๆ คุณ มันเริ่มขยับอีกแล้ว” ท้ายประโยคของปิลันธน์เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกสีหน้าก็ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ บนโลกใบนี้สิ่งที่ทำให้เขากลัวมีแค่ไม่กี่อย่าง แต่ที่กลัวมากๆ คือพวกแมลง

“โอเคค่ะๆ เดี๋ยวฉันจัดการให้” รติชาตรงเข้าไปหาปิลันธน์ จากนั้นก็ยื่นมือจับเจ้าตั๊กแตนตำข้าวออกจากศีรษะให้

แต่ดูเหมือนเจ้าตั๊กแตนตำข้าวจะไม่รับความหวังดีนั้นของเธอ เพราะจู่ๆ มันก็กระโดดไปเกาะบนใบหน้าอันหล่อเหลาของปิลันธน์

บอสหนุ่มถึงกับอุทานออกมาเสียงหลงพลอยทำให้รติชาลนลานตามไปอีกคน ส่วนตัวก่อเรื่องกลับไม่สะทกสะท้าน รติชายื่นมือไปจับตั๊กแตนตำข้าวตัวนั้นอีกครั้งคราวนี้เธอจับมันแน่นกว่าเดิมเพราะกลัวจะกระโดดไปเกาะหน้าของปิลันธน์เข้าอีก

“มาได้ยังไง” ปิลันธน์หันมองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวงเพราะกลัวว่าจะมีตั๊กแตนตำข้าวตัวอื่นๆ อยู่ในห้องทำงานอีก

“มันคงบินเข้ามาตอนแม่บ้านเปิดหน้าต่างทิ้งไว้”

“อ้อ” หัวใจของบอสหนุ่มเต้นโครมครามเพราะความกลัวที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้ง แถมยังเผลอแสดงอาการต่อหน้ารติชาเสียอีก

“ฉันเอามันออกไปก่อนดีกว่า” เอ่ยบอกเสร็จรติชาก็เอาตั๊กแตนตำข้าวในมือไปวางไว้นอกหน้าต่างเสร็จก็รีบปิดทันที เพราะไม่อยากให้มันเข้ามาป่วนข้างในซ้ำอีก

“มันไปแล้วหรือยัง”

“กำลังไปค่ะ อีกสักพักคงไม่อยู่แล้ว”

“โล่งอกไปที” ท่าทางของปิลันธน์ทำให้รติชานึกขำ เพราะไม่คิดว่าผู้ชายตัวโตอย่างเขาจะกลัวแมลงตัวเล็กๆ แบบนั้นได้ แถมยังดูกลัวมากเสียด้วย

“บอสกลัวแมลงหรือคะ”

“ไม่ได้กลัวแค่ไม่ชอบ” รติชาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะให้กับคำตอบของปิลันธน์ สรุปง่ายๆ คือเขากลัวแมลงนั่นแหละไม่ต้องสืบ

“ไม่ได้กลัวก็ไม่ได้กลัวค่ะ”

“ขอบคุณมาก ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่เหมือนกัน” คนไม่กลัวเอ่ยบอกใบหน้ายังคงซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด เพราะเขาเคยถูกผึ้งรุมต่อยเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก นั่นคือเหตุการณ์ที่ปิลันธน์ยังคงจำฝังใจมาจนถึงตอนนี้ ส่งผลให้เขากลัวแมลงทุกชนิดโดยเฉพาะที่มีเหล็กใน

“ค่ะ”

“แล้วนี่คุณได้ไปเยี่ยมคุณเอมบ้างหรือยัง” ปิลันธน์เปลี่ยนเรื่อง แต่ก็ยังแอบระแวงหน้าต่างห้องทำงานอยู่เล็กน้อย

“ยังค่ะ ตั้งใจว่าวันนี้เลิกงานแล้วจะแวะไป”

“ผมฝากเยี่ยมด้วย พอดีช่วงนี้ติดงานเลยปลีกตัวไม่ค่อยได้”

“ค่ะบอส”

“คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ”

“ค่ะ” รติชาเอ่ยรับแล้วออกไปจากห้องทำงานของปิลันธน์ ช่วงบ่ายเธอยังคงยุ่งจนแทบไม่มีเวลาทำอะไร พึ่งรู้ว่าการเป็นเลขาของปิลันธน์มันทำให้เธอยุ่งจนหัวหมุนก็วันนี้ แต่ข้อดีของมันคือทำให้เวลาในแต่ละวันผ่านไปเร็ว รติชารู้ตัวอีกทีคือได้เวลาเลิกงานแล้ว ก่อนจะออกไปเธอเข้าไปบอกบอสหนุ่มเล็กน้อยซึ่งปิลันธน์ก็พยักหน้ารับ

เมื่อออกจากบริษัทรติชาก็ตรงไปยังโรงพยาบาลทันที เธอหอบหิ้วของมากมายไปเยี่ยมคุณแม่มือใหม่อย่างอรสาและได้เจอน้องอุ่นเป็นครั้งแรก ทารกหญิงอายุสองวันที่มีหน้าตาละม้ายพ่อและแม่อย่างเห็นได้ชัด

“น่ารักน่าชังจังเลย” รติชาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มแดงๆ ของหลานสาวไปมาอย่างอ่อนโยน

“เสียงก็ดีด้วยนะ เมื่อคืนร้องทั้งคืน”

“ก็หนูยังไม่ชินนี่คะแม่ โลกมันกว้างเกินไปสำหรับหนูค่ะ” รติชาทำเสียงน่ารักๆ ราวกับตัวเองเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่เวลานี้หลับสนิทอยู่เสียเอง

“ทำงานเป็นไงบ้าง” อรสาเอ่ยถามขึ้น แต่ก็มั่นใจว่ารติชาทำงานได้ดีแน่

“ยุ่งมากค่ะ พึ่งรู้ว่างานพี่เอมยุ่งขนาดนี้”

“อีกหน่อยก็ชิน แล้วคิดว่าบอสเป็นไงบ้างจ๊ะ”

“สุขุม เงียบ งานยุ่งตลอดเวลา งานต้องเป๊ะด้วยและที่สำคัญกลัวแมลง”

“ปิ่นรู้ได้ยังไงว่าบอสกลัวแมลง” คุณแม่มือใหม่เอ่ยถามอย่างแปลกใจที่รติชารู้เรื่องส่วนตัวข้อนี้ของปิลันธน์

“ก็วันนี้มีตั๊กแตนตำข้าวจากไหนไม่รู้กระโดดเกาะหัวบอสถึงกับโทรเรียกให้ปิ่นเข้าไปจับออกให้นะสิคะ” รติชาเล่าเหตุการณ์ให้อรสาฟังคร่าวๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel