ตอนที่ 3 ใต้โต๊ะทำงาน
ตอนที่ 3
ใต้โต๊ะทำงาน
เช้าวันถัดมา… แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องน้ำสุดหรูของเพนต์เฮาส์ใจกลางเมือง อคิน ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ มองสำรวจเงาสะท้อนของตนเอง ใบหน้าคมคายยังคงเคร่งขรึมและสุขุมตามปกติ แต่ทว่าดวงตาคู่คมนั้นกลับฉายแววหม่นลึกและมีประกายบางอย่างที่แตกต่างไปจากทุกวัน
เป็นเพราะเมื่อคืน… เขาไม่ใช่ประธานอคินผู้ทรงอำนาจที่เคร่งขรึม เย็นชา และใจแข็งอย่างที่ทุกคนรู้จัก
แต่เขา… คือชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่ยอมละทิ้งทุกความยับยั้งชั่งใจ ปลดปล่อยความปรารถนาที่ซ่อนเร้นไว้ เพื่อเด็กสาวตัวเล็กบอบบางที่ยังคงหลับสนิทอยู่ในห้องนอนของเขาและเขาก็ไม่คิดจะยอมเสียเธอให้ใครหน้าไหนอีกแล้ว… ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
ณ บริษัทอคิน กรุ๊ปเวลา 10:30 น. ท้องฟ้ายังคงสดใส แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้องทำงานเงียบสงบของท่านประธาน
เสียงเคาะรองเท้าส้นเข็มกระทบพื้นเบาๆ ดังเข้ามาในห้องทำงานอย่างเชื่องช้า แต่กลับดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี พร้อมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนหวานที่ผสมผสานความสดชื่นแบบเด็กสาว ลอยอวลเข้ามาอย่างแผ่วเบา
ลันนา ก้าวเข้ามาในห้องทำงานด้วยชุดกระโปรงทรงดินสอสีเบจอ่อน ที่รัดรูปพอดีตัวเผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวที่ได้รูปงดงาม เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อน เนื้อผ้าพลิ้วไหว พับแขนเสื้อขึ้นมาเล็กน้อยอย่างเป็นธรรมชาติ เผยให้เห็นข้อมือเรียวสวยและเส้นเลือดสีเขียวอ่อนที่ซ่อนอยู่ใต้ผิว ต้นคอขาวผ่องที่ดูระหงนั้นถูกเปิดเผยอย่างไม่ตั้งใจจากการที่เธอรวบผมสูงขึ้นไปอย่างเรียบง่าย ทำให้มันดูน่าจูบและน่าสัมผัสเสียเหลือเกิน
เธอก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อวางแฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานตรงหน้าเขา…
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานมองเธอจากมุมต่ำ
ปลายกระโปรงทรงดินสอที่รัดรูปอยู่แล้วนั้น ร่นสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่อเธอก้มตัว
เผยให้เห็นผิวเนื้อเนียนละเอียดผุดผ่องราวกับน้ำนม และเรียวขาเล็กเรียวยาวขาวจัดที่ทอดลงมาอย่างงดงามกระทบกับแสงอ่อนๆ จากกระจกบานใหญ่ด้านหลัง
ภาพตรงหน้าทำให้บอสที่เคยนิ่งเฉย สุขุม และควบคุมตัวเองได้ดีเยี่ยมมาตลอด แทบจะสะกดกลั้นความต้องการที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
“คุณตั้งใจจะมายั่วผมเหรอ ลันนา”
เสียงทุ้มต่ำที่แหบพร่าเอ่ยขึ้นชิดอยู่ด้านหลังของเธอ ทำให้หญิงสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
“ฮะ…หา?” เธอรีบหันกลับมา ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความประหลาดใจ มือเล็กๆ ยังคงถือแฟ้มค้างไว้กลางอากาศ
อคินลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน เดินอ้อมโต๊ะตัวใหญ่มหึมามาหยุดยืนตรงหน้าเธอ ก่อนจะก้มลงกระซิบชิดใบหูเล็กของเธอด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอรู้สึกวาบหวามไปทั้งตัว
“รู้ไหม...ท่าที่คุณก้มเมื่อครู่น่ะ...มันยั่วจนผมอยากลากคุณลงไปใต้โต๊ะเดี๋ยวนี้เลย”
“บอส…” ลันนาหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู หัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งราวกับจะหลุดออกมาจากอกให้ได้
ไม่ทันให้เธอได้ทันตั้งตัว หรือแม้แต่จะได้เอ่ยคำใดๆ ออกไปอีก บอสก็ดันตัวเธอเบาๆ จนร่างบอบบางถอยหลังไปกระแทกกับขอบโต๊ะทำงานอย่างแผ่วเบา และก้มลงประกบริมฝีปากร้อนจัดของเขาเข้ากับริมฝีปากนุ่มนิ่มของเธออย่างรวดเร็วและร้อนแรง
จูบนั้นไม่ใช่การเริ่มต้นอย่างอ่อนโยนเหมือนครั้งไหนๆ … แต่มันเต็มไปด้วยความต้องการที่พุ่งพล่าน ความหิวกระหายที่เก็บกดมาตลอด และการกักเก็บอารมณ์ที่รอคอยการปลดปล่อย
เขาดึงร่างของเธอเข้ามาแนบชิดติดกับกายแกร่งของเขา ใบหน้าของเขากดแนบชิดกับใบหน้าของเธอ ลมหายใจร้อนระอุบดขยี้ทุกจังหวะการหายใจของเธอให้ปั่นป่วน
มือหนาที่ร้อนระอุราวกับไฟค่อยๆ ลูบไล่จากเอวคอดกิ่วของเธอขึ้นไปใต้ชายเสื้อเชิ้ต สัมผัสผ่านผิวเนื้อเนียนเรียบที่นุ่มละมุน ลูบไล้ขึ้นไปจนถึงขอบบราตัวบางอย่างแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความต้องการ ก่อนที่เขาจะดันเธอให้ถอยหลังลงไปอีกเล็กน้อย… จนเขาเองได้นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ของเขา และดึงเธอลงมานั่งคร่อมบนตักของเขาอย่างแนบชิด
ฉากรักอันร้อนแรงใต้โต๊ะทำงานอันหรูหรา เริ่มต้นขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
เสียงลมหายใจที่สั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ของทั้งคู่ ดังก้องอยู่ใต้โต๊ะทำงานหรูหราที่ปกคลุมด้วยความลับ
มือของเขาสอดผ่านกระโปรงทรงดินสอเนื้อดีที่รัดรูปของเธอ ดึงกางเกงในตัวเล็กจิ๋วลงอย่างง่ายดาย ราวกับเขาชินกับการลอกเปลือกห่อของขวัญที่งดงามชิ้นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
“ข้างนอกมีคนอยู่นะคะ...บอส…” เสียงของเธอกระซิบแผ่วเบาด้วยความกังวล
“ดีสิ...ยิ่งเราต้องเก็บเสียง ผมยิ่งตื่นเต้น…”
เขากระซิบตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยความยั่วยวน พร้อมดันร่างของเธอลงบนเข่าของเขา กลางหว่างขาในท่าที่…เธอแทบไม่กล้าคิดว่าตัวเองจะกล้าทำมันในเวลานี้
ริมฝีปากของเธอยังคงสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น มือเล็กๆ ของเธอสัมผัสลงบนต้นขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของเขาอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เธอจะเริ่มดูแลเขาอย่างเชื่องช้า ร้อนแรง และไร้เดียงสาในเวลาเดียวกัน ทำให้เขาแทบจะควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่
เสียงหายใจของเขาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มืออีกข้างของเขาลูบไล้ต้นขาด้านในของเธออย่างเชื่องช้าและแผ่วเบา
ปลายนิ้วของเขาลากไล้ไปตามผิวขาวนวลอย่างเจ้าเล่ห์ ยั่วยวน จนเธอสะดุ้งเผลอกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อสะกดกลั้นเสียงครางที่กำลังจะหลุดออกมา
“บอส…อย่าแกล้งสิคะ...”
“ถ้าอยากให้หยุดก็ครางเบาๆ สิ ลันนา”
จากนั้น เขาไม่รออีกแล้ว… ความอดทนของเขาหมดลงแล้ว เขาดึงร่างของเธอขึ้นมานั่งบนตักอีกครั้งในท่าคร่อมที่แนบแน่นสนิทยิ่งกว่าเดิม
มือหนาแกร่งของเขาประคองสะโพกบางมนของเธอไว้มั่น รั้งเธอลงมาจนแนบสนิทในชั่ววินาที
เสียงหอบหายใจหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังอื้ออึงไปทั่วบริเวณใต้โต๊ะ เสียงลมหายใจสั่นไหวด้วยความปรารถนา
ลันนาจิกบ่าเขาแน่นด้วยปลายนิ้วที่ขาวซีด จนเสื้อนอกสูทเนื้อดีที่ไหล่ของเขาเคลื่อนหลุดลงไปเล็กน้อย
ทุกจังหวะที่เขากระแทกขึ้นมา… ทำให้สติของเธอแทบจะปลิวหายไปในห้วงแห่งความเร่าร้อน
เขากัดใบหูเธอเบาๆ กระซิบแผ่วด้วยเสียงแหบพร่าที่ทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ครางไม่ได้ใช่ไหม...งั้นผมจะทำให้คุณต้องกัดปากจนเลือดซิบเลย”
แรงกระแทกกระชั้นถี่ขึ้น บั้นท้ายแน่นกระชับของเขาโหมกดเข้าหาในจังหวะที่แม่นยำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รุนแรงแต่ไม่เคยหยาบกระด้าง
เขาเร่าร้อน…แต่กลับอ่อนโยนในเวลาเดียวกันอย่างน่าเหลือเชื่อ
จนในที่สุด ร่างของเธอก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ปลายนิ้วทั้งสองข้างกอดรัดคอเขาแน่นอย่างห้ามไม่อยู่
“อะ…อะคิน…บอส…!”
“อย่าเรียกชื่อผมแบบนั้น...ถ้าไม่อยากให้ผมทำมากกว่านี้”
เมื่อเธอหมดแรงซบกับอกกว้างของเขา เสียงลมหายใจของคนทั้งสองก็ยังคงประสานกันอย่างหนักหน่วงและสม่ำเสมอ
เขาประคองใบหน้าเธอให้เงยขึ้นสบตา แล้วจูบหน้าผากของเธอเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน
“คราวหน้าถ้าคุณก้มอีกครั้งแบบเมื่อเช้า…อย่าหวังว่าจะได้ประชุมกันทั้งวัน”
