บทย่อ
แค่เธอบอกว่าเหงา…เขากลับตอบสนองด้วยร่างกาย และกลืนกินหัวใจเธอไปทั้งดวง ลันนา…เลขาสาวตัวเล็กที่ไม่เคยคาดฝันว่า คำว่า “บอสขา...หนูเหงา” ที่เธอเขียนเล่น ๆ บนโพสต์อิทจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเกมพิศวาสที่เผาใจ อคิน พิชญะเมธา ท่านประธานสุดหล่อ กลับปล่อยให้ไฟราคะพาเขากลืนเธอเข้าไปในโลกส่วนตัวอันเร่าร้อน ที่ไม่มีใครหลุดรอดได้
ตอนที่ 1 คนสวยของบอส
ตอนที่ 1
คนสวยของบอส
แสงแรกของอรุณรุ่งสาดส่องทอดผ่านกระจกบานใหญ่จรดพื้น ภายในห้องทำงานส่วนตัวสุดหรูที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของอาคารสำนักงานใหญ่อคิน กรุ๊ปบรรยากาศภายในห้องนั้นอบอวลไปด้วยความเคร่งขรึมและระเบียบวินัยอันเข้มงวด ชนิดที่ว่าแทบจะสัมผัสได้ในทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์สีเข้มที่ดูแข็งแกร่งมั่นคง โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ถูกจัดวางไว้อย่างเรียบเฉียบปราศจากสิ่งของรกรุงรัง ไปจนถึงโซฟาหนังแท้สีเทาเข้มเงาวับที่ดูโอ่อ่าภูมิฐานเสียจนลันนาแอบคิดในใจว่ามันคงมีราคาสูงกว่าเงินเดือนเลขาฝึกหัดทั้งปีของเธอเสียอีก
ลันนา ในวัยยี่สิบสองปีบริบูรณ์ ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานด้วยท่วงท่าที่ดูเรียบร้อยสงบเสงี่ยม ใบหน้าเล็กรูปไข่ฉายแววตั้งใจ แต่ในดวงตากลมโตคู่สวยที่ประดับอยู่บนใบหน้านั้นกลับมีประกายระยิบระยับของความตื่นเต้นที่ยากจะห้ามไหวฉายชัด
นี่ไม่ใช่เพียงวันแรกที่เธอได้เริ่มต้นทำงานในบริษัทแห่งนี้… หากแต่เป็นวันแรกอันแสนพิเศษที่เธอได้ก้าวขึ้นมาเป็นเลขาประจำตัวของท่าประธานอคินตำแหน่งที่ใครหลายคนต่างหมายปอง
อคิน พิชญะเมธา ชายหนุ่มผู้มีอายุสามสิบเจ็ดปีเต็มเปี่ยมไปด้วยบารมีและรังสีแห่งอำนาจที่แผ่ออกมาอย่างเด่นชัด นัยน์ตาสีเทาน้ำตาลของเขาดูคมกริบและลึกล้ำราวกับห้วงมหาสมุทร เขามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เลื่องลือในวงการธุรกิจในฉายาโคตรนิ่ง แต่หล่อกระชากวิญญาณ และแน่นอนว่าเขาคือบอส เพียงคนเดียวที่ลันนาแอบมอง แอบชื่นชมผ่านกระจกหน้าต่างห้องทำงานมาตลอดระยะเวลาหกเดือนที่เธอทำงานในฐานะเลขาแผนกย่อย
“อย่าหลุดยิ้มนะลันนา! เก็บอาการไว้! อย่ากรี๊ด! อย่ากระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่น!” เธอกำชับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ พยายามสงบจิตสงบใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทันใดนั้น… แกร๊ก...
เสียงลูกบิดประตูหมุน พร้อมกับบานประตูที่ถูกเปิดออกช้า ๆ เผยให้เห็นร่างสูงสง่าในชุดสูทดำเรียบเฉียบ ที่ก้าวเข้ามาในห้องด้วยจังหวะที่มั่นคง หนักแน่น และเต็มไปด้วยพลังอำนาจ
กลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังที่ผสมผสานความหอมสดชื่นปนความเย้ายวนอันเป็นเอกลักษณ์ ลอยอวลแผ่คลื่นความเย็นยะเยือกที่แฝงความร้อนแรงบางอย่าง เข้าปะทะกับทุกโสตประสาทการรับรู้ของเธอในทันที
“คุณลันนา?” เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจเอ่ยเรียกชื่อเธอขึ้นมา ดวงตาคู่คมกริบคู่นั้นจับจ้องมายังเธออย่างพินิจพิเคราะห์และเฉียบคม ราวกับกำลังประเมินทุกอณู
“ค่ะ! ลันนา รายงานตัวค่ะ!” ลันนาตอบรับเสียงดังฟังชัด เธอยืนตัวตรงแน่นิ่งราวกับทหารเกณฑ์ที่กำลังทำความเคารพผู้บังคับบัญชา ก่อนจะรีบยื่นแฟ้มตารางงานที่เตรียมมาอย่างดีส่งให้ชายหนุ่มตรงหน้า
ชายหนุ่มรับแฟ้มจากมือเรียวเล็กของเธอ พลางเหลือบมองนิ้วเรียวยาวที่ยังคงเกาะเกี่ยวอยู่ที่มุมปกแฟ้มเบา ๆ ดวงตาของเขาฉายแววความสงสัย… และบางสิ่งบางอย่างที่เกินกว่าคำว่าความสงสัยธรรมดา ๆ
“คุณเป็นคนแปะโพสต์อิทนี่?” เขาเอ่ยถาม พลางเปิดแฟ้มเอกสารออก ก่อนจะชูแผ่นโพสต์อิทสีชมพูเล็ก ๆ ที่ถูกแปะอยู่ตรงมุมด้านบนขึ้นมาให้เธอดู
บนแผ่นโพสต์อิทสีหวานนั้นปรากฏลายมือน่ารัก ๆ เขียนเอาไว้ว่า...
“บอสขา...หนูเหงา” พร้อมกับรูปหัวใจดวงเล็ก ๆ หนึ่งดวง
“อ๊ะ! มะ...ไม่ใช่ค่ะ!” ลันนารีบปฏิเสธเสียงหลง ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำไปถึงใบหู หัวใจของเธอแทบจะหยุดเต้นลงตรงนั้น
โอ้พระเจ้า! เธอแปะมันไว้เล่น ๆ ตอนกำลังจัดเอกสารอยู่ในห้องพักส่วนตัว ไม่ได้คิดเลยแม้แต่นิดเดียวว่ามันจะหลุดมาติดแฟ้มที่กำลังจะส่งให้บอส! ความซวยอะไรจะเกิดขึ้นในวันแรกของการทำงานขนาดนี้!
“เหรอ...” อคินกระตุกยิ้มมุมปากน้อย ๆ อย่างคนที่จับโกหกได้คาหนังคาเขา รอยยิ้มนั้นไม่ได้ดูอ่อนโยน แต่กลับแฝงความร้ายกาจไว้อย่างร้ายกาจ
“คุณชอบเขียนคำแบบนี้กับเอกสารงานหรือครับ เลขาคนสวย”
เสียงทุ้มนั้นไม่ได้ดังมากนัก...แต่มันกลับกระซิบสะกดลึกลงไปในจิตใจของเธอ ราวกับเป็นคำสั่งอันเย้ายวนจากปีศาจรูปหล่อที่กำลังใช้มนต์สะกดเธอให้ตกอยู่ในภวังค์ ลันนาแทบจะยืนไม่อยู่ เธอรีบก้มหน้าหลบสายตาคมกริบคู่นั้น พลางพยายามเบี่ยงประเด็นด้วยการชี้ไปยังตารางการประชุมที่อยู่ในแฟ้ม
“เอ่อ...วันนี้บอสมีประชุมบอร์ดบริหารตอนสิบเอ็ดโมงค่ะ แล้วตอนบ่ายสองมีพรีเซนต์งานกับทีมต่างประเทศ ทางแผนกไอทีได้ส่งรายงานอัปเดตมาให้เรียบร้อยแล้ว ลันนาได้แนบไว้ในแฟ้มเรียบร้อยแล้วค่ะ”
อคินมองเธออีกครั้งด้วยสายตาที่ลึกซึ้งยากจะคาดเดา ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินผ่านเธอตรงไปยังโต๊ะทำงานของเขาอย่างช้า ๆแต่ในจังหวะที่เขากำลังเดินผ่านด้านข้างเธอไปนั้น
มือหนาใหญ่ของเขากลับเลื่อนไปแตะที่หัวไหล่ของเธอแผ่วเบา สัมผัสเพียงเสี้ยววินาที
สัมผัสนั้นไม่ได้หนักหน่วง ไม่ได้ล่วงเกิน แต่กระนั้น มันกลับทำให้หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำรุนแรงยิ่งกว่าเสียงกลองใหญ่ในคอนเสิร์ตใหญ่ มันเป็นสัมผัสที่บางเบา แต่กลับทิ้งร่องรอยความร้อนรุ่มและหวามไหวไว้ในใจของเธอ
และเขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่เบาลงกว่าเดิม เสียงนั้นกระซิบแผ่วราวกับสายลม แต่กลับแทรกซึมเข้าสู่ห้วงลึกของจิตใจเธอ
“ถ้าเหงาอีก...กระซิบมาก็ได้นะ ไม่ต้องแปะโพสต์อิทให้เปลืองกระดาษ”
แล้วเขาก็เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นน้ำหอมหอมอ่อน ๆ ที่ยังคงอบอวลอยู่รอบกายเธอ และคำพูดที่กำลังลุกลาม แผ่ขยายความร้อนรุ่มอยู่ในใจของเธออย่างรวดเร็ว
ลันนาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาหนังแท้สีเทาเข้มเบา ๆ ราวกับไร้เรี่ยวแรง พลางยกมือเรียวขึ้นแตะแก้มตัวเองที่ร้อนผ่าวราวกับถูกไฟลน
“ตายแล้วววววววววววววววว!”
เธอกรีดร้องออกมาในใจอย่างสุดเสียง มือข้างหนึ่งทาบลงบนอกที่เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง ส่วนอีกมือหนึ่งกุมหน้าตักตัวเองไว้แน่นราวกับต้องการยึดเหนี่ยวตัวเองไว้ไม่ให้ล้มลงไปนี่มัน…แค่เช้าวันแรกของการทำงานเท่านั้นเองนะ! จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอีกเนี่ย!

