บท
ตั้งค่า

1/3

“อะไรกันเนี่ย รถก็พัง โทรศัพท์ก็แบตหมด ให้มันได้อย่างนี้สิน่า แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้”

ในขณะที่เธอเปิดฝากระโปรงรถเพื่อดูว่าอะไรรวน รถคันนี้เธอใช้มาหลายปีแล้วคงถึงเวลาที่ต้องซ่อมเสียล่ะมั้ง พอเปิดปุ๊บความร้อนก็พวยพุ่งจนต้องกระโดดหนี แต่ยังมีสติงัดเหล็กขึ้นค้ำเพื่อให้ฝากระโปรงเปิดขึ้นระบายความร้อนได้สะดวก

“โอ๊ย...แล้วจะทำยังไงล่ะนี่ ญาญ่าเอ๋ย”

แล้วญารินดาก็ต้องทำในสิ่งที่เห็นใครหลายคนทำในเวลาตกทุกข์ได้ยากเช่นนี้ นั่นก็คือการโบกมือเรียกให้รถที่ผ่านไปมาหยุดช่วย ได้ผลมีรถกระบะคันหนึ่งจอดหน้ารถเธอ ชายฉกรรจ์ 2 คนที่ลงจากรถทำให้หญิงสาวนึกกลัว

“รถเป็นอะไรหรือครับ” คนหนึ่งถาม

“ไม่ทราบค่ะ อยู่ดีๆ ก็มีควันขึ้นโฉ่อย่างที่เห็น”

ชาย 2 คนนั้น เดินเข้ามาดูเครื่องยนต์เพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองเธออย่างสำรวจไปทั่วร่าง วันนี้ญารินดาอยู่ในชุดสบายๆ เสื้อแขนกุดกับกางเกงสามส่วนและรองเท้าส้นเตี้ย ดูๆ แล้วก็ไม่น่าจะเตะตาใครต่อใคร แต่เธอคิดผิด

“อ้าว...น้องญาญ่านักร้องดังนี่ แหม...ตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีกว่ามั้ยวะไอ้แมน” คนตัวเตี้ยกว่าเป็นคนบอกคนตัวสูง

“เออว่ะ สวยจริงๆ ด้วย ผิวเนียนขาวเชียว” มันชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ จนหญิงสาวต้องเอนตัวหนี “กลิ่นตัวก็หอมซะด้วย”

“ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ก็กลับไปที่รถของคุณเถอะค่ะ” เธอบอกเสียงสั่น แต่อย่าหวังว่าคนคิดชั่วจะเชื่อ

“ช่วยสิจ๊ะ ทำไมพี่จะไม่ช่วยน้องล่ะ ช่วยพาน้องขึ้นสวรรค์ไง ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”

ญารินดาหมุนตัวออกวิ่งแต่เธอไปได้เพียง 2 ก้าว พวงผมยาวสลวยเหยียดตรงก็ถูกกระชากเต็มแรง

“กรี๊ด!!! ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย โอ๊ย...ปล่อยนะ” เธอหันไปถีบเมื่อมันเผลอ มันเพียงแต่เซถลา แต่อีกคนกลับพุ่งเข้ามาจับแขนเธอไว้ ญารินดาหวาดกลัวสุดขีด หายใจหอบจนทรวงอกอวบสะท้อนขึ้นลงรุนแรง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก ไม่คาดคิดว่าแม้แต่ในเวลากลางวันริมถนนที่มีรถวิ่งกันขวักไขว่ จะมีพวกเดนสังคมคิดชั่วกระทำการอย่างอุกอาจ

“ปี๊นๆๆ” รถสปอร์ตสีขาวคันงามจอดลงใกล้ๆ ก่อนที่คนขับจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปช่วยเธออย่างอาจหาญ พวกมันคงจะไม่กลัวหากไม่เห็นวัตถุอันตรายในมือชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เข้าเสียก่อน

“ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ”

เสียงข่มขู่ไม่น่ากลัวเท่ากับเขาปลดเซฟเตรียมพร้อม เสียง “กริ๊ก” เบาๆ แต่ก็ทำให้เดนมนุษย์ผวาแล้วโกยแนบไปจากตรงนั้น เสียงล้อรถที่ออกตัวอย่างรวดเร็วทำให้ญารินดาต้องถอนใจเฮือกใหญ่

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

ชายหนุ่มร่างสูงเห็นท่าทางยืนนิ่งเฉยของเธอ จึงต้องเรียกถามอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวตอบ แต่ชายหนุ่มซึ่งกำลังจ้องตาเธอมองเห็นความไม่เชื่อใจเขาเต็มเปี่ยม เขาทำเสียงบางอย่างในลำคอ

“ฮึ...นี่อย่าคิดว่าฉันจะชั่วได้เท่ามันนะ” คำขอบคุณที่มาพร้อมกับดวงตาไหวระริก ทำให้ชายหนุ่มบ่นและเบือนหน้าหนีจัดการเก็บปืนของตนเข้าที่

“ปละ...เปล่านะคะ ญาญ่าขอบคุณคุณจริงๆ ค่ะ”

“แล้วรถเป็นอะไร ทำไมควันโขมงแบบนั้น”

“ไม่ทราบค่ะ ขับมาอยู่ดีๆ มันก็เป็นแบบนี้ ฉันจะโทรหาเพื่อนให้ช่วยมาดูมือถือก็แบตหมดซะได้”

ร่างสูงถลกแขนเสื้อจับโน่นดูนี่เหมือนคนรู้จักเครื่องยนต์เป็นอย่างดี ก่อนเขาจะเข้าไปชะโงกหน้าดูปริมาณความร้อนที่หน้าปัด

“โอ๊ย...นี่เธอขับรถภาษาอะไร ถึงปล่อยให้หม้อน้ำแห้งแบบนี้ ความร้อนมันก็ขึ้นน่ะสิ”

“อะไรนะคะ หม้อน้ำแห้ง?”

“ใช่สิ ผู้หญิงก็แบบนี้ สักแต่ว่าขับเป็นอย่างเดียว ดูอะไรไม่เป็นสักอย่าง”

ญารินดาหน้างอเมื่อถูกต่อว่า เธอผิดที่ไม่ได้ดูเพราะทุกวันต้องรีบออกไปทำงานแบบไม่เป็นเวล่ำเวลา บางวันก็มีรถมารับ ไม่คิดว่าถ้าทำให้หม้อน้ำแห้งจะเป็นแบบนี้ มีแต่มุกรตีที่จะคอยเตือนให้เธอเอารถไปตรวจเช็กเสมอ ถ้างานยุ่งๆ พวกเธอทั้งคู่ก็หลงลืมกันได้นี่นา

“จะแก้ไขยังไงได้คะ”

เธอไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขา เพราะตอนนี้เขาคือที่พึ่งเพียงคนเดียวของเธอ และหวังว่าจะไว้ใจได้

“ร้อนขนาดนี้ฝาสูบคงโก่งไปแล้ว ต้องลากลูกเดียว ลากเข้าอู่ ให้ช่างซ่อม หรือไม่ก็โทรเรียกให้อู่มาลากไป”

หญิงสาวหน้าเสีย มองซ้ายมองขวาหาตู้โทรศัพท์ แต่เธอจะโทรไปหาช่างที่ไหนล่ะ

“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจแรงๆ จากร่างสูง เหมือนไม่พอใจเธอนักหนา ก่อนที่เขาจะใช้มือถือของตนต่อสายเรียกอู่ให้มาลาก “เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวจะมีรถจากอู่มาลากไปซ่อม เธอก็รออยู่ที่นี่แล้วกันนะ”

ญารินดาผวาเข้าไปเกาะแขนล่ำสันทันที ก็เธอเพิ่งจะผ่านเรื่องร้ายๆ มาไม่กี่นาที เขาซึ่งเป็นที่พึ่งคนเดียวจะทิ้งเธอซะแล้วเหรอ

“อย่าเพิ่งไปเลยนะคะ ขอร้องเถอะ อยู่กับฉันจนกว่ารถจะมาลากได้ไหม”

“ไม่ได้ ฉันมีงานต้องทำเยอะแยะ ไม่มีเวลาจะมาอยู่เป็นเพื่อนใคร ถ้ากลัวก็โทรหาตำรวจและบอกให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนซะ...เอ้า” เขาส่งโทรศัพท์ให้

ญารินดาลังเลว่าควรจะโทรหาตำรวจหรือไม่ แต่ในที่สุดเมื่อไม่มีทางเลือก เธอก็รับมือถือสุดไฮเทคของเขามากดเบอร์ 191 แล้วแจ้งความประสงค์พร้อมกับเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟังโดยละเอียด

“ขอบคุณนะคะ สำหรับทุกอย่าง” เธอขอบคุณผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง ถ้าเขาไม่เข้ามาช่วยเธอคงแย่แน่

“ไม่เป็นไรหรอก”

หญิงสาวมองตามร่างสูงที่เดินไปขึ้นรถ แล้วขับจากไปไม่คิดจะอยู่รอเป็นเพื่อนเธอ แต่ตำรวจก็มาเร็วทันใจ หญิงสาวจึงโล่งอก

“เธอไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เพราะอีกไม่นานเธอจะต้องมาวิงวอนขอร้องฉัน” คนขับรถสปอร์ตพูดกับตัวเอง หากแต่ตาคมสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองร่างบางจากกระจกมองหลัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel