บทนำ /2
หลังจากนั้น ญารินดาก็ได้รับการบำบัดทางจิตด้วยยาและศิลปะการวาดภาพ หมอสังเกตว่าภาพวาดของเด็กน้อยก็เป็นภาพธรรมดาๆ มีบ้าน มีต้นไม้ มีนก มีก้อนเมฆ ภาพนั้นไม่บอกสภาพทางจิตใจของเธอเลย จากการพูดคุยกับเด็กหญิงก็ดูเป็นปกติ เพียงแต่นัยน์ตาโศกเศร้าคู่นั้นที่ดูจะระแวดระวังกว่าปกติ
“หนู...โตขึ้นอยากเป็นอะไรครับ”
หมอหนุ่มถามเสียงนุ่ม ใบหน้าขาวใสของหมอมีรอยยิ้มหวานมอบให้เด็กสาวทุกครั้ง
“ญาอยากเป็นนักร้องค่ะ แต่แม่บอกว่าควรจะเรียนหนังสือให้จบก่อน”
“ถ้างั้น หมอจะให้หนูหัดร้องเพลง ดีมั้ยเอ่ย”
เด็กหญิงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที ดูเผินๆ ก็เป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรผิดแผกจากเด็กคนอื่น
“ได้เหรอคะ ญายังเรียนไม่จบเลย”
“ได้สิ ถ้าร้องเพลงเพราะ หมอจะส่งหนูเข้าประกวดร้องเพลงเลย ดีมั้ย”
“โห...ประกวดร้องเพลงเลยเหรอคะ” เด็กสาวทำตาโตปากจู๋ได้อย่างน่ารัก “แต่...แม่จะให้ประกวดหรือคะ แม่อยากให้ญาเรียนให้จบมากกว่า แม่บอกว่าอีกแค่ 3 ปี ญาก็จะจบ ม.3 แล้ว”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวหมอจะคุยกับแม่หนูให้”
เด็กหญิงญารินดามองหมอหนุ่มอย่างดีใจ และหวังว่าคำขอของหมอหนุ่มจะทำให้แม่ของเธออนุญาต บางทีได้ทำอะไรที่ตนชอบอาจทำให้เธอลืมความฝันอันน่ากลัวนั้นก็เป็นไปได้
นางสมศรีอนุญาตให้เธอเรียนร้องเพลง โดยหมอหนุ่มเอื้อเฟื้อเงินทุนการเข้าคอร์สเรียนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มีข้อแม้ว่าจันทร์-ศุกร์ ญารินดาจะต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เด็กสาวยอมทำทุกอย่างเพียงเพราะต้องการเรียนร้องเพลง ความใฝ่ฝันของเธอคือการได้เป็นนักร้องหญิง แล้วความฝันที่ตามหลอกหลอนเธอก็เริ่มขาดหายไป เหมือนกับที่เธอเริ่มมีความสุขกับการเรียนร้องเพลง
ญารินดาเข้ากับเพื่อนได้มากขึ้น เวลานี้เธอเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ทุนการศึกษาได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของแม่ซึ่งรับจ้างล้างจานและเป็นแม่ครัวบ้างในบางครั้งอยู่ที่โรงแรมไฮลินตัน วันนี้เธอมาช่วยมารดาล้างจาน ไม่ได้ไปเรียนร้องเพลงตามปกติ เนื่องจากครูสอนร้องเพลงเกิดป่วยกะทันหันทำให้ต้องขยายเวลาเรียนออกไปอีก
ร่างสูงเพรียวในชุดกางเกงผ้าเนื้อดีเข้ารูปและเสื้อเชิ้ตสีเข้มคาดด้วยเข็มขัดหนังราคาแพง บนศีรษะมีหมวกทรงเท่ปิดเส้นผมรองทรงสีบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าใสเป็นประกายงดงามจนน่าอิจฉา เพราะมันเหมือนดวงตาของตุ๊กตาเด็กเล่นตัวน่ารัก ริมฝีปากบางเป็นกระจับหยักโค้งที่มุมลึก เป็นลักษณะของคนมีแววโด่งดังจากพรสวรรค์ของตน
“มาคัส ป้าว่าถ้าหลานหิวจะสั่งอะไรมาทานก่อนขึ้นเวทีก็ได้นะ เพราะกว่าเจ้าหน้าที่จะเตรียมงานเสร็จก็คงอีกประมาณ 1 ชั่วโมง”
มาคัส มาเวลล์ อัจฉริยะทางด้านดนตรีปรายตามองป้าเฮเลนก่อนเหลือบเลยไปยังเวทีที่ยังตกแต่งไม่เสร็จ ริมฝีปากบางเฉียบบิดเบ้ราวกับจะเหยียดหยันเจ้าหน้าที่ ทำไมไม่จัดเตรียมให้พร้อมก่อนตั้งแต่เมื่อวาน แบบนี้หากเขาเป็นเจ้านาย เขาจะหักเงินเดือนเจ้าหน้าที่พวกนี้ให้หมดทั้งเดือน โทษฐานที่ทำให้อัจฉริยะอย่างเขาต้องมานั่งรอเป็นชั่วโมงอย่างไร้สาระเสียเวลาชะมัด
“คราวหน้า ถ้ามีงานอีเวนท์ที่ไหนอีก ป้าช่วยบอกให้เขาเตรียมให้พร้อมก่อนที่ผมจะมานะครับ แบบนี้มันน่าเบื่อชะมัด”
“เอ่อ...ก็ป้าบอกแล้วไง ว่า...”
“ผมไม่กิน จะเดินดูอะไรไปเรื่อยๆ เสร็จเมื่อไหร่ก็ไปตามผมด้วยแล้วกัน”
แล้วร่างสูง 180 ซม. ของชายหนุ่มวัย 22 ปี ผู้ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองของใครต่อใครในแวดวงดนตรี มาคัส มาเวลล์ถือเป็นอัจฉริยะทางด้านดนตรีขนานแท้ เขาสามารถเล่นเครื่องดนตรีสากลได้ทุกชนิดตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี จากนั้นอีก 2 ปีต่อมา เขาก็กลายเป็นนักแต่งเพลงที่อายุน้อยที่สุดในโลก เขาแต่งได้ทั้งเพลงสากลและเพลงไทย ความจริงแล้วเขามีชาติกำเนิดเป็นลูกเสี้ยว ไทย-อังกฤษ-อเมริกัน พูดและแต่งเพลงได้ 5 ภาษา นั่นก็คือ ไทย อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศสและสเปน
ไม่เพียงแต่เป็นอัจฉริยะและนักแต่งเพลงที่อายุน้อย แต่ยังเป็นชายหนุ่มซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติมากมาย หล่อ รวย ฉลาด เก่ง เพราะเหตุนี้มาคัสจึงได้ทุกอย่างมาโดยง่าย โดยเฉพาะสาวงามต่างตบเท้าเรียงหน้ากระดานมาให้เลือกเรียกว่าหัวกระไดไม่แห้งเลยทีเดียว
“ญาเอ้ย ออกไปซื้อไข่มาให้แม่หน่อยสิลูก เอามาสัก 2 แผงนะ วันนี้ร้านไข่ยังไม่มาส่งเลย เดี๋ยวจะไม่ทันการ”
“ได้จ้ะแม่”
ร่างเล็กในวัย 12 ขวบ ผิวขาวละเอียดลออสวมชุดเอี๊ยมกางเกงขาสั้นน่ารัก เรือนผมยาวตรงดำขลับถูกมัดเป็นแกละ 2 ข้าง รอยยิ้มสว่างไสวส่งไปให้คนเป็นแม่พร้อมรับเงินจากมือแม่ แล้วกระโดดหยองแหยงออกไปอย่างอารมณ์ดี
“ซื้อไข่มาแล้ว อย่ากระโดดเข้ามานะญา เดี๋ยวไข่แตกหมด”
นางสมศรียังตะโกนไล่หลังบอกลูกสาว แต่ดูเหมือนคนเป็นลูกหาได้ใส่ใจไม่ วันนี้ญารินดามีความสุข เธอกระโดดไปฮัมเพลงที่เพิ่งเรียนมาเป็นการฝึกไปในตัว เสียงของเธอใสราวกับแก้วเจียระไน มีกังวานคล้ายระฆังแก้วบางใส ท่วงทำนองนั้นอาจมีเพี้ยนไปบ้างเพราะคนร้องยังเด็กนัก แต่เสียงเพลงนั้นก็เรียกความสนใจจากร่างสูงซึ่งเดินผ่านมา
