บท
ตั้งค่า

ตอนที่4. ได้พบเสียที

“นี่ๆ พวกเจ้าก็กลับบ้านกันได้แล้ว วันหน้าวันหลังอย่าแอบมาเล่นน้ำกันโดยไม่มีผู้ใหญ่มาด้วย มันอันตรายมากนะ รู้ไหม”

“ทราบแล้วพี่เย่วซิน”

“ดี อย่าให้ข้าเจอพวกเจ้าแอบพ่อแม่มาเล่นน้ำล่ะ”

“คราวหน้าพวกเราจะไปหาพี่เยว่ซินเอง”

“ได้! ข้าจะรอ”

นางหัวเราะร่าแล้วหิ้วปลาสองตัวที่จับได้ วิ่งตรงมาทางรถม้าที่จอดนิ่งอยู่ รอยยิ้มของนางกระจ่างสดใสเหมือนแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ นางยิ้มจนดวงตาหยีเล็กแล้วชูปลาสองตัวที่ร้อยด้วยหญ้าที่ถักเป็นเชือกเส้นเล็กๆ

“ท่านราชครูได้พบท่านเสียที” เยว่ซินเอ่ยทักทายอย่างสนิทสนมทั้งที่ได้พบกันครั้งแรก

“ข้าเสียมารยาทต่อแม่นางจริงๆ” ฉู่ห่าวหรานเอ่ยเสียงเรียบ “เพราะสุขภาพข้าไม่ดีจึงไม่ได้ตอนรับ”

“ข้าหาได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้” นางยังคงหัวเราะเสียงกังวานใส “วันนี้ได้ปลาตัวโตมาตั้งสองตัว กลับบ้านเถอะ ข้าจะทำน้ำแกงปลาให้ท่านเอง”

นางพูดเองเออเอง กำลังจะปีนขึ้นไปนั่งในรถม้าแต่นึกได้ นางยกมือตบหน้าผากตัวเองหนึ่งทีแล้วเดินไปด้านหน้า เหวี่ยงปลาขึ้นไปข้างหันซูแล้วปีนขึ้นไปนั่งข้างพ่อบ้านที่ทำหน้าที่สารถี

“ตัวข้าเลอะเทอะ ขอนั่งกับเจ้าก็แล้วกัน”

“ขะ...ขอรับ”

หันซูเห็นนางไม่มีท่าทีเดือดร้อนและยังพูดจาเป็นกันเอง เขาก็ลงแส้ให้ม้าออกเดินทางกลับคฤหาสน์ ระหว่างทางได้ยินเสียงเพลงจากปากของเยว่ซิน เป็นนิทานพื้นบ้านที่ชาวบ้านร้องให้เด็กๆ ฟัง น้ำเสียงนางไม่ได้ไพเราะอ่อนหวาน แต่กลับทำให้คนฟังเผลอยิ้มตามไปด้วย

“ที่แรกข้าคิดจะปิ้งปลา แต่ท่านราชครูกลับมาแล้วจะทำน้ำแกงปลาก็แล้ว มีอะไรที่ใต้เท้าไม่กินไม่ได้หรือไม่”

“ไม่มีขอรับ ท่านราชครูกินง่ายอยู่ง่าย ขอแค่อาหารอุ่นร้อนกำลังดี ปลาต้องไม่มีรสคาว ถ้าเป็นผัดผักต้องไม่ชุ่มน้ำมันจนเกินไป แล้วยัง...”

“นี่เรียกกินง่ายอยู่ง่ายแล้วรึ” นางหัวเราะเสียงดังจนทำให้คนด้านในรถม้าส่งเสียงกระแอมไอออกมา “เอาเถอะ ข้ามีสูตรน้ำแกงเลิศรส รับรองว่าใต้เท้าฉู่ต้องชอบแน่”

นางเอ่ยอย่างมั่นใจ

รถม้ามาถึงหน้าคฤหาสน์ บ่าวไพร่ที่มีเพียงไม่กี่คนออกมาต้อนรับ หญิงสาวกระโดดลงจากรถทันทีพร้อมฉวยปลาสองตัวนั้นลงมาด้วย

“คุณหนูเยว่ซินมาแล้ว”

“คุณหนู?” หันซูทวนคำที่ได้ยินอย่างงุนงง

“ระหว่างแม่นางกับคุณหนู ข้าให้พวกเขาเรียกว่าคุณหนูเยว่ซิน” นางโบกมือไปมาคล้ายไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ “หรือจะให้พวกเขาเรียกข้าว่าฮูหยิน”

เสียงไอโคลกๆ ดังมาจากในรถม้า เยว่ซินยื่นหน้าไปทางหน้าต่างรถม้าแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านราชครูเข้าด้านในเถอะ ข้าจะเข้าครัวทำน้ำแกงบำรุงร่างกาย”

นางทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าบ้าน กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางห้องครัว บ่าวไพร่ต่างทักทายพูดคุยหยอกล้อเป็นกันเอง แต่เดิมคฤหาสน์หลังนี้ปกคลุมด้วยความเงียบสงบ แทบไม่เคยมีเสียงหัวเราะ แต่เมื่อนางก้าวเข้ามา ทุกอย่างเปลี่ยนไปจนเจ้าของคฤหาสน์ประหลาดใจ รวมทั้งสภาพคฤหาสน์ที่ซอมแซมไปบางส่วน ต้นไม้ดอกไม้ถูกตัดแต่งกิ่งไม่รกหูรกตาเช่นที่ผ่านมา

เขาไม่อยู่แค่ไม่กี่วันมิใช่หรือ เหตุใดเปลี่ยนไปมากขนาดนี้

“เจ้ารู้เรื่องพวกนี้หรือไม่” ฉู่ห่าวหรานเอ่ยถามขณะที่หันซูประคองเขาลงจากรถม้ามานั่งรถเข็น

“นายท่านสั่งว่า ‘นางอยากทำอะไรก็ให้นางทำไป อย่าให้ไปยุ่งกับเรือนของข้าก็พอ’ และดูเหมือนแม่นางเหอจะทำตามที่ข้าถ่ายทอดถ้อยคำของนายท่าน”

‘นั้นสินะ’ นางไม่ได้ละเมิดคำสั่งของเขา เพราะเมื่อเขากลับมาถึงเรือนของตน ทุกอย่างยังคงอยู่ดีเช่นเดิม ยังคงให้ความรู้สึกอึมครึมราวกับถูกปกคลุมด้วยเมฆฝน แต่ทุกกระนั้นเขาก็รู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะเสียงหัวเราะหยอกล้อที่ลอยตามลมมาถึงเรือนของเขา

“ข้าน้อยจะไปเตือนพวกเขา...”

“ช่างเถอะ” เขาโบกมือห้ามแล้วเข็นรถที่ห้องหนังสือ ทุกอย่างยังคงเป็นระเบียบเรียบร้อยดี แต่เหมือนมีบางอย่างไม่เหมือนเดิม

“มีใครเข้ามาในนี้หรือไม่”

“มีแค่บ่าวไพร่เอาหนังสือออกมาตากแดดขอรับ” หันซูกล่าวไปตามจริง “หรือนายท่านเห็นสิ่งใดผิดปกติขอรับ”

“ไม่มีอะไร ข้าคิดมากไปเอง เจ้าไปชงชามาเถิด ข้าจะอยู่อ่านตำราที่นี่”

“ขอรับ”

เมื่ออยู่คนเดียว ฉู่ห่าวหรานอดคิดถึงสตรีนางนั้นไม่ได้ ครึ่งเดือนที่เขาตั้งใจหลบหน้า คิดว่านางคงร้องไห้ฟูมฟายกับชะตากรรมแสนอาภัพที่ต้องมาอยู่ไกลในหมู่บ้านชนบทเช่นนี้ เขาคิดจะปล่อยให้นางเศร้าโศกให้พอ แล้วเจรจาเรื่องหาที่ทางให้นางออกจากที่นี่ไปใช้ชีวิตที่ดีกว่า เขาไม่รู้ว่าเหตุใด คนที่ไม่เป็นที่โปรดปรานเช่นเขาจึงได้รับหญิงบรรณาการเช่นนี้

หรือฮ่องเต้ยังคงไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจ จึงส่งคนมาสอดแนมและส่งข่าว

ปลายนิ้วยกขึ้นแตะแผลเป็นบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel