9. ไม่ไว้ใจ
“ช่วงนั้นก็คงจะรีบปั่นงานหาเงินไปใช้หนี้ให้ตาเพชรนั่นน่ะสิ”
วัชรมัย ยังอดที่จะแขวะไปถึงณเพชรไม่ได้
“คุณน้ำเธอเก่งนะคะ แต่งนิยายได้ตั้งเยอะแยะน่าเสียดายที่เธอเสียไปซะแล้ว”
“พูดถึงเรื่องนิยายของยัยน้ำ คุณดาวเคยได้อ่านบ้างหรือเปล่าคะ”
“เอ้อ...เปล่าค่ะ..ดาวชอบอ่านแต่เรื่องดารา”
แสงดาว สารภาพเสียงอ่อย ๆ
“อย่าว่าแต่คุณเลยค่ะ ฉันเป็นพี่สาวเขาแท้ ๆ ยังไม่เคยติดตามอ่านผลงานเขาสักเรื่อง ไม่รู้ว่าขายได้มากน้อยแค่ไหน รู้แต่ว่าเขาเขียนนิยายขายก็เท่านั้นแหละ เคยอ่านอยู่เรื่องเดียวเองมั๊ง ที่ยัยน้ำส่งมาให้ ฉันไม่มีเวลาอ่านน่ะค่ะ แต่ต่อไปนี้ฉันคงต้องอ่านแล้วล่ะจะได้เก็บไว้คิดถึงเขา”
วัชรมัย บอกด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ
“งั้นก็มาเอาหนังสือนิยายที่น้องน้ำแต่งไปสิคะ ดาวเห็นที่ชั้นหนังสือห้องน้องน้ำอยู่เต็มเลยค่ะ”
“ฉันเอามาแล้วล่ะค่ะสองสามเล่ม ที่เหลือก็เก็บไว้ที่ชั้นนั้นแหละเผื่อสักวันลูกสาวไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯฉันก็คงให้พวกเขาไปอยู่ที่บ้านน้าน้ำของพวกเขานั่นแหละ”
“แล้วลูก ๆ ของคุณครูจะไม่...กลัวหรือคะ”
แสงดาว ถามเสียงแผ่วในตอนท้าย
“ถึงตอนนั้นคงไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ แต่นี่มันยังเกิดเรื่องใหม่ ๆ อยู่ ใครได้ยินว่าเป็นบ้านที่เพิ่งมีคนตายอยู่ในบ้านก็คงไม่มีใครอยากจะมาอยู่แล้ว ยิ่งคุณดาวบอกว่าคนเช่าคนก่อน ๆ ได้ยินเสียงแปลก ๆ แล้วก็พากันย้ายหนีหมด ฉันก็กลัวน้องไอซ์ จะย้ายหนีอยู่เหมือนกันค่ะ”
“ก็ต้องรอดูกันค่ะว่าจะโดนผีน้องน้ำหลอกเอาเหมือนรายอื่น ๆ รึเปล่า”
แสงดาว ทำเสียงตื่นเต้น
“แต่ฉันยอมให้เขาอยู่ฟรีตั้งเดือนคงจะไม่ออกเร็ว ๆ นี้หรอกค่ะ”
“ก็ไม่แน่ค่ะ ของฟรีแต่มีผีคอยหลอกหลอนทุกคืนไม่มีวันหยุดพักก็ไม่ไหวนะคะ” แสงดาวแย้ง
“แล้วตอนนี้ล่ะคะ น้องไอซ์เขามาเล่าอะไรให้คุณดาวฟังรึเปล่า”
“ก็เปล่านะคะ เห็นว่าหลับสบายดีไม่มีอะไร”
วัชรมัยยิ้มอย่างพอใจ รู้สึกสบายใจที่จะไม่ต้องหาคนเช่าคนใหม่ในเร็ว ๆ นี้
............
ภูริช กำลังจะเดินลงไปเปิดประตูรั้วบ้าน เพื่อขับรถเข้าไปจอดในบ้านเขาไม่ได้กลับมาค้างที่บ้านเมื่อคืนนี้ เนื่องจากไปงานวันเกิดของเพื่อนและฉลองกันดึกไปหน่อยก็เลยค้างที่บ้านของนฤมลนั่นพร้อมด้วยแซนดี้
“คุณครับ..คุณเป็นคนมาเช่าบ้านหลังนี้ใช่ไหมครับ”
ผู้ชายที่แต่งตัวคล้ายพนักงานออฟฟิศเดินลงจากรถเก๋งสีขาวตรงมาหาเขาที่ประตูรั้วถามขึ้น
“ใช่ครับ” ภูริช ตอบรับสีหน้าแปลกใจ
“ผมเป็นแฟนกับคุณน้ำเจ้าของบ้านที่คุณเช่าอยู่”
ณเพชร รีบบอก
“อ๋อ..ครับ”
ภูริช ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้ชายคนนี้อยู่ดี
“คือผมจะมาขอเอาคอมพิวเตอร์ แล้วก็ข้าวของบางอย่างที่ห้องของน้ำน่ะครับ คุณคงไม่ขัดข้อง”
“เท่าที่ทราบบ้านนี้ผมเช่ากับคนที่ชื่อวัชรมัยนะครับ สัญญาเช่าก็ระบุชื่อวัชรมัย ยังไงคุณลองคุยกับเธอดูก่อนดีไหม ถ้าเธออนุญาตให้คุณเอาของไปได้ผมก็ไม่ขัดข้องอยู่แล้วครับ”
“ยังงั้นก็ได้ แล้วผมจะลองโทรไปหาเขา”
ณเพชร บอกอย่างไม่มีทางเลือกเมื่อเห็นว่าคนเช่ารายนี้ไม่มีทางที่จะให้เขาขนย้ายของออกไปแน่ และท่าทางของนายคนนี้ก็ดูจะไม่หมูอย่างที่เขาคิดเสียแล้ว
“ดีครับ..” ภูริชบอกแล้วก็หันไปเปิดประตูรั้ว
“เดี๋ยวครับ..ผมขอเข้าไปดูห้องของแฟนผมสักครู่ได้ไหม” ณเพชร ขออนุญาต
“ดูทำไมครับ” ภูริช ทำหน้าแปลกใจ
“คือ..ผมแค่ดูให้หายคิดถึงน้ำเท่านั้นเอง คุณคงไม่รู้ว่าแฟนผมเขา..”
ณเพชร ไม่ยอมพูดต่อ เมื่อนึกถึงคำพูดของแสงดาวได้ทันว่าไม่ให้บอกถึงการตายของวัชรมน
“ถ้าคิดถึงทำไมไม่ไปเยี่ยมเธอล่ะครับ ผมทราบมาว่าเธอประสบอุบัติเหตุกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดไม่ใช่หรือครับ”
ภูริช พูดตามคำบอกเล่าของวัชรมัย
“ใช่ ใช่ แต่ผมยังไม่มีเวลาไปเยี่ยมเธอหรอกอยู่ไกลตั้งน่าน ผมต้องทำงานที่กรุงเทพฯ” ณเพชร รีบบอก
“แต่ก็น่าจะโทรหากันได้นี่ครับ”
“เออ..แฟนผมเขาอาการหนักมากพูดไม่ได้”
ณเพชร จำต้องพูดปด ภูริช อึ้งไปชั่วคราว
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายเถอะครับ..ผมอนุญาต”
ณเพชร ยิ้มแววตาเป็นประกาย เขาจะต้องค้นหาของที่ต้องการให้พบ อย่างน้อยเขาก็เคยเข้าออกบ้านของวัชรมน อยู่บ่อย ๆ รู้ว่าหล่อนเก็บงานอะไรไว้ที่ไหนบ้าง เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยได้สนใจอะไรมากมายนักเท่านั้นเอง เขาไม่คิดว่านิยายน้ำเน่าที่วัชรมนเขียนนั้นจะมีค่าอะไรสำหรับเขา
ภูริช ปล่อยให้ ณเพชร เข้าไปในห้องนอนของเขา โดยที่เขานั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขกด้านนอก ภูริช รู้สึกเห็นใจที่ ณเพชร ต้องห่างไกลจากคนรัก แม้เขาเองจะรู้สึกเอือมระอากับความขี้หึงของแซนดี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกรักผูกพันกับหล่อน
หากแซนดี้ ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเหมือนกับคนรักของ ณเพชร เขาก็คงจะรู้สึกห่วงใยไม่น้อย แต่ ณเพชร คงมีคนรักที่แสนดีไม่ขี้หึงเอาเป็นเอาตายอย่างแซนดี้ เขาคิดเล่น ๆ แล้วก็นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว
“น้องไอซ์!”
ภูริช สะดุ้ง ที่จู่ ๆ แสงดาว ก็โผล่เข้ามาถึงในบ้าน
“นี่น้องไอซ์ให้คุณเพชรเข้ามาขนของได้ไงคะ”
แสงดาว ต่อว่าเสียงร้อนรน
“ใครที่ไหนจะมาขนของไปครับพี่ดาว” ภูริช ย้อนถาม
“ก็พี่เห็นรถคุณเพชรจอดอยู่หน้าบ้าน แล้วนี่เขาหายไปไหนคะ”
แสงดาว กวาดตามองไปรอบ ๆ
“อยู่ในห้องครับ” เขาพยักหน้าไปที่ห้องนอน
“ตายแล้ว..ไม่ได้นะคะจะให้คนอื่นเข้าไปค้นข้าวของในห้องของน้องน้ำไม่ได้”
แสงดาว พูดจบก็เดินจ้ำอ้าวไปที่ห้องนอนทันที โดยมีภูริช เดินตามเข้าไปด้วย
