บท
ตั้งค่า

3

“คุณยังคิดถึงเธออยู่ใช่ไหมคะ” คำถามของพิมพ์ขวัญนุ่มนวลเกินกว่าจะรู้สึกรุกล้ำ

ชายหนุ่มพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ย

“ใช่ครับคิดถึงทุกวัน แต่มันไม่เจ็บปวดแล้ว แค่ยังไม่ชินกับการไม่มีเธออยู่ข้าง ๆ”

พิมพ์ขวัญฟังอย่างเงียบ ๆ เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนพูดมาก การที่เขาเปิดปากพูดขนาดนี้ แสดงว่าเขาเริ่มวางใจในตัวเธอบ้างแล้ว

“ฉันเคยคิดว่า…ความเสียใจเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่พอได้เจอของจริง…ฉันถึงรู้ว่า มันไม่ไปไหนเลย” เธอกล่าวในน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ส่วนตัวเช่นกัน

ครูธีร์หันมามองเธอ ครั้งแรกที่พิมพ์ขวัญรู้สึกว่า เขามองเธอจริงจัง

“คุณเจ็บเหมือนกันใช่ไหมครับ”

“เจ็บค่ะแค่คนที่ทำให้เจ็บยังอยู่ดีและหัวเราะได้ทุกวัน” เขาพยักหน้าเหมือนเข้าใจโดยไม่จำเป็นต้องถามต่อ

ระหว่างพวกเขาไม่มีคำพูดต่อจากนั้น แต่กลับรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มเข้าใจกันโดยไม่ต้องอธิบาย

ก่อนกลับบ้าน พิมพ์ขวัญเดินผ่านรั้วโรงเรียนที่เต็มไปด้วยไม้เลื้อย เธอเอื้อมมือแตะใบไม้สีเขียวอ่อนก่อนจะหันไปบอกเขา

“ขอบคุณนะคะที่แนะนำให้มานั่งตรงนี้”

“คุณถ่ายรูปออกมาแล้วฝากให้ผมดูบ้างได้ไหมครับ” เธอหัวเราะ

“ได้สิคะ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอัปลงบล็อกพร้อมแคปชั่นว่า เงาของต้นไม้ไม่เคยหนีจากแสง แค่รอเวลาที่แสงจะกลับมา” เขานิ่งไปอึดใจ ก่อนจะพูดเบา ๆ

“แล้วผมจะรอแสงแบบนั้นเช่นกัน” หัวใจพิมพ์ขวัญเหมือนถูกแตะเบา ๆ ด้วยคำพูดของเขา

และจังหวะของชีวิตที่เคยเดินหลงทาง กำลังค่อย ๆ พาเธอกลับมาให้รู้สึกถึงความอบอุ่นอีกครั้ง

คนแปลกหน้าที่อยู่หลังรั้ว วันนี้กลายเป็นใครบางคนที่เธออยากรู้จักให้มากขึ้น เพราะบางทีคนที่ใจเธอกำลังเปิดรับ อาจไม่ใช่คนใหม่ในโลกนี้ แต่อาจเป็นคนคุ้นเคยในหัวใจที่เพิ่งกลับมา

บ่ายวันนั้นหลังฝนซา เสียงนกร้องกลับมาดังก้องอยู่เหนือแปลงดอกไม้ในสวน

พิมพ์ขวัญนั่งปาดเหงื่อข้างแปลงพุดที่เธอเพิ่งใส่ปุ๋ยเสร็จ ดินยังเปียกชื้นจากฝนเมื่อคืน แต่กลิ่นหอมของพุดผสมกลิ่นหญ้าเปียกนั้นกลับทำให้ใจเธอสงบอย่างบอกไม่ถูก

ขณะกำลังจะเก็บเครื่องมือเข้าที่ ได้ยินเสียงยายละม่อมร้องเรียกจากหน้าบ้าน

“พิมพ์ขวัญลูก พรุ่งนี้ยายจะฝากขนมไปให้ที่โรงเรียนหน่อยได้ไหม พวกเด็ก ๆ ช่วยรดน้ำต้นไม้ให้ยาย เลยอยากตอบแทนเขานิดหน่อย”

“ได้เลยจ้ะยาย หนูจะทำให้เลย” และนั่นคือจุดเริ่มของเช้าวันใหม่ที่ต่างจากทุกวัน

พิมพ์ขวัญลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ คลำหาเตาอบเล็ก ๆ ที่เก็บไว้ใต้โต๊ะไม้ และลงมือทำขนมอบง่าย ๆ อย่างคุกกี้เนยสดและขนมกลีบลำดวนสูตรโบราณที่เคยเรียนจากแม่ตอนยังเด็ก

บ้านเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอบอวลของน้ำตาล วนิลา และกลิ่นแป้งอบใหม่ ๆ

เธอจัดใส่กล่องอย่างสวยงาม พร้อมแยกใส่กล่องเล็กพิเศษหนึ่งกล่อง

กล่องนั้นเธอไม่ได้บอกยายว่าเตรียมให้ใคร

เช้าวันศุกร์ เด็ก ๆ วิ่งเล่นในโรงเรียนท่ามกลางเสียงหัวเราะ พิมพ์ขวัญยืนขนมให้ครูประจำชั้นหลายคน และสุดท้ายเธอก็เจอกับเขา

ครูธีร์ยืนอยู่ริมรั้วโรงเรียน กำลังสอนเด็กนักเรียนชั้น ป.4 ปลูกต้นดาวเรืองในกระถาง

“สวัสดีค่ะคุณครู” พิมพ์ขวัญเอ่ยอย่างมีมารยาท พร้อมยื่นกล่องขนมใบเล็กที่ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ เขารับไว้ด้วยมือที่ดูเกร็งนิด ๆ

“ให้ผมหรือครับ”

“ก็คุณเป็นครูเหมือนกันนี่คะ ขนมเผื่อคุณครูคนหนึ่งค่ะ” เธอยิ้มเจื่อน ๆ

ครูธีร์หัวเราะเบา ๆ เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นจากเขา

“ขอบคุณครับ ครูคนนี้จะเก็บไว้อย่างดีเลย”

ตอนเย็นวันนั้น ฟ้าครึ้มและลมแรงเหมือนฝนจะมาอีกรอบ พิมพ์ขวัญเก็บของอยู่ใต้ถุนบ้านก่อนจะได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ จากรั้ว

“คุณพิมพ์ขวัญครับ” เสียงทุ้มคุ้นหูทำให้เธอหันไปมอง ครูธีร์ยืนอยู่พร้อมตะกร้าไม้ในมือ

“ผมเอาพันธุ์ไม้กับเมล็ดพันธุ์ดอกไม้มาฝากยายครับ เห็นท่านเคยบ่นว่าอยากได้ครับ” พิมพ์ขวัญเดินไปรับ พร้อมยิ้มอย่างซาบซึ้ง

“ขอบคุณนะคะ คุณครูน่ารักมากเลย ยายต้องดีใจแน่ ๆ”

“ผมยังไม่ได้กลับบ้านเลย ฝนจะตกแล้ว ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมขอหลบฝนที่นี่สักครู่ได้ไหมครับ” ฝนเม็ดใหญ่เริ่มโปรยลงมาตามคำพูดของเขา

พิมพ์ขวัญรีบพาเขาขึ้นมานั่งตรงชานไม้หน้าบ้านที่มีม้านั่งไม้ยาวไว้ชมสวน

พิมพ์ขวัญต้มชาขิงสดใส่ถ้วยเซรามิก แล้ววางลงตรงหน้าเขา ครูธีร์รับไว้เงียบ ๆ ก่อนจะพูดเบา ๆ

“บ้านคุณหอมกลิ่นดอกไม้จังเลยครับ”

“แล้วบ้านของคุณล่ะคะ”

“บ้านของผมก็หอมครับ แต่ยังขาดกลิ่นขนม” พิมพ์ขวัญนิ่งไป เธอจับขอบถ้วยชาแน่น ก่อนจะพูดอย่างเบา ๆ

“ถ้าอย่างนั้นเอาขนมไปวางไว้ แล้วกลิ่นของวันนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปค่ะ” คืนนั้นฝนตกยาวจนถึงดึก แต่ก่อนที่เขาจะกลับ เธอให้เขาหยิบถุงผ้าผูกด้วยริบบิ้นที่เธอเย็บเองมอบให้

“อะไรครับ” เขาถาม

“ของใช้ในครัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ค่ะ ผ้ากันเปื้อนที่ฉันปักดอกพุดไว้…เผื่อจะอยากทำขนมสักวัน”

“ผมทำไม่เป็นหรอกครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

เขายิ้มอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตาของเขาดูอบอุ่นขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ ที่เธอเคยเห็น

วันต่อมา ยายละม่อมถือกล่องเล็ก ๆ เดินเข้ามาในครัวที่พิมพ์ขวัญกำลังจัดดอกไม้อยู่

“ขวัญจ๊ะ เมื่อกี้ครูธีร์เอานี่มาให้ ฝากขอบคุณหนูที่เอาขนมไปให้ เขาบอกว่าขนมหมดเร็วมาก แต่เขาชอบกลิ่นกล่องมากที่สุด” พิมพ์ขวัญเปิดกล่องออก

ในนั้นมีผ้ากันเปื้อนที่เธอปักลายไว้ และคราบแป้งนิดหน่อยตรงชายผ้า

กลิ่นขนมยังติดอยู่จาง ๆ หัวใจเธออุ่นขึ้นอย่างประหลาด

“เขาเริ่มลองอบขนมแล้วเหรอยาย”

“ยายว่าเขาเริ่มลองอบหัวใจตัวเองให้อุ่นขึ้นอีกครั้งมากกว่า” เพียงมือเล็ก ๆ มือเดียวของเธอ ที่หยิบจับผ้ากันเปื้อน ต้มชา และอบขนม

กลับทำให้บ้านที่เคยเงียบเหงาเริ่มมีความหวังอีกครั้ง และเขาคนที่เคยไม่เปิดประตูให้ใคร กำลังเปิดรอยยิ้มให้เธอทีละน้อย เสียงฝนกระทบหลังคาด้านหลังบ้านดังก้องตั้งแต่เย็นย่ำ

ฝนเทลงมาไม่ลืมหูลืมตา จนยายละม่อมต้องพับแผนไปตลาดเช้า พอ ๆ กับที่พิมพ์ขวัญต้องเลื่อนการไปรับกล่องหนังสือที่ร้านในอำเภอไปก่อน

เธอยืนมองสายฝนจากหน้าต่างห้องใต้หลังคา กลิ่นเปียกชื้นของดินผสมกลิ่นไม้ และกลิ่นกาแฟจากเครื่องชงเล็ก ๆ ที่เธอหยิบออกมาใช้ในรอบหลายสัปดาห์ ทำให้บรรยากาศในบ้านดูคล้ายอยู่ในหนังรักสักเรื่อง

“พิมพ์ขวัญ ฝนตกหนักแบบนี้คืนนี้อาจจะท่วมลานหลังบ้าน อย่าลืมดูพวกกระถางเล็ก ๆ ให้ยายทีนะลูก” เสียงยายตะโกนมาจากห้องครัว

“ได้เลยจ้ะยาย เดี๋ยวหนูไปดูให้” เธอคว้าเสื้อคลุมกันฝนและไฟฉาย เดินลงมาสำรวจพื้นที่หลังบ้าน ท่ามกลางละอองฝนที่พรำไม่หนักมาก แต่ก็พอให้เสื้อผ้าเปียกชื้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel