3
บนโต๊ะข้างเตียง มีเงินห้าพันบาทวางไว้”
เสียงนาฬิกาดิจิทัลในห้องดังขึ้นตามจังหวะเวลา
คมน์ลืมตาตื่นช้า ๆ ก่อนจะหันมามองข้างตัว แล้วพบแต่ความว่างเปล่า ไม่มีร่างของหญิงสาวเมื่อคืน ไม่มีเสียงหายใจแผ่ว ๆ เหลือเพียงผ้าห่มยับ ๆ และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ยังติดอยู่บนหมอน เขาขมวดคิ้วแน่น
“หนีงั้นเหรอ” เสียงต่ำลอดจากลำคอ
พอหันไปทางโต๊ะข้างเตียงก็เห็นแบงก์พันเรียงอยู่ห้าฉบับ ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกเบา ๆ
“ห้าพันบาทงั้นเหรอ เธอวางเงินห้าพันให้ฉันนี่นะ” ลูกน้องเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงอนุญาต จึงเปิดประตูเข้ามา จักรถึงกับชะงักกึกเมื่อเห็นแบงก์ในมือของเจ้านายหนุ่ม
“เอ่อ... คุณชาย ตื่นแล้วเหรอครับ” คมน์หันขวับไปมองด้วยแววตาเรียบนิ่งแต่แรงกดดันมหาศาล
“จักร”
“คะ...ครับคุณชาย!”
“เธอไปไหนแล้ว”
“เธอออกไปแต่เช้าแล้วครับ”
“แล้วทำไมพวกนายไม่ขวางเธอเอาไว้”
“คุณชายไม่ได้สั่งนี่ครับ”
“นี่นาย!” น้ำเสียงเข้มข้นนั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“นั่นเงินอะไรครับคุณชาย”
“เธอวางเงินให้ฉันห้าพัน” คมน์ยกเงินแบงก์พันห้าใบขึ้นมา
“ค่าตัวเหรอครับ” จักรเผลอถามออกไป ทำเอาต้องสะดุ้งสุดตัว
“ค่าตัวฉันมีค่าแค่ห้าพันอย่างนั้นเหรอ ผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไง ไม่ใช่ผู้หญิงคนไหนจะได้นอนกับฉันง่าย ๆ”
“นั่นสินะครับ” จักรถึงกับยืนนิ่งไม่กล้าขำ แต่ปากมันสั่นเอง
“เอ่อ... ห้าพันบาท... ก็ถือว่าเยอะอยู่นะครับคุณชาย”
“เยอะ!” คมน์ทวนคำ
“ขอโทษครับ”
“รู้ความผิดของตัวเองไหม”
“ผมผิดอะไรครับ”
“อย่างแรกนายไม่จับเธอเอาไว้ ปล่อยให้เธอหนีไป อย่างที่สองนายดูถูกว่าตัวฉันแค่ห้าพัน เด็กเอ็นในผับของฉันค่าตัวยังมากกว่านี้อีก”
“ขอโทษครับคุณชาย”
“โบนัสปีนี้ งั้นนายก็ไม่ต้องเอาแล้วกัน”
“ผมผิดไปแล้วครับเจ้านาย ผมยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล” จักรคุกเข่าลงก่อนจะยกมือท่วมหัว
คมน์โยนแบงก์ห้าพันลงบนโต๊ะ แล้วพึมพำเสียงขุ่น
“กล้าดียังไงเอาเงินห้าพันมาฟาดให้ฉันแล้วคิดจะชิ่ง อย่าหวังเลย”
จักรรีบยกมือปิดปากกลั้นหัวเราะ แม้จะกลัวเรื่องโดนหักโบนัส แต่ก็แอบคิดในใจว่าเธอแน่มาก ทำเจ้านายโกรธขนาดนี้
“ผมว่าเธออาจจะตกใจเฉย ๆ นะครับคุณชาย ผู้หญิงเขาไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร”
“แล้วทำไมไม่ถามก่อนจะหนี แค่รอมันจะยากอะไร ยังไงก็นอนด้วยกันแล้ว จะได้ซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ก็คุณชายดูน่ากลัวครับ”
คมน์หันมามองตาเขม็ง
“หมายความว่ายังไง”
“เอ่อ... เปล่าครับ ผมหมายถึงน่ารัก... เอ้ย! น่านับถือครับ!” เพราะอยู่ด้วยกันมานาน จึงกล้าพูดแบบนี้ ถ้าเป็นลูกน้องคนอื่นคงโดนเป่าไปแล้ว
คมน์สูดหายใจยาว พยายามสะกดอารมณ์ ก่อนจะพูดเสียงเย็น
“ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร บ้านอยู่ไหน เป็นลูกสาวใคร ไปสืบมาให้ละเอียดด้วย”
จักรกะพริบตาปริบ ๆ
“คุณชายจะเอาเรื่องเธอเหรอครับ”
“เอาเรื่องที่ไหน... ฉันจะเอาเธอคืน!”
“อ๋อครับ... เอาคืน... แบบไหนครับ”
คมน์เหล่มองนิด ๆ
“อย่าถามเซ้าซี้ โบนัสไม่ได้จะเดือนหักเงินเดือนด้วย”
“รับทราบครับคุณชาย!” จักรยืดตัวตรง ทำท่ารับคำอย่างแข็งขัน โบนัสไม่ได้ โดนหักเงินเดือนไปอีก เขาได้กินข้าวกับเกลือแน่
“เดี๋ยวผมจัดการไปสืบประวัติเธอให้เองครับ!”
“ดี” คมน์พูดเรียบ ๆ ก่อนหันไปมองแบงก์ห้าพันอีกครั้ง แล้วกระตุกมุมปากขึ้น
“เดี๋ยวเจอกันแน่สาวน้อยของฉัน”
จักรกลืนน้ำลาย เพราะคุณชายของเขาดูทั้งโกรธ ทั้งหวง และเหมือนจะหลงเข้าเต็มเปาแล้ว อารมณ์ดูวุ่นวายไปหมด เขาอยู่กับคมน์มานานจึงพอรู้นิสัยใจคอกันดี
ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่กลางเมือง ชมพูพริ้งนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก มือประสานกันแน่นบนตักแน่น ใบหน้ายังซีดเผือดจากเหตุการณ์เมื่อคืน
ตรงข้ามกันคือพี่ชายคนโตชื่อเชนทร์ ชายหนุ่มวัยสามสิบปลายในชุดสูทสีเข้ม หน้าตาคมเฉียบแบบนักธุรกิจที่ผ่านเกมชีวิตมานักต่อนัก ส่วนข้าง ๆ กันคือพี่สาวคนรองชื่อชามา หญิงสาวสวยเปรี้ยวในเดรสหรูที่แผ่รังสีความอำมหิตเล็ก ๆ ตั้งแต่เดินเข้าห้อง,k ทั้งคู่มองน้องสาวสุดที่รักด้วยสีหน้าเครียดจัด
“พูดมาอีกทีสิ” เสียงของเชนทร์ต่ำและเยือกเย็น แต่ในดวงตากลับมีแววโกรธจัด
ชมพูพริ้งก้มหน้า พยายามกลั้นน้ำตา
“ชมโดนกริชวางยาค่ะเฮีย”
“ไอ้เวรกริช มันกล้าทำกับเราถึงขนาดนี้เชียวหรือ”
ชามาแทบลุกพรวดขึ้นจากโซฟา
“สงสัยมันไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกแล้วเฮีย หรือจะให้มันไปเฝ้ารากมะม่วงดี!”
ชมพูพริ้งรีบยกมือขึ้นปรามพี่ ๆ รู้ดีว่าพี่ชายกับพี่สาวรักและเอ็นดูเธอมาก แต่การจะทำแบบนั้นมันผิดกฎหมาย
“เจ๊ใจเย็นก่อนนะคะ ชมหนีมาได้แล้ว ไม่เป็นไรจริง ๆ”
“ไม่เป็นไรเหรอ” เสียงเชนทร์ดังขึ้น
“โดนมันวางยา โดนมันลากขึ้นรถ! แล้วยังจะพูดว่าไม่เป็นไรอีกเหรอ” ชมพูพริ้งเงยถอนใจเฮือกใหญ่
“ชมโดนหลอก อันนี้ชมเองก็พลาดไม่เช็คให้ละเอียดเสียก่อน ที่สำคัญชมไม่อยากให้เฮียกับเจ๊เดือดร้อนค่ะ กริชเป็นลูกชายรัฐมนตรี ถ้าไปยุ่งด้วย มันอาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”
“เรื่องใหญ่” ชามาหัวเราะเสียงเย็น ไม่เคยกลัวเกรงอะไรอยู่แล้ว น้องสาวฉันใครอย่าแตะ
“หมอนั่นคิดจะทำร้ายเรา เฮียไม่พร้อมมันไว้แน่”
“ชมไม่อยากให้เฮียกับเจ๊ทำผิดกฎหมายแบบนั้น เฮียกับเจ๊เหมือนพ่อแม่ของชม ชมเป็นห่วง”
เชนทร์หลับตาลงช้า ๆ สูดลมหายใจลึกเพื่อข่มอารมณ์ แต่กำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด
“แล้วจะปล่อยมันไปแบบนี้น่ะเหรอ อย่าบอกนะว่าเรายังรักมันอยู่” ชมพูพริ้งรีบลุกเข้าไปจับแขนพี่ชาย
“ไม่ได้จะปล่อยค่ะ แล้วชมก็ไม่ได้รักเขาอีกแล้ว เขานิสัยไม่ดี เจ้าชู้ด้วย ใครจะไปเอาลง”
“แล้วจะให้ทำยังไง” เสียงเชนทร์เรียบแต่น่ากลัว
“ใช่ จะเอายังไง” ชามาหรี่ตามองน้องสาว
“กริชมีพ่อคุ้มกะลาหัว ชั่วขนาดนั้นยังรอดมาได้ ถ้าจัดการคนเป็นพ่อก่อน หมอนั่นก็เหมือนหมาข้างถนนค่ะ เอากฎหมายมาช่วยดีกว่าทำผิดกฎหมาย ทำให้คนไปเฝ้ารากมะม่วงถ้าโดนสาวมาถึงได้ติดคุก ไม่คุ้มหรอกค่ะ ชมไม่อยากให้เฮียกับเจ๊ทำผิดกฎหมายซะเอง”
“จริงด้วยเฮีย รัฐมนตรีคนนั้นมันคุมโครงการก่อสร้างของรัฐ มีคดีค้างเต็มมือ ยังไม่รวมข่าวลือเรื่องล่วงละเมิดที่โดนปิดไว้ด้วยเงินอีกไม่รู้กี่ราย” ชามาพูดเสียงเย็นเฉียบ
