4
“คนอย่างนั้น สมควรถูกลากลงจากเก้าอี้” เชนทร์ลุกขึ้นเต็มความสูง สีหน้าแน่วแน่
“ชามาเตรียมคนของเธอเอาไว้ เฮียจะให้ฝ่ายกฎหมายจัดการมัน”
“จัดไปค่ะเฮีย” ชามายิ้มเย็น
“คืนนี้มันจะได้รู้ว่าตระกูลเรายุ่งไม่ได้”
“ขอบคุณเฮียกับเจ๊มากนะคะ”
“เราเถอะ เมื่อคืนหนีไปได้ยังไง” เชนทร์เอ่ยถามน้องสาวอย่างห่วงใย
“เรื่องมันยาวค่ะ แต่ชมพูหนีมาได้ก็แล้วกันค่ะ” เธอไม่กล้าเล่าเรื่องชายแปลกหน้าที่ช่วยเหลือให้ฟัง กลัวพี่ ๆ จะส่งเขาไปเฝ้ารากมะม่วงแทนน่ะสิ ถ้ารู้ว่าเธอกับชายลึกลับคนนั้นมีอะไรกันแล้ว
ไม่นานเสียงพี่ชายโทรศัพท์สั่งงานสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
“เริ่มเลย จัดการทุกช่องทาง ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกมันในวงสังคมอีก” ชมพูพริ้งมองการกระทำเฉียบขาดของพี่ชายแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจ หลังจากบิดามารดาเสียชีวิตก็มีพี่ชายกับพี่สาวนี่แหละที่รักและดูแลเธอมาอย่างดีเช่นนี้
วันต่อมา ข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
“รัฐมนตรีชื่อดังโดนตรวจสอบทุจริตโครงการก่อสร้างภาครัฐ หลักฐานเชื่อมโยงการรับสินบนหลายคดี”
ภาพพาดหัวข่าวชัดเจนพร้อมรูปของรัฐมนตรีนพ บิดาของกริชถูกนำเสนอทุกช่องทาง ข่าวดังจนสะเทือนทั้งวงการการเมือง
ที่ตึกบริษัทธนกรกรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลธนกร เชนทร์ยืนพิงโต๊ะทำงานเรียบหรู รอรายงานล่าสุดจากทีมกฎหมาย
“สื่อทุกสำนักเล่นข่าวแล้วครับท่าน เรื่องเอกสารการโอนเงินใต้โต๊ะ ถูกส่งถึง ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้วครับ แล้วยังมีเรื่องที่ทำผิดกฎหมายอีกเยอะครับ รับรองว่าคราวนี้ไม่รอดแน่” เสียงลูกน้องรายงาน เชนทร์พยักหน้า
“ดี อย่าให้มันหนีไปได้แม้แต่ช่องทางเดียว”
อีกด้านหนึ่ง ชามานั่งไขว่ห้างบนโซฟา ถือแท็บเล็ตเปิดข่าวเดียวกันอยู่ ยิ้มเย็นอย่างพอใจ
“สุดยอดไปเลยเฮีย เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับตระกูลธนกรของเรา”
เชนทร์หัวเราะในลำคอ
“ตระกูลนั้นสร้างอำนาจมาจากการคดโกง ถ้าเงินหาย อำนาจก็หมด”
ข่าวต่อเนื่องทั้งวัน รายงานว่าบัญชีทรัพย์สินของรัฐมนตรีนพถูกอายัดหลายบัญชี บริษัทในเครือถูกตรวจสอบ และหุ้นส่วนต่างทยอยถอนตัว
กระทบตรงไปถึงกริช โดยทรัพย์สินที่ใช้ถูกระงับ บัตรเครดิตถูกตัด เงินในบัญชีถูกอายัดทั้งหมด
จากลูกชายรัฐมนตรีผู้ใช้ชีวิตหรูหรา กลายเป็นคนที่ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่ค่าโรงแรม
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นเมื่อชามาดูข่าว
“สมน้ำหน้า เล่นกับใครไม่เล่น”
เชนทร์เดินเข้ามาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ
“พ่อมันจะโดนตั้งข้อหาฉ้อโกงและคดีล่วงละเมิดเพิ่มอีกสองคดี ทุกอย่างจะจบในเดือนนี้”
“ก็ดี” ชามาวางแท็บเล็ตลง
ในขณะเดียวกัน อีกมุมของเมือง กริชนั่งอยู่ในห้องพักโทรม ๆ ใบหน้าซีดเซียวแฝงไปด้วยความเคร่งเครียด โทรศัพท์วางอยู่ตรงหน้าแต่ไม่มีใครรับสาย เขารู้ว่าทุกอย่างที่เคยมี พังไปหมดแล้ว
ไม่มีเงิน ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีพ่อที่คอยปกป้อง เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความแค้นในใจ
กริชในตอนนี้สภาพแทบจำไม่ได้ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีเงิน กระเป๋าแบนราบ ใบหน้าซีดเผือดดั่งคนไร้ค่าที่ถูกทิ้งข้างทาง
ข่าวฉาวจากผู้หญิงที่เขาเคยทำร้าย ไล่ตามแฉไม่เลิกรา ภาพและคลิปความผิดของเขากระจายเต็มโซเชียล คนที่เคยยกยอ เขาหลบหน้าไปหมด เมื่อหมดเงินหมดอำนาจทุกอย่างก็หมดสิ้น
จากคนที่เคยกินหรูนอนสบาย กลายเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร วันหนึ่ง เขาถูกผลักไสให้ไปยืนอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์เก่า ๆ ที่เขาเคยอาศัย
ผู้หญิงหลายคนที่เขาเคยทรมานยืนเรียงหน้าเอาเรื่อง ดวงตาเต็มไปด้วยความแค้นที่สะสมไว้ ไม่มีใครปรานี เสียงตะโกนประณามดังขึ้น เป็นบทลงโทษที่เขาสมควรจะได้รับ
ที่คฤหาสน์ของเชนทร์กับชามา เชนทร์เปิดข่าว ดูภาพกริชในสภาพซังกะตายด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่สายตาเยือกเย็น ชามาหัวเราะเบา ๆ แบบคนพึงพอใจเป็นอันมาก นี่เรียกว่าตายทั้งเป็น ดีกว่าให้ตายง่าย ๆ
“เห็นไหม ไม่ต้องทำอะไรเยอะ เดี๋ยวกรรมก็จัดการมันเอง” เชนทร์วางปากกาพร้อมพิงเก้าอี้ ก่อนจะเอ่ยถาม
“แล้วเราล่ะ อยากให้เฮียจัดการอะไรอีกไหม”
“ไม่ต้องแล้วค่ะ เขาได้รับกรรมไปแล้ว” เธอเอ่ยตอบก่อนจะกอดแขนพี่ชายอย่างออดอ้อน
ชามายิ้มมุมปาก เห็นน้องสาวผ่อนคลายลงบ้างก็ยิ่งพึงพอใจ ถ้าไม่จัดการหมอนั่นก็ต้อง
“ขอบคุณเฮียกับเจ๊มากนะคะ”
“มาประจบจะเอาอะไรอีกล่ะ”
“ไม่เอาอะไรค่ะ แค่อยากบอกว่ารักเฮียกับเจ๊ที่สุด”
“ปากหวาน”
“ถ้าใครกล้ามาทำร้ายน้องสาวฉันอีก บอกเลยว่าจะ ให้มันแหลกไปข้างหนึ่ง” น้ำเสียงของชามาหนักแน่นและเต็มไปด้วยการคุกคามแบบผู้มีอำนาจ
เชนทร์ดึงชมพูพริ้งมากอดแน่น ๆ ด้วยความรักและความหวง
“ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว เฮียจะดูแลน้องสาวทั้งสองคนของเฮียเอง”
ชามาเข้ามากอดจากอีกด้าน ริมฝีปากยิ้มแต่แววตาแข็งกร้าว ใครกล้ามาทำร้ายครอบครัวของเธอ ไม่ว่าจะพี่ชายหรือน้องสาวของเธอ เธอจัดการไม่เลี้ยงแน่
ชมพูพริ้งซบอกพี่ ๆ ทั้งสอง พูดออกมาเบาๆ แต่ลึกซึ้งกินใจ
“ขอบคุณที่รักชมเหมือนลูก ขอบคุณที่ดูแลชมมาโดยตลอด” ในอ้อมกอดนั้น เธอรู้สึกปลอดภัย รู้ว่าพี่ ๆ จะทำทุกทางเพื่อปกป้องเธอ แม้โลกภายนอกจะปั่นป่วน คนที่รักก็ยืนอยู่ตรงนี้ ใจเธอจึงสงบลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ห้องทำงานส่วนตัวของคมน์เงียบสนิท มีเพียงเสียงนาฬิกากับแสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านม่านหรูเข้ามาภายใน จักรเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ วางลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง
“คุณชายครับ ข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นมาแล้วครับ” คมน์เงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ มองแฟ้มหนา ๆ ตรงหน้า สีหน้าเรียบนิ่งแต่สายตาคมเข้มจับจ้องอย่างสนใจ
“เล่ามา” จักรเปิดแฟ้ม พลางรายงานเสียงเรียบ
“ชื่อเต็มชมพูพริ้ง ธนกร อายุยี่สิบสาม เรียนจบมาจากต่างประเทศครับ เพิ่งกลับมาได้ไม่นานครับ เป็นน้องสาวคนสุดท้องของคุณเชนทร์ ธนกร กับคุณชามา ธนกรครับ” คิ้วของคมน์กระตุกขึ้นนิด ๆ
“ตระกูลธนกรอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ครับ ตระกูลนี้เป็นเจ้าของอาณาจักรอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีทั้งคอนโดฯ บ้านจัดสรร ที่ดิน และบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ตามที่คุณชายรับรู้มานั่นแหละครับ คุณเชนทร์เป็นพี่ชายคนโต ดูแลธุรกิจหลักทั้งหมด ส่วนคุณชามาเป็นเจ้าของสถานบันเทิงและผับหรูในเครือ ชาไนน์กรุ๊ป คู่แข่งคนสำคัญกับธุรกิจสถานบันเทิงของเราโดยตรงครับ” คมน์เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเล็กน้อย
“เธอเป็นน้องสาวของชามาเหรอ”
“ครับคุณชาย แต่ไม่ค่อยออกงาน ไม่ค่อยมีคนรู้จักครับ พี่ชายกับพี่สาวหวงมากด้วยครับ” ความเงียบปกคลุมห้องอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่มุมปากของคมน์จะยกขึ้นเล็กน้อย
