19. จุมพิตแรก
“ว้าย....”
เสียงร้องด้วยความตกใจพร้อมกับการสะบัดเท้าเร่า ๆ ของกัญญาวีร์ ก่อนจะโผเข้ากอดเดวิดแน่นเหมือนจะโหนตัวขึ้นเพื่อไม่ให้เท้าสัมผัสกับพื้นดิน ทำให้เดวิดต้องพยุงกึ่ง ๆ จะอุ้มเธอเอาไว้อย่างรวดเร็วอย่างอัตโนมัติ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินกลับไปขึ้นรถ หลังจากรับประทานอาหารที่ร้านริมถนนข้างทางเสร็จเรียบร้อยและเตรียมตัวกลับรีสอร์ท
“มันก็แค่แมลงสาปตัวเดียวเท่านั้นเองครับ”
เดวิด บอกเสียงกลั้วหัวเราะไม่คิดว่ากัญญาวีร์จะกลัวแมลงสาปได้มากขนาดนี้ แต่เขาก็นึกขอบคุณแมลงสาปอยู่ในใจ
“แค่ตัวเดียวก็ทำให้ฉันหัวใจวายได้แล้วล่ะ”
กัญญาวีร์ ตอบเสียงสั่นขนลุกขนพอง ก่อนจะขยับตัวและเอาเท้าลงสัมผัสกับพื้นดินแบบไม่มั่นใจ
“มันตกใจเสียงของคุณ จนวิ่งหนีไปแล้วล่ะครับ”
เดวิด กระซิบบอกเสียงขบขัน แต่เธอยังกอดเขาอยู่ พอได้ยินเขาพูดเช่นนั้น กัญญาวีร์ ก็เหมือนจะนึกได้ว่าตนเองกำลังกอดเขาอยู่ จึงรีบปล่อยมือและถอยห่างเขาทันที เดวิดเสียดายที่เธอผละไปจากอ้อมกอดเขาเสียแล้ว เขาคิดว่าไม่น่าจะพูดเตือนเธอเร็วเกินไปนัก น่าจะปล่อยให้เธอกอดเขาไว้นานกว่านี้หน่อย
“ขอโทษค่ะเดฟ ที่ฉันสติแตกจนทำให้คุณตกใจไปด้วย”
เธอรีบบอกเขาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ก่อนจะรีบมุดหน้าเดินจ้ำอ้าวนำหน้าไปที่รถ ด้วยความประหม่า
เดวิด อมยิ้มเดินตามไปติด ๆ ด้วยความรู้สึกสุขใจ เขาโหยหาอ้อมกอดเมื่อสักครู่แบบไม่ตั้งใจนั้น เพราะมันทำให้เขารู้สึกดีมาก เหมือนได้กอดกับคนรักที่พลัดพรากจากกันไปนานแล้วได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เขาเผลอคิดพิเรนทร์ นึกอยากจะหาจับแมลงสาปสักฝูงมาปล่อยแถวนี้ เพื่อให้กัญญาวีร์วิ่งมากอดเขาอีกสักครั้ง
“ผมขอขับรถให้คุณนั่งนะครับ”
กัญญาวีร์ พยักหน้า พร้อมกับส่งกุญแจรถให้เขาไป เมื่อเข้ามาอยู่ในรถด้วยกันแล้ว ทั้งคู่ต่างก็ไม่มีใครพูดคุยกันอีก ได้แต่นั่งฟังเพลงในรถไปด้วยความอิ่มเอมใจ
เดวิด ฮัมเพลงไปกับบทเพลงสากลที่สื่อความหมายถึงความรัก มันทำให้เขานึกถึงภาพที่กัญญาวีร์โผเข้ากอดเขาด้วยความกลัวแมลงสาป เขายิ้มไปด้วยอยากจะได้กอดเธออีกครั้ง
แต่เมื่อทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้ก็เลยต้องสื่อสารออกไปด้วยเสียงเพลงให้เธอได้ยิน ในขณะที่กัญญาวีร์ รู้สึกประหม่าผสมสุขใจไปกับเสียงเพลงที่เขาร้องคลอไปด้วยนั้น ซึ่งบางประโยคเขาก็หันหน้ามาร้องให้เธอฟังด้วย เป็นถ้อยคำที่บรรยายถึงความรู้สึกของคนร้องเพลงที่มีต่อใครสักคน ทำให้กัญญาวีร์อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ โดยเฉพาะสายตาของเขานั้นมันสื่อความหมายว่าสนใจเธออย่างเปิดเผย กัญญาวีร์ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าหัวใจของเธอมันฟูฟ่องไปด้วยความสุข ไม่อยากจะให้ถึงรีสอร์ท เร็วเกินไปนัก
ทั้งคู่มาถึงในเวลาเกือบสามทุ่ม บรรยากาศยามค่ำคืนของรีสอร์ทเต็มไปด้วยเสียงร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนานของลูกค้าที่มาเข้าพัก โดยที่ลานกิจกรรมนั้นได้จัดเป็นสวนอาหารยามค่ำคืนที่ให้บริการด้านอาหารเครื่องดื่ม และความบันเทิงบนเวทีเล็ก ๆ
เดวิด ขับรถผ่านกลุ่มคนที่กำลังดื่มกินอย่างสนุกสนานนั้นไปยังบ้านพักของเขาริมแม่น้ำ
“ช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวมาพักเต็มหมด คืนนี้คุณอาจจะต้องนอนฟังเสียงเพลงถึงห้าทุ่มค่ะ”
กัญญาวีร์ บอกเมื่อเดวิดขับรถมาจอดหน้าบ้านพักพอดี
“ผมว่าน่าสนุกดีนะครับ บางทีคืนนี้ผมอาจจะออกมานั่งฟังพวกเขาร้องเพลงที่ระเบียงก็ได้”
เดวิด ยังไม่ยอมลงจากรถ เขามองหน้ากัญญาวีร์ ทำท่าอ้อยอิ่งเหมือนไม่อยากจะลงจากรถไปง่าย ๆ
“คุณไปพักผ่อนเถอะค่ะ แล้วพบกันพรุ่งนี้สาย ๆ นะคะ”
กัญญาวีร์ ใจเต้นรัวเมื่อเขามองเธอด้วยสายตาหวานซึ้ง
“พรุ่งนี้ ผมขอพักเพื่อเดินเที่ยวรอบ ๆ รีสอร์ทสักวัน ผมอยากจะลงเล่นน้ำด้วย”
“ได้ค่ะ...งั้นพรุ่งนี้ฉันคงปล่อยให้คุณได้อยู่ตามลำพัง”
“ได้โปรดอย่าให้ผมต้องอยู่ตามลำพังเลยครับ ผมอยากให้คุณเกรซแวะมาหาผม คือ ผมมีเรื่องที่อยากจะพูดคุยกับคุณเกรซ...หลายเรื่อง”
“ได้สิคะ งั้นจะให้ฉันมากี่โมงคะ”
“สิบโมงก็ได้ครับ แล้วทานมื้อเที่ยงด้วยกันด้วย”
“โอเค. งั้นพบกันพรุ่งนี้สิบโมงนะคะ เชิญค่ะ”
“เกรซ...คุณยังอยากดูภาพวาดนั้นอยู่ไหม”
เดวิด ยังไม่อยากแยกจากเธอไปในตอนนี้ จึงถามในสิ่งที่กัญญาวีร์ อยากรู้
“อยากสิคะ”
เธอรีบตอบรับในทันใด เดยิ้มด้วยความพอใจ
“งั้น..เชิญที่บ้านพักครับ”
เดวิด อยากอยู่ใกล้ชิดกับเธอให้นานขึ้นนั่นเอง ทั้งที่ความจริงแล้ว เขาสามารถที่จะเปิดมือถือให้เธอดูในตอนนี้ก็ได้
กัญญาวีร์ ยังไม่ทันจะได้ลงจากรถ และเดวิดก็ยังไม่ทันที่จะดับเครื่องยนต์ ก็มีเสียงสัญญาณจากมือถือของกัญญาวีร์ ดังขึ้น และเธอกดรับสาย ก่อนจะพูดคุยด้วยภาษาไทย ที่เดวิดฟังไม่ออก จนเธอวางสาย แล้วก็หันมาบอกกับเขาว่า
“เดฟคะ..ฉันว่า...เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
เดวิด มีสีหน้าผิดหวัง
“พอดียัยฟ้าเพื่อนฉันไม่สบายน่ะค่ะ ฉันต้องไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
เดวิด จำต้องพยักหน้ารับด้วยความเสียดาย แต่ก่อนที่เขาจะลงจากรถไปก็ได้ทำอะไรบางอย่างแบบหักห้ามใจจากพลังดึงดูดของหัวใจไม่ไหว จนต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าของกัญญาวีร์ โดยที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ทันตั้งตัว จึงถูกเขายื่นมือไปโอบต้นคอให้โน้มใบหน้าของเธอเข้ามาแนบชิดกับใบหน้าของเขา ก่อนจะจุมพิตที่ริมผีปากของเธอเบา ๆ อย่างอดใจไม่ไหว
“ขอบคุณมากครับ สำหรับการนำเที่ยวในวันนี้ผมมีความสุขมาก ฝันดีนะครับเกรซ”
เดวิด ตั้งสติควบคุมตัวเองด้วยการถอนริมฝีปากอย่างเสียดาย ไม่อยากให้อีกฝ่ายตกใจไปมากกว่านี้นั่นเอง
กัญญาวีร์ ใจสั่นหวิวหน้าแดง รู้สึกตกใจในตอนแรกแต่เพียงครู่เดียวก็รู้สึกถึงความสุขแผ่ซ่านไปทั้งตัว แต่พอคิดอีกทีว่า นี่อาจจะเป็นเพียงธรรมเนียมการขอบคุณหรือลาจากของเขา ก็ทำให้กัญญาวีร์ พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นและกล่าวลาเขาเสียงแผ่วเบา
