บทที่ 2 รับงาน (1)
“เอาไงดี?”
เป็นสุกฤตทำหน้าตาตื่นเพราะคิดไม่ถึงว่าจะเจอแจ็คพ็อตเข้าเต็ม ๆ ก็ใครจะไปคิดว่าแม่ของกล้าตะวันจะบุกมาที่ออฟฟิศ พร้อมกับว่าที่คู่หมั้นของลูกชายชนิดไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า
“นายออกไปรับหน้าแม่ฉันก่อน ถ่วงเวลาเอาไว้ ทำยังไงก็ได้ ไม่ให้แม่ฉันเข้ามาในห้องก็พอ” กล้าตะวันบอกด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ดูไม่ตื่นเต้นกับการมาของมารดาสักเท่าไหร่
“ทำไมนายถึงไม่ให้คุณนายแม่เข้ามาวะ?” คนถูกไล่ให้ออกไปรับหน้าคุณนายหทัยกาญจน์ เท้าสะเอว นิ่วหน้าถามอย่างสงสัย
“เอาเถอะน่า มันเป็นแผน ไปเร็วเข้าเถอะ”
พอกล้าตะวันเร่ง สุกฤตเลยมองหน้าเฌอรินทร์แวบหนึ่ง แล้วรีบผละไปทันที
เฌอรินทร์ตั้งใจตามเพื่อนไปด้วย แต่เธอก็ถูกกล้าตะวันรั้งต้นแขนไว้ก่อน หญิงสาวเลยหันไปทำตาเขียว พร้อมสะบัดแขนออกอย่างหวงเนื้อหวงตัว
“งานของเธอเริ่มแล้วทับทิม มานี่สิ” กล้าตะวันสั่งด้วยเสียงเฉียบ แล้วจับต้นแขนหญิงสาวเพื่อดึงตัวเธอมาที่เก้าอี้ทำงาน ทว่าคนถูกรั้งต้นแขนก็ขืนตัวออก
“คุณจะทำอะไร?”
“จัดฉาก สร้างสถานการณ์ สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เรื่องของเราดูมีน้ำหนักมากขึ้น” เจ้าของรอยยิ้มมั่นใจตอบหน้านิ่ง พร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ผู้บริหารพลางตบตักเรียกหญิงสาว
“มานั่งนี่สิ”
“นั่งตักคุณเนี่ยนะ?” คนถูกเรียกทำหน้ายุ่งมากกว่าเก่า เพราะตามความคิดของอีกฝ่ายไม่ทัน
“ฉันเรียกก็มานั่งเถอะน่า เร็วเข้า” กล้าตะวันทำเสียงรำคาญที่หญิงสาวไม่ยอมให้ความร่วมมือ
“เดี๋ยวนะคุณ ไอ้ที่เราตกลงกันไว้ มันไม่ใช่แบบนี้นี่”
“หลักสูตรการเป็นแฟนแบบเร่งรัด ก็ต้องทำแบบนี้แหละ แม่ฉันจะได้เชื่อไงว่าเธอเป็นแฟนของฉัน” ว่าแล้วกล้าตะวันก็รั้งตัวหญิงสาวเข้าไปกอดทันที
แน่นอนว่าเฌอรินทร์ที่ไม่เห็นด้วยขัดขืนเต็มที่ นอกจากไม่ให้ความร่วมมือหญิงสาวยังงัดเอาศิลปะป้องกันตัวมาใช้ แต่เพราะชุดกระโปรงที่เธอใส่ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก และกล้าตะวันก็กอดเธอไว้แน่น เธอเลยจัดการเขาไม่ได้ตามที่ใจต้องการ
“นี่ ปล่อยฉันนะ!”
ไม่บอกเสียงเขียวเพียงอย่างเดียว หญิงสาวยังบิดเนื้อชายหนุ่มด้วย แต่กล้าตะวันก็ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“อยู่เฉย ๆ ก่อนได้มั้ย แค่การแสดง ฉันไม่ปล้ำเธอหรอกน่า”
“แต่คุณกำลังลวนลามฉันอยู่! เมื่อครู่เราไม่ได้ตกลงกันไว้แบบนี้นี่” คนถูกเอาเปรียบแย้งเสียงเขียว
“เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยกันทีหลัง รับรองว่าฉันจ่ายให้เธอ คุ้มกับที่เธอเสียไปแน่”
ฟังเขาพูดสิ!!
“แต่ฉันไม่ชอบแบบนี้!!” หญิงสาวตวาด
“แต่ฉันชอบ!”
ชายหนุ่มบอกเพื่อตัดบทแล้วรั้งตัวหญิงสาวมานั่งบนตัก แต่เพราะเฌอรินทร์พยศ ไม่ให้ความร่วมมือ เขาเลยตัดปัญหาด้วยการรวบตัวหญิงสาวเอาไว้เพื่อกันไม่ให้เธอขัดขืน กระนั้นเฌอรินทร์ก็ไม่วายพยศด้วยการข่วนเล็บที่ใบหน้าและซอกคอ!
“เอ๊ะ ปล่อยฉันนะ!”
“ไม่ปล่อย ตามที่ตกลงกันตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้ว เธอเป็นสิทธิ์ของฉันแล้วทับทิม”
“สิทธิ์บ้าสิ!”
หญิงสาวกระแทกเสียงแล้วเหยียบปลายเท้าของอีกฝ่ายพร้อมบดขยี้กดน้ำหนัก เพื่อทำให้เขาปล่อยเธอ แต่กล้าตะวันก็ไม่ปล่อย ซ้ำร้ายเขายังจับมือเธอไพ่หลัง เบียดตัวเข้าหาเธอ แล้วจุมพิตปิดปากเธอดื้อ ๆ ซึ่งมันเป็นจังหวะที่ประตูห้องถูกผลักออกกว้างพอดี!!
อย่าว่าแต่เฌอรินทร์ที่เบิ่งตากว้างด้วยความตกใจกับการจู่โจมที่เธอตั้งหลักรับไม่ทันเลย แม้แต่ผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้องก็อยู่ในอาการตะลึงงันเช่นกัน
“ตาไทม์!!” คุณหทัยกาญจน์ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นพฤติกรรมของลูกชายเต็มตา
“อุ้ย!”
สุกฤตที่ตามเข้ามาทีหลังถึงกับอุทานและผงะไปเช่นกัน ส่วนกชกรพอเห็นภาพล่อแหลมของว่าที่คู่หมั้น เธอก็ตาวาวโรจน์ขึ้นมาทันที
พอเสียงของมารดาดังขึ้น กล้าตะวันก็คลายอ้อมกอดออก เพราะสิ่งที่เขาต้องการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว ทว่าเขาก็สะดุ้งตัวงอเป็นกุ้งทันทีเมื่อเจอเฌอรินทร์กระแทกเข่าใส่หว่างขา...
แม้จะไม่โดนเต็ม ๆ แต่ก็ทำให้เขาจุกจนพูดไม่ออกได้เช่นกัน
“ว้าย! ตายแล้ว” คุณหทัยกาญจน์ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แล้วรีบตรงเข้าไปพยุงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วหันไปเรียก ‘ว่าที่ศรีสะใภ้’ ที่นางหมายตาไว้
“หนูชมพู่ มาดูพี่ไทม์หน่อยลูก พี่เขาแย่แล้ว”
คนถูกเรียกที่แสดงความไม่พอใจผ่านสีหน้ามาตามเรียก แล้วโผเข้าไปจับแขนกล้าตะวันทันที “พี่ไทม์เจ็บมากมั้ยคะ”
กล้าตะวันไม่ตอบเพราะยังจุกอยู่
