บทที่2
บทที่ 2
หลังจากไหลตามน้ำจนได้กลับมาถึงเรือนนอนของตัวเองเว่ยเว่ยก็เริ่มรู้สึกว่าฝันนี้มันช่างยาว...และนาน...ยิ่งนัก จะบอกว่าเธอหลับข้ามวันข้ามคืนปกติก็ต้องมีตื่นบ้าง
“หรือนี่ไม่ใช่ความฝันกัน” เว่ยเว่ยบ่นกับตัวเองแต่สาวใช้คนสนิทที่หญิงสาวเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายชื่อชิงเอ๋อร์เพราะคนที่เป็นมารดาของนางเรียกก็ตอบให้ในทันที “ตื่นแล้วเจ้าค่ะ ตื่นมาหลายชั่วยามแล้วด้วย”
เว่ยเว่ยที่ได้ฟังคำของอีกฝ่ายก็พอจะเดาได้ว่าความสนิทสนมของสองนายบ่าวคงมีไม่น้อยจึงแกล้งถามออกไปเพื่อที่จะสอบถามข้อมูล
“เช่นนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเจ้าบอกได้ไหมว่าที่นี่ที่ไหนหรือข้าเป็นใครกัน บางทีเจ้าอาจจะเป็นมารแห่งความฝันก็ได้นะ” เพราะอ่านนิยายจีนโบราณมามากกว่าร้อยเล่มจึงไม่แปลกที่จะพูดจาสมัยนี้ได้อย่างคล่องปาก
“โธ่...คุณหนูท่านน่ะชอบแกล้งข้าเสียจริง”
เว่ยเว่ยเห็นอีกฝ่ายทำหน้ายู่ก็รู้สึกชอบใจ ยังทำท่านอนรอฟังและยิ้มขำสาวใช้ของตนอีกด้วย
“ที่นี่เป็นแคว้นฉู่เจ้าค่ะ และคุณหนูก็อยู่ในจวนของเจ้ากรมการคลังเจียงเฉินผู้ยิ่งใหญ่เพราะคุณหนูซีเว่ยเป็นบุตรสาวคนเดียวของนายท่านจ้าค่ะ ให้ข้าบอกมากกว่านี้อีกไหมเจ้าคะ” เว่ยเว่ยทำหน้านึกก่อนจะตกใจเมื่อคิดได้ว่าเรื่องราวต่าง ๆ มันดูคุ้น ๆ
“มารดาของข้าชื่อจางฉี่หลันด้วย” หญิงสาวใช้ไหวพริบของตัวเองเติมเนื้อเรื่องที่สงสัยว่าจะใช้เข้าไปแล้วก็ได้คำตอบที่ทำให้ต้องตกตะลึง
“คุณหนูนี่ขี้แกล้งจริง ๆ ข้าจะฟ้องนายท่านกับฮูหยิน” ยิ่งได้ฟังคำของสาวใช้ก็ยิ่งมั่นใจ แม้ว่าชื่อจางฉี่หลันจะโผล่มาแค่ไม่กี่ครั้งแต่เว่ยเว่ยก็จำได้ว่ามันเป็นชื่อมารดาของตัวร้าย
บ้าจริงจะฝันทั้งทีก็ดันฝันเป็นตัวร้ายซะได้ ว่าแต่นี่จะฝันอีกนานไหมนะ ต่อให้เป็นตัวร้ายก็อยากเห็นหน้าของพระเอกสักครั้งก่อนตื่นนี่นะ ว่าจะหล่อบาดหัวจิตหัวใจมัมมี่คนนี้หรือเปล่า
“นี่ท่านแม่ทัพอี้กลับมาหรือยัง” เว่ยเว่ยกระซิบถามสาวใช้ แต่สีหน้าที่ดูจะมึนงงทำให้นางเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้
“แม่ทัพอี้หรือเจ้าคะ...มิใช่ว่าท่านแม่ทัพที่คุณหนูว่ายังรบอยู่ที่ชายแดน” เว่ยเว่ยได้ฟังอย่างนั้นก็ยิ้มกริ่ม
“วันนี้ข้าว่าจะนอนเร็วหน่อยเจ้าช่วยจัดการหน่อยนะ” เมื่อมั่นใจว่านี่อาจจะเป็นฝันของนิยายที่กำลังอ่านเว่ยเว่ยก็คิดจะนอนหลับเพื่อเร่งวันเร่งคืน ในใจก็นึกว่าจะเร่งได้จริง ๆ ไหมนะ คงไม่ตื่นขึ้นมาก่อนจะได้เจอกับพระเอกใช่ไหม...อยากเจอ อยากเจอสักครั้ง
หญิงสาวที่ลงนอนบนฝูกที่สาวใช้เตรียมให้หลับไปพร้อมกับความคิดเหล่านั้น แต่เมื่อยามค่ำคืนผ่านไปแล้วเช้าเวียนมาบรรจบอีกครั้งความสงสัยของเว่ยเว่ยก็เกิดขึ้น
นิ้วทั้งสองบิดเนื้อตัวเองอย่างแรงจนต้องร้องออกมา ชิงเอ๋อร์ที่กำลังเตรียมน้ำล้างหน้าและเสื้อผ้าใหม่ให้หันมองอย่างสงสัย “คุณหนูเป็นอะไรอีกแล้วเจ้าคะ”
เว่ยเว่ยมองไปที่ทุกอย่างที่ยังคงเหมือนเดิม
ห้องยังคงเป็นห้องนอนในแบบโบราณ และชิงเอ๋อร์ก็ยังเตรียมนู่นนี่อยู่ตรงหน้า “ไม่จริงน่า” เสียงอุทานเบา ๆ ทำให้สาวใช้หันมองคุณหนูของตัวเองเป็นรอบที่สอง แต่พอเสียงหัวเราะดังตามมาชิงเอ๋อร์ก็ละสายตาไปทำอย่างอื่นแทน
เว่ยเว่ยหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง หรือว่านี่จะเป็นอย่างที่คิดหญิงสาวคิดในใจแล้วอยากกรีดร้องออกมาดัง ๆ ด้วยความดีใจไม่ใช่ตกใจอย่างหลาย ๆ ตัวละครในนิยายที่เคยได้อ่าน
“รีบแต่งตัวเข้าข้าจะไปตลาด” เว่ยเว่ยไม่รอช้าหญิงสาวรีบสั่งสาวใช้ของตัวเองก่อนจะออกไปดูทุกอย่างให้เห็นกับตา เพราะถ้าเมืองเป็นยุคโบราณและมีทุกอย่างอย่างที่ในนิยายว่าจริงก็เป็นไปได้ว่าตอนนี้หญิงสาวได้หลุดเข้ามาอยู่ในนิยาย และถ้าเป็นอย่างนั้น...
เว่ยเว่ยหุบยิ้มไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะหากจะบอกเหตุผลในการชอบนิยายเรื่องนี้ก็เป็นเพราะพระเอกเพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวและหล่อขนาดนั้น ถ้าได้เห็นสักครั้งคงเป็นบุญตา เว่ยเว่ยคิดไปก็ยิ้มไปก่อนดวงตาจะเบิกโตขึ้น
“ไม่ใช่สิพวกเขายังไม่ได้เจอกัน” หญิงสาวโพลงออกมาจนชิงเอ๋อร์ที่เดินเข้าไปเอาชุดให้กับนายของตนต้องเร่งออกมาดู
“คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ”
เว่ยเว่ยส่ายหน้า “จะบอกว่าไม่มีก็ไม่ได้” หญิงสาวบอกกับสาวใช้ที่ทำหน้างุ่งงงไปและเดินไปยังอ่างล้างหน้าและเริ่มจัดการตัวเองได้แนบเนียนไม่ผิดกับหญิงสาวในยุคนี้แม้แต่น้อย
แต่งตัวไปใจก็อดคิดไปถึงเนื้อเรื่องไม่ได้ ในนิยายเจียงซีเว่ยเป็นนางร้ายเพราะเจอพระเอกทีหลัง แต่ตอนนี้พระเอกกับนางเอกยังไม่ได้เจอกันสักหน่อย
หากเป็นคนทั่ว ๆ ไปทะลุมิติมาคงไม่คิดหาเรื่องใส่ตัวโดยการยุ่งเกี่ยวกับพระเอกและนางเอก แต่คนอย่างเว่ยเว่ยไม่ใช่
ไหน ๆ ก็มีโอกาสและท่านแม่ทัพอี้ก็หน้าตาและนิสัยดีขนาดนั้น หากนางจะลองจีบอีกฝ่ายก่อนที่เจ้าตัวจะเจอกับนางเองก็คงไม่ถือว่าผิดกระมัง ในเมื่อทั้งสองยังไม่ได้เจอและเป็นคนรักกันเลย
คนที่รักเดียวใจเดียวทั้งยังหล่อและเก่งขนาดนี้จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร
หากหลุดเข้ามาเป็นนางเอกของเรื่องคงดีไม่น้อย แต่เว่ยเว่ยเลือกได้ไหม เลือกได้หรือเปล่า
ก็ไม่
เอาน่านางร้ายก็นางร้าย หญิงสาวปลอบใจตนเอง อย่างน้อย ๆ ก็อ่านจนเกือบจบแล้ว พอจะรู้เรื่องราวว่าพระเอกและนางเอกพบเจอกันได้อย่างไร
อย่างน้อย ๆ สวรรค์ก็ให้นางมาในช่วงเวลาที่ทั้งสองยังไม่ได้รักกัน ก็ถือว่ามีเมตตามิน้อย
