บทที่3
บทที่ 3
เว่ยเว่ยเดินไปทั่วทั้งตลาดและมั่นใจว่าตอนนี้นางคงทะลุมิติมาเป็นแน่ แม้จะน่าเหลือเชื่อแต่ใครจะสนล่ะในเมื่อนี่ก็คือหนึ่งในสิ่งที่นางเคยอยากให้เกิดกับชีวิต
“งานลอยโคมอีกกี่วันหรือ” หญิงสาวถามสาวใช้คนสนิท ที่นางถามนั้นมีเหตุผลเพราะพระเอกของเรื่องนี้กลับมาก่อนเทศกาลลอยโลมเพียงสองวัน ทุกคนต่างบอกว่าเขานำความสุขกลับมาสู่แคว้นแต่ตอนนี้ยังคงไม่มีใครรู้
เว่ยเว่ยมองเส้นทางที่น่าจะเป็นทางที่ขบวนของแม่ทัพอี้จะผ่านแล้วก็หลุดยิ้มออกมาเมื่อมองไปที่โรงน้ำชาที่ดูจะเป็นที่นิยม
“งานโคมหรือเจ้าคะ...คุณหนู คุณหนูไปไหนแล้ว” ชิงเอ๋อร์ที่กำลังคิดคำตอบให้เจ้านายหันมาอีกทีนางก็เดินเข้าโรงน้ำชาไปแล้วจนสาวใช้อย่างนางวิ่งตามแทบไม่ทัน
เว่ยเว่ยขึ้นไปที่ชั้นสองและมองซ้ายขวาเมื่อเจอโต๊ะที่ถูกใจก็บอกให้ชิงเอ๋อร์ไปบอกกับเถ้าแก่ของร้านว่านางจะจองโต๊ะนี้สองวันก่อนจะถึงงานลอยโคม
โต๊ะที่จองเป็นจุดที่เว่ยเว่ยรู้ว่าขบวนของแม่ทัพจะเคลื่อนเข้าสู่มเมืองหลวง และเป็นจุดที่เห็นทุกอย่างชัดเจนที่สุด หากเป็นตั๋วคอนเสิร์ตก็เรียกได้ว่า VVIP
มือเรียวยกชาขึ้นดื่ม การรู้เนื้อเรื่องล่วงหน้าก็ดีอย่างนี้เองเว่ยเว่ยขึ้น ตอนนี้ก็รอให้ถึงวันที่แม่ทัพอี้จะกลับมาถึงก็พอ จะว่าไปใบหน้าของเจียงซีเว่ยก็ไม่ขี้ริ้วบำรุงแต่งเติมสักนิดขี้ค้านจนงามจนหนุ่ม ๆ หันมอง แต่ขอโทษเถอะหนึ่งเดียวในใจของนางคือแม่ทัพอี้เท่านั้น หญิงสาวคิดไปก็ยิ้มไปแต่จู่ ๆ ใบหน้าสวยก็หุบยิ้ม
“แล้วถ้าเขาไม่ชอบข้าล่ะ” เว่ยเว่ยบ่นพึมพำคนเดียวจนสาวใช้ที่เดินกลับมาถึงกับขมวดคิ้วสงสัย ช่วงนี้คุณหนูของนางแปลกประหลาดนักทั้งคำพูดทั้งท่าทาง
“มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะคุณหนู” เว่ยเว่ยส่ายหน้า “เจ้าจัดการเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่” ชิงเอ๋อร์พยักหน้าและรายงานเจ้านายตน
“เช่นนั้นก็ไปซื้อเครื่องสำอาง...มิใช่สิเครื่องประทินผิวกันเถอะ ข้าอยากได้ชุดใหม่ด้วย...ข้าซื้อได้ใช่หรือไม่” ที่ต้องถามเพราะนางไม่แน่ใจถึงฐานะของตระกูลถึงจะดูร่ำรวย และชิงเอ๋อร์ก็จ่ายทุกอย่างที่ผ่านมาแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัด
“หากเงินที่ฮูหยินให้มาไม่พอ ก็สั่งให้ไปส่งที่จวนได้เจ้าค่ะ” ได้ฟังอย่างนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเว่ยเว่ยอีกครั้ง
นางตั้งใจแล้วว่าจะต้องขุดเอามารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนมาใช้ ก่อนอื่นก็ต้องโดดเด่นที่สุดแล้วก็ใช้...สามบทพิชิตใจชายหนุ่มให้มาเป็นสามี หญิงสาวคิดแล้วก็หยุดเดินกึกจนชิงเอ๋อร์ที่ตามมาด้านหลังเกือบจะชนนางเข้า
“สามไม่พอเอาห้าไปเลย” เว่ยเว่ยพูดออกมาก่อนจะก้าวเดินต่อ นางคิดนั่นนี่ในใจเป็นแผนการง่าย ๆ และตั้งใจว่ากลับเรือนจะเขียนเรียบเรียงมันออกมาอีกที ถ้าไม่สำเร็จก็ค่อยเพิ่มก็ได้นี่นาเวลามีจนถึงวันที่ทั้งสองจะเจอกัน ถ้าถึงวันนั้นแล้วเขายังคงไม่มองนาง นางก็จะไม่ตอแย แค่คิดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดใบหน้าสวยก็ยู่น้อย ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา
จนกว่าเขาจะเจอกับนางเอกและตกหลุมรักนางเพียงผู้เดียวทั้งชีวิตก่อนหน้านั้นเขาคือของข้าคนนี้...
ซาแซง เห้ย แฟนคลับ
ไม่นานนักข่าวแม่ทัพอี้ชนะศึกก็มาถึง วันที่ที่เขาเดินทางมาถึงเมืองก็ดันตรงกับวันที่เว่ยเว่ยจองโต๊ะที่โรงน้ำชาเอาไว้พอดีจนชิงเอ๋อร์พูดว่าโชคดีออกมาตั้งหลายครั้ง แต่เว่ยเว่ยกลับทำเพียงแค่ยิ้ม
หญิงสาวยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองของโรงน้ำชา เสียงคนที่ดังมาเรื่อย ๆ บอกให้รู้ว่าคนที่นางรอกำลังมาถึง ตามเนื้อเรื่องนางเอกจะเจอกับพระเอกในคืนงานเลี้ยงต้อนรับในวันถัดไปนางมีโอกาสแค่วันนี้เท่านั้น
ยิ่งขบวนของอีกฝ่ายใกล้เข้ามาหญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ถึงกระนั้นก็ยังแอบบ่นในใจไม่ได้เพราะตอนนี้แม่ทัพอี้อยู่ในชุดแม่ทัพเต็มยศซึ่งหมวกของมันทำให้นางเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัด
แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะมารยาบทแรกที่เตรียมเอาไว้จะทำให้นางได้เข้าใกล้กับเขาจนน่าจะเห็นใบหน้าใต้หมวกเหล็กนั่นได้ง่าย ๆ
เมื่อขบวนของชายหนุ่มเข้ามาใกล้ คนที่อยู่ด้านในโรงน้ำชาเริ่มขยับมาที่ระเบียงเพื่อดู เว่ยเว่ยทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดใส่ระเบียงที่สั่งให้สาวใช้มาเลื่อยเอาไว้จนจนเจียนจะหัก แค่พลักนิดหน่อยก็ทำระเบียงแยกออกจากกัน นางแสร้งหวีดร้องราวกับถูกดันจากด้านหลังก่อนที่หญิงสาวจะตั้งใจทิ้งตัวจากชั้นสองลงไปที่พื้นด้านล่างหน้าขบวนของแม่ทัพหนุ่มที่ขยับอย่างช้า ๆ เพื่อให้บรรดาคนที่ออกมาต้อนรับเขาได้พบเจเขาใกล้ ๆ
“คุณหนูของข้าจะตกแล้ว ใครก็ได้ช่วยด้วย” เสียงของชิงเอ๋อร์ดังขึ้นราวกับนัดแนะกันเอาไว้ เสียงของนางดังโวยวายจนทำให้ผู้คนหันมองคุณหนูคนหนึ่งที่กำลังจะล่วงลงจากระเบียงชั้นสอง มือของนางจับราวระเบียงเอาไว้ได้แต่ก็ใกล้จะหมดแรงเต็มที
นิ้วเรียวค่อย ๆ คลายออกทีละนิด ทีละนิดจนกระทั่งมันไม่สามารถเกี่ยวกับระเบียงและรับน้ำหนักหญิงสาวเอาไว้ได้อีกต่อไป แม้ว่านี่จะน่ากลัว แต่สำหรับเว่ยเว่ยแล้วมันเป็นไปตามแผนทุกอย่าง
นางสู้อุตส่าห์ฝึกซ้อมกระบวนท่าพลัดตกให้งดงามที่สุดจนรุ่งสาง ไม่ว่าจะเป็นท่าวิหกโผถลา เป็นท่าที่ต้องโผเข้าสู่อ้อมกอดของอีกฝ่ายและให้สองสายตาประสานกัน เขาต้องตกหลุมรักนางแน่
เมื่อเห็นว่าทุกคนมองมาแล้วหญิงสาวก็แสร้งกรีดร้องและปล่อยมือออกจากระเบียงก่อนจะร่วงลงใน... แต่ระยะเวลามันกระชั้นชิดจนเกินไปท่าที่คิดว่าดีที่สุดไว้จึงทำไม่ได้ เว่ยเว่ยตัดสินใจในจังหวะที่ไม้ระเบียงหักหลุดออกจากกัน เปลี่ยนเป็นท่า
กระบวนท่าวิหคน้อยตกรัง
ทิ้งร่างกายลู่ไปตามแรงดึงดูดของโลกเอนตัวลงอย่างรวดเร็ว แขนและขาอาจเหยียดออกคล้ายการพยายามทรงตัวหรือคว้าจับสิ่งใด แต่ไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงได้ หวีดร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัวหวังให้ผู้ชาย…ให้แม่นกมาช่วย
