บทที่ 6 วางรากฐาน
บทที่ 6 วางรากฐาน
กวงเผิงซูมองตามทั้งสองคนไปด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ความจริงแล้ววันนี้เขาแค่ต้องการมาตรวจสอบตลาดของหลานชาย และมาดูเผื่อว่าจะมีพ่อค้าคนกลางมาขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในนี้ แต่ไม่คิดว่าตนเองจะเป็นลมแดดเสียก่อน
สายตาของชายชราเห็นคนสนิทกำลังเดินเข้ามาก็รีบกวักมือเรียก
“นายท่านผู้เฒ่าเกิดอะไรขึ้นครับ” จงอี้คนสนิทเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“พอดีฉันเวียนหัวน่ะ แต่หญิงสาวเมื่อครู่นี้ช่วยไว้” นายท่านผู้เฒ่ากวงบอกกับคนสนิท
“นายท่านผู้เฒ่าจะไปโรงพยาบาลไหมครับ ผมจะเรียกคนมา” คราวนี้จงอี้มีความตกใจมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าเจ้านายไม่สบาย เพราะถ้าหากนายท่านกวงหลานชายของนายท่านผู้เฒ่ารู้เรื่องนี้เขาคงงคอขาดแน่นอน
“นายอย่าแตกตื่นอย่างนั้นสิ ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้รอแค่หญิงสาวทั้งสองคนกลับมา เธอบอกว่ามีสินค้าที่ฉันต้องการ หากเรามีสินค้าจริง ๆ ปัญหาของซีเฉินคงได้รับการแก้ไข”
นายท่านผู้เฒ่ากวงยิ้มอย่างยินดีที่คราวนี้เขาสามารถช่วยหลานชายได้
“นายท่านผู้เฒ่ามั่นใจได้อย่างไรครับ ว่าเธอทั้งสองคนนั้นจะหาสินค้าได้” จงอี้กลับไม่มั่นใจว่าหญิงสาวที่ช่วยเหลือเจ้านายไว้จะหาสินค้าได้
“สัญชาตญาณมันบอกน่ะ อย่างไรเราสองคนรอดูก็แล้วกัน ว่าแต่แก้วนี้เก็บความเย็นดีเหลือเกิน”
นายท่านผู้เฒ่ากวงยิ้ม พร้อมกับมองแก้วน้ำหวานในมือด้วยความพอใจ
ส่วนทางด้านของหูจินหลินกับเสี่ยวม่าน เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาในตรอกมืดที่ลับตาคนแล้ว จึงพูดเรื่องนี้กันอย่างเคร่งเครียด
“พี่จินหลิน พี่แน่ใจเหรอว่าจะขายสินค้าให้กับคุณตาท่านนั้น” เสี่ยวม่านยังมีความกังวล เธอไม่อยากให้ความลับพี่สาวรั่วไหลจนเกิดอันตราย อย่างไรตอนนี้และต่อไปเธอต้องปกป้องอีกฝ่ายให้ได้ แม้ว่าจะอันตรายถึงชีวิตก็ตาม
“ฉันตั้งใจจะเอาของในมิติออกมาขาย ฉันเชื่อนะเสี่ยวม่านว่าตอนนี้นายท่านคนนั้นกับตระกูลหูอาจจะหาทางสืบข่าวของพวกเราอยู่ ไม่ว่าอย่างไร หากเรามีเส้นสายที่ใหญ่พอ หรือถ้าเราสองคนทำให้ตนเองมีอิทธิพลจากทางใต้ได้ เรื่องปัญหาที่เราหนักใจคงคลี่คลายได้ไม่ยาก และการเป็นแม่ค้าขายซาลาเปาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เรามีวันนั้น”
หูจินหลินเลือกที่จะมองการไกล ต่อให้นิยายเรื่องนี้จบไปแล้ว แต่ใครบอกได้บ้างว่าคนพวกนั้นจะไม่ตามหาร่างนี้กับเสี่ยวม่าน
เพราะอย่างนั้นแล้ว ทำการค้ากับคนใหญ่คนโตย่อมเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
อีกอย่าง หูจินหลินคิดว่าตนเองมองไม่ผิด คุณตาเผิงซูไม่ใช่คนธรรมดาเลย หากทำความรู้จักไว้ก็ไม่เสียหาย และยิ่งทำการค้าด้วยกันแล้ว หญิงสาวคิดว่าปัญหาที่หนักใจคงแก้ได้ไม่ยาก
เสี่ยวม่านฟังจบก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่เธอคิดถึงปัญหาใหญ่นั่นคือการขนส่งสินค้าและเอาตัวอย่างสินค้าให้คุณตาเผิงซูดู
“ปัญหาของเราคือทำอย่างไรถึงจะขนส่งสินค้าไม่มีปัญหา และจะเอาสินค้าตัวอย่างให้คุณตาเผิงซูดูได้อย่างไรนะพี่จินหลิน”
“สินค้าตัวอย่างเราก็เอามากองไว้ตรงนี้แหละ ถ้าเกิดคุณตาเผิงซูตัดสินใจซื้อสินค้าที่พวกเรามี กติกาของฉันก็คงจะต้องให้คุณตาเขาหาโกดังไว้ให้ แล้วเราค่อยเอาสินค้าเข้าไปไว้จากนั้นก็นัดวันส่งสินค้า แค่นี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาแล้วนะ”
หญิงสาวคิดว่านี่คือทางออกและตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว หรือไม่ก็ต้องหาเช่าโกดังสินค้า แต่มันก็สิ้นเปลืองอีกนั่นแหละเพราะไม่ได้ขายทุกวันเสียหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน พี่คิดว่าสิ่งไหนสะดวกกับพวกเรา ฉันก็สนับสนุนทุกอย่าง” เสี่ยวม่านยิ้มกว้างอย่างยินดี
เมื่อสรุปกันได้แล้วว่าจะทำอย่างไร หูจินหลินจึงตัดสินใจเอาตัวอย่างสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าออกมาอย่างละหนึ่งชิ้น
“เธอรอฉันตรงนี้ก่อนนะเสี่ยวม่าน ฉันจะไปตามคุณตาเผิงซูมาที่นี่ หากคุณตาตัดสินใจซื้อ เราค่อยบอกตามที่เราคิดกันเรื่องโกดัง”
“ได้ค่ะพี่ใหญ่ ฉันขอเรียกพี่อย่างนี้ได้ไหม” เสี่ยวม่านเปลี่ยนมาเรียกอีกฝ่ายว่าพี่ใหญ่ เนื่องจากทำการค้าในตลาดมืด ไม่ควรให้คนรู้ชื่อเยอะ
“ได้สิ” เธอยิ้มให้อย่างยินดี ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่จุดนัดพบ
“ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณตาที่ให้รอนาน ว่าแต่…” หูจินหลินรีบกล่าวขอโทษ แต่พอเห็นว่ามีคนยืนอยู่ด้วยเธอก็เลือกที่จะเงียบไป
“ไม่ต้องกลัว นี่คือคนสนิทของฉันเอง” นายท่านผู้เฒ่ากวงยิ้มให้พร้อมกับบอกหูจินหลินว่านี่คือใคร
พอได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็ยิ้มให้อีกฝ่ายและก้มหัวลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดกับกวงเผิงซูอีกครั้ง
“เรื่องสินค้าฉันพอจะหาได้ค่ะ ฉันมีตัวอย่างให้คุณตาดูด้วย ส่วนคุณตาจะตัดสินใจซื้อหรือไม่นั้นก็สุดแล้วแต่คุณตาเลยค่ะ”
“จริงเหรอ เธอมีสินค้าที่ฉันต้องการใช่ไหม ไปเถอะ รีบพาฉันไปดู” นายท่านผู้เฒ่ากวงปรากฏรอยยิ้มเต็มใบหน้าเมื่อได้ยินว่าเขาสามารถหาซื้อสินค้าตามที่ต้องการได้
แม้แต่กระทั่งจงอี้ ก็ไม่คิดว่าหญิงสาวรูปร่างบอบบางอย่างนี้จะหาสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ทั้งที่ตอนนี้สินค้าพวกนี้ขาดตลาด
“ตามฉันมาเลยค่ะคุณตา” หูจินหลินยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะเดินนำไปที่เสี่ยวม่านรออยู่
“พี่ใหญ่กลับมาแล้ว” เสี่ยวม่านยิ้มอย่างยินดี เมื่อเห็นว่าหูจินหลินกลับมาแล้ว
“ไหน ๆ สินค้าตัวอย่างอยู่ไหน” นายท่านผู้เฒ่ากวงรีบพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พร้อมกับกวาดสายตามองหาสิ่งของที่ต้องการ
“สักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันจะเปิดให้คุณตาดู”
สาเหตุที่นายท่านผู้เฒ่ากวงไม่เห็น นั่นก็เพราะว่าเมื่อหูจินหลินเดินออกไปแล้ว เสี่ยวม่านได้เอาผ้าที่อีกฝ่ายเอาออกมาให้ปิดบังสินค้าไว้ เพราะกลัวว่าเผลอมีใครเข้ามาในซอยนี้
พอหญิงสาวเปิดผ้าออกเท่านั้นเอง นายท่านผู้เฒ่ากวงและคนสนิทเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ ไม่คิดว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะหาสินค้าได้จริง
“นี่มีทุกอย่างเลยเหรอ!” นายท่านผู้เฒ่ากวงน้ำเสียงตื่นตกใจเล็กน้อย นอกจากจัดมีวิทยุที่เขาต้องการแล้ว ยังมีทีวี เครื่องซักผ้า และตู้เย็นอีกด้วย
ก่อนจะหันไปสบตากับคนสนิทด้วยความดีใจ
“นายท่านผู้เฒ่าครับ พวกเรามีทางรอดแล้วครับ” จงอี้เองก็ดีใจไม่ต่างกัน
“ฉันมีปัญหาอยู่อีกอย่างนึงค่ะ ไม่ทราบว่าคุณตาพอจะบอกราคาที่คุณตาเคยซื้อมาได้ไหมคะ” หูจินหลินมีปัญหาเรื่องราคาขาย จึงตัดสินใจถามขึ้นมา
“เดี๋ยวฉันจดรายการให้ก็แล้วกัน ว่าแต่เธอมีของพวกนี้จำกัดปริมาณหรือเปล่า หากฉันต้องการซื้อในจำนวนที่เยอะ พอจะหาให้ได้ไหม”
เรื่องราคานายท่านผู้เฒ่ากวงยินดีที่จะเขียนให้ และจะบวกเพิ่มให้ด้วย แต่สิ่งที่ต้องการรู้ในเวลานี้คือจำนวนปริมาณของสินค้าว่ามีมากพอตามที่เขาต้องการหรือเปล่า
“ปริมาณสินค้าฉันไม่มีปัญหาค่ะ ขอแค่คุณตาหาโกดังไว้ให้แล้วฉันจะให้เขาไปส่งของตามที่คุณตาต้องการ แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่มีคนของคุณตาอยู่ที่นั่น”
พอพูดถึงเรื่องนี้ หญิงสาวก็มีน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมา
