บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ฉันเข้ามาในนิยายที่จบแล้ว

บทที่ 2 ฉันเข้ามาในนิยายที่จบแล้ว

สองสัปดาห์ต่อมา...

หูจินหลินอยู่ที่เมืองนี้เริ่มรู้สึกปลอดภัยและคิดว่าคงไม่มีใครมาตามอีกแล้ว เลยคิดว่าจะหาทำเลทำการค้า เพราะเงินที่ติดตัวมานั้นเริ่มร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ แล้ว

“ฉันต้องหาอะไรทำเสียแล้ว” หญิงสาวไม่มีความเย่อหยิ่งหลงเหลืออีกแล้ว แถมเปลี่ยนจากเดิมไปมากจนกลายเป็นคนละคน

“พี่จินหลิน ฉันมีข่าวมาบอก” เสี่ยวม่านวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาก่อนจะหยุดเดินเมื่อมาอยู่ตรงหน้าเจ้านายสาว

“มีเรื่องอะไร ทำไมตื่นตูมแบบนั้นล่ะ” หูจินหลินเริ่มระแวงเพราะคิดว่าคนจากตระกูลหูมาตามหาจนเจอ

“ฉันได้ยินคนตลาดพูดกันว่า ต่อจากนี้ไปชาวบ้านสามารถทำการค้าได้โดยไม่ต้องขอจากรัฐอีกแล้ว แต่มีสินค้าบางประเภทที่ยังควบคุม ถ้าสนใจให้ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่รัฐได้เลย”

เสี่ยวม่านพูดจบก็ยิ้มกว้าง ตอนนี้เธอมีเงินเก็บเล็กน้อย ตั้งใจว่าจะขายของกินจำพวกซาลาเปา กับเกี๊ยวนึ่ง เพราะขายง่ายและเป็นที่ต้องการของคนทำงาน

“ฉันนึกว่าเรื่องอะไร เอาเถอะ ฉันเองคิดเหมือนกันว่าเราต้องทำงานแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นสักวันจะอดตายได้ แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไร” เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อได้ยินสาวใช้พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตระกูลหู

“เรามาทำซาลาเปาขายกันไหมคะ น่าจะขายดี” เสี่ยวม่านเสนอความคิดออกมา

“แล้วเราจะขายที่ไหนดีล่ะ”

“หน้าปากซอยก็ได้ค่ะ ตรงนั้นเป็นถนนใหญ่ ชาวบ้านสัญจรไปมาเยอะพอสมควร ฉันไม่เห็นมีซาลาเปาขายเลย”

เสี่ยวม่านเดินสำรวจแล้ว ก่อนหน้านี้มีคนขายแต่เห็นว่าย้ายไปอยู่กับลูก เลยเลิกกิจการไป ตอนนี้ยังไม่มีใครมาขาย หากช้าคงเสียที่ให้คนอื่น

“นี่แสดงว่าเธอไปสำรวจที่มาหมดแล้วใช่ไหม” หูจินหลินยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างสดใส

“ก็ต้องสำรวจแล้วสิคะ ฉันตั้งใจจะขายซาลาเปากับเกี๊ยวอยู่แล้ว พี่อยู่บ้านให้สบายเถอะ ไม่เคยทำงานหนักฉันทำเองได้ สบายมาก” ไม่ใช่อยากจะพูดกระทบอีกฝ่าย แต่เสี่ยวม่านรู้ดีว่าหูจินหลินนั้นไม่เคยทำของพวกนี้มาก่อน

“ถึงฉันไม่เคยทำ แต่ถ้าเธอสอน ฉันต้องทำได้ อย่างนั้นเราสองคนรีบไปซื้อของและอุปกรณ์มาทำการค้ากันดีกว่า เดี๋ยวจะมีคนอื่นมาขายเสียก่อน”

พอหูจินหลินพูดแบบนี้ เสี่ยวม่านก็ยิ้มกว้างอย่างทันที เธอเชื่อแล้วว่าเจ้านายคนนี้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

ทั้งสองต่างก็เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เพื่อซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเริ่มทำการค้าของทั้งคู่

หูจินหลินแม่จะมาอยู่ที่นี่ได้สองสัปดาห์แล้ว แต่ก็ไม่มีความสุขเหมือนวันนี้ เพราะนี่เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างแท้จริง

ในขณะที่ทั้งสองเดินผ่านซอยหนึ่ง กลับมีชายสองคนเดินตาม หูจินหลินเห็นท่าไม่ดีจึงรีบกระซิบบอกเสี่ยวม่านให้รู้ตัว

“มีคนเดินตามเรามา ระวังด้วยนะ”

“ฉันเข้าใจแล้วพี่ สองคนนี้เดินตามเรามาสักพักแล้ว ฉันคิดว่าชาวบ้านธรรมดาเพิ่งจะมั่นใจว่าไม่ปกติเมื่อครู่นี้เอง” เสี่ยวม่านเองก็สังเกตมาสักพักแล้วเหมือนกันว่าสองคนที่ตามมานั้นดูแปลก ๆ แต่ยังไม่ทันได้บอก เจ้านายก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“เอาเถอะ เราทั้งสองคอยระวังสักหน่อย คงไม่มีใครมาทำอะไรกลางวันแบบนี้หรอก” หูจินหลินพยายามพูดไม่ให้เธอและเสี่ยวม่านต้องกังวลไปมากกว่านี้

ชายทั้งสองคนเหมือนจะรู้แล้วว่าเหยื่อรู้ตัวแล้ว จึงตัดสินใจเดินมาดักหน้าไว้

“จะไปไหนกันนน้องสาว ให้พี่ทั้งสองคนไปส่งไหม” ชายคนหนึ่งพูดพร้อมกับเลียริมฝีปากอย่างโลมเลีย แล้วมองทั้งสองคนอย่างหยาบโลน

“ไม่เป็นไร เราสองคนไปเองได้ พวกคุณไม่ต้องสนใจเราสองคนหรอก” น้ำเสียงที่พูดของหูจินหลินดูจะสั่นเล็กน้อย เธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ตอนนี้ใจของเธอสั่นมาก

“ไม่เป็นไรได้อย่างไรกันน้องสาว เราสองคนตั้งใจจะไปส่งที่บ้านจริง ๆ นะ” ชายอีกคนพูดไม่ต่างจากคนแรก

“เกิดอะไรขึ้น!!” จู่ ๆ มีเสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้น ซึ่งกลุ่มมาใหม่มีชายสามคน แต่คนที่เรียกดูจะเหมือนเป็นหัวหน้าหรือเจ้านาย

พอได้ยินเสียงชายกลุ่มแรกตั้งใจจะหันมาเอาเรื่อง แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็ตกใจจนหน้าซีด เพราะในเมืองนี้มีใครบ้างไม่รู้จักนายท่านคนนี้ นายท่านกวง กวงซีเฉิน

“ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น!!” กวงซีเฉินถามย้ำอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น พร้อมกับกวาดสายที่ที่ประดุจเหยี่ยวมองเหตุการณ์ตรงหน้า

“ชายทั้งสองคนนี้เดินตามฉันกับพี่สาวมาค่ะ แล้วยังพูดจาแทะโลมพี่สาวฉันด้วย” เสี่ยวม่านแม้จะหวาดกลัวชายมาใหม่ตรงหน้า แต่ก็เลือกที่จะก้าวออกมาแล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยลืมมองหูจินหลินที่เวลานี้เกิดบางอย่างผิดปกติกับเธอ

พอได้ยินเรื่องราวทั้งหมด กวงซีเฉินจึงมองไปทางชายฉกรรจ์ที่หาเรื่องหญิงสาวทั้งสองคน เพราะเขานั้นเกลียดที่สุดคนที่ทำร้ายเพศแม่ตัวเอง

“ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ ไปให้พ้นหน้าฉัน แล้วอย่ามายุ่งกับผู้หญิงทั้งสองคนนี้อีก”

“คะ ครับ” ยังไม่ทันตอบดีทั้งสองคนก็รีบวิ่งออกไป

ในขณะเดียวกันร่างของหูจินหลินก็ล้มลงกับพื้น

“พี่จินหลิน!!” เสี่ยวม่านร้องอย่างตกใจ แล้วรีบเข้าประคองร่างของเจ้านายสาวทันที แต่เพราะร่างเล็กจึงไม่สามารถอุ้มหูจินหลินได้

กวงซีเฉินที่ปกติหวงตัวมักจะไม่เข้าหาสตรีคนไหนรีบเข้ามาพยุงร่างของหูจินหลินแล้วพาไปขึ้นรถตนเองที่จอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะพาไปโรงพยาบาล

ณ โรงพยาบาลรัฐ

เสี่ยวม่านเดินไปมาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างเป็นกังวล เธอภาวนาว่าขอให้เจ้านายนั้นปลอดภัย ส่วนสาเหตุที่เป็นลมไปนั้น คงจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“พี่จินหลิน พี่อย่าเป็นอะไรนะคะ เราสองคนกว่าจะมีวันนี้ก็ยากพอสมควรและต้องผ่านอะไรมาตั้งมากมาย พี่ต้องอยู่กับฉันนะ” เสี่ยวม่านพูดพึมพำเพียงลำพัง

แต่คนที่นั่งรออยู่ด้วยนั้นกลับได้ยินชัดเจน พร้อมกับขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“นายท่าน เกือบถึงเวลานัดแล้วครับ” คนสนิทหม่าทักเจ้านาย วันนี้มีประชุมแต่ไม่รู้ว่าเจ้านายนึกอะไรถึงเดินผ่านซอยนั้น จนมาพบหญิงสาวทั้งสองคนนี้เข้า

“อืม นายไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าฉันขอเป็นเจ้าของไข้เอง” ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะลุกขึ้น แล้วจัดเสื้อให้เข้าที่ ก่อนจะเดินจากไป

เป็นจังหวะเดียวกันที่พยาบาลออกมาแจ้งเสี่ยวม่านว่า หูจินหลินนั้นปลอดภัยแล้ว กำลังจะพาไปห้องพักฟื้นคนไข้

พอได้ยินว่าเจ้านายปลอดภัยแล้ว เสี่ยวม่านจึงยิ้มกว้างออกมา แล้วนึกขึ้นได้ว่าต้องขอบคุณชายที่ช่วยเหลือไว้ แต่พอหันมาทั้งสามคนกลับหายไปแล้ว

“แล้วจะบอกพี่จินหลินยังไงล่ะเนี่ย”

เมื่อไม่เห็นใคร เธอจึงเดินไปรอหูจินหลินที่ห้องพักฟื้นตามที่พยาบาลบอกทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel