บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 ซ้อมหนัก

“แกจะเข้าไปหาคุณวงศกรเพราะต้องการเอาชนะยัยขวัญแค่นั้นนะเหรอ แกไม่คิดถึงตัวเองรึไงว่าจะต้องผจญกับอะไรบ้าง ฉันไม่อยากให้แกทำแบบนี้นะ หาเรื่องอื่นเถอะนัญ”

ลักษมีค้านอีกครั้งแต่ธนัญญาไม่สนใจคำเตือนของเพื่อน แม้แต่บิดามารดาหล่อนยังไม่ฟังแล้วทำไมจะต้องเชื่อเพื่อนด้วยเล่า

อนุชิตกับทิพาห้ามธนัญญาตั้งแต่รู้ว่าจะเข้าไปสัมภาษณ์วงศกร อนุชิตติดตามข่าวธุรกิจมาบ้างและคุ้นกับชื่อวงศกรเป็นพิเศษ เขาไม่อยากให้ลูกสาวเข้าไปคลุกคลีกับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่คนนี้แต่ธนัญญาไม่สนใจคำเตือนจึงต้องปล่อยให้ธนัญญาทำตามความคิดของหล่อน สิ่งที่บิดามารดาทำได้แค่ถอนหายใจด้วยความเป็นห่วงลูกสาวเท่านั้น

ธนัญญาเข้าพบวงศกรในวันต่อมาแต่เขาไม่ว่างพูดคุยกับหล่อนเพียงแค่ให้หล่อนกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองลงในแบบฟอร์มใบสมัครงานเท่านั้น

คุณหญิงดวงกมลไม่พอใจสักครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงดังมาจากสวนหลังบ้านเพราะเพลงที่ได้ยินเป็นเพลงลูกทุ่งและนั่นหมายถึงว่าลูกสาวของหล่อนกำลังฝึกซ้อมเต้นอย่างเอาเป็นเอาตายโดยมีครูซึ่งเป็นอดีตหางเครื่องเก่าอย่างวิไลเป็นผู้ฝึกซ้อม เสียงเฮดังแทรกขึ้นเมื่อเพลงแรกจบลงและเพลงที่สองเริ่มขึ้น

“หนึ่ง สอง สามสี่ห้า หมุนค่ะ เริ่มใหม่” เสียงวิไลดังมาเป็นระยะๆ

“สำเนียง นายทศไปไหน เอารถออก ฉันจะไปช้อปปิ้งไม่อยากได้ยินไอ้เพลงบ้านนอกๆ นี่แล้ว เร็วๆ นะ ถ้าขืนชักช้าฉันหักเงินเดือนแกแน่”

คุณหญิงดวงกมลไม่ทนอีกต่อไป หล่อนรังเกียจเพลงลูกทุ่งไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หล่อนไม่สนใจฟัง ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องออกงานมีเพลงลูกทุ่งโชว์หล่อนฝืนยิ้มชื่นชมไปกับพวกคุณหญิงคุณนายที่ชอบลูกทุ่งถึงกับฝึกร้องเพื่อออกงานสังคมสงเคราะห์ หล่อนแสร้งยิ้มปลื้มตามไปเท่านั้นเองแต่ในใจแล้วไม่เคยคิดชอบเพลงลูกทุ่งสักนิด

เมื่อลูกสาวเอ่ยปากขออนุญาตเข้าไปอยู่ในวงดนตรีลูกทุ่งเพื่อศึกษาชีวิตของคนเหล่านั้นหล่อนจึงยอมรับไม่ได้แต่เพราะเกียรตินิยมอันดับ 1 ที่ลูกสาวจะนำมาให้เป็นของขวัญในวันเรียนจบหล่อนจึงจำใจยอมให้ลูกเป็นหางเครื่องชั่วคราว

เสียงรถแล่นออกจากบ้านไปได้ครู่ใหญ่การฝึกซ้อมเต้นจึงยุติลง พาขวัญรู้สึกเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยเหนื่อยเช่นนี้มาก่อน นัชชา วรรณพรและธีรวิชพลอยสนุกสนานกับการเป็นคู่ซ้อมของพาขวัญไปด้วย วิไลมองหน้าหนุ่มสาวแล้วยิ้ม พวกเขาไม่รู้ว่าชีวิตของหางเครื่องนั้นเป็นอย่างไรไม่เพียงแค่เต้นวันนี้พรุ่งนี้แล้วหยุดเท่านั้นแต่ต้องซ้อมเต้นทุกวันเพื่อความพร้อมและแม่นในแต่ละท่าแต่ละเพลง หล่อนกลัวว่าพาขวัญจะทำงานชิ้นนี้ไม่สำเร็จเมื่อเข้าไปสู่ความเป็นจริง เข้าไปสู่ชีวิตจริงของหางเครื่อง

“คุณหนู พี่ว่าคุณหนูเลิกเถอะค่ะ แค่นี้คุณหนูก็เหนื่อยแล้วถ้าคุณหนูไปเจอของจริงมันมากกว่านี้หลายเท่านัก คุณหนูจะทนไม่ไหวนะคะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงเวลานั้นฉันต้องทำได้ เราพักทานข้าวกันก่อนตอนบ่ายค่อยซ้อมต่อ นัช วรรณไปทานข้าวกัน วิชแกจะซ้อมต่อก็เชิญตามสบายนะ” พาขวัญแกล้งเพื่อนหนุ่ม

“บ้าสิ ฉันไม่ได้เขียนเรื่องหางเครื่องเหมือนแกนะ ฉันแค่เต้นเป็นเพื่อนแกเท่านั้นแหละอย่าพูดมาก ฉันหิวจะแย่อยู่แล้วนำทางไปเร็วๆ เลย” ธีรวิชเดินเข้าบ้านไปก่อนเจ้าของบ้านเสียอีก นัชชากับ

วรรณพรหัวเราะกับกิริยาแสนงอนของหนุ่มตี๋แล้วก้าวตามไปโดยมีพาขวัญเดินเคียงคู่ไปด้วย

“คุณป้าขา คุณแม่ไปไหนคะ” พาขวัญมองหามารดาไม่พบ พรพรรณคอยดูแลเรื่องอาหารให้หล่อนกับเพื่อนๆ อยู่ใกล้ๆ

“ออกไปข้างนอกจ้ะไปช้อปปิ้ง ขวัญถามทำไมเหรอลูกมีอะไรจะคุยกับแม่เขารึเปล่า”

“เปล่าหรอกค่ะคุณป้า คุณแม่คงรำคาญเสียงเพลงถึงได้ออกจากบ้านทุกวัน คุณป้ารำคาญมั้ยคะ"

“ไม่หรอก ป้าชอบฟัง วิไลเปิดฟังตอนทำกับข้าว ป้าว่าเพลงลูกทุ่งเพราะดีนะมีเนื้อหาสาระชัดเจนยิ่งเพลงลูกทุ่งสมัยที่ป้าเป็นเด็กนะเพราะๆ ทั้งนั้นไม่เชื่อไปถามคุณพ่อหนูดูได้ ตาพลน่ะชอบร้องแต่พอแต่งงานกับแม่หนูก็หยุดไปเพราะแม่หนูไม่ชอบเพลงพวกนี้” พรพรรณยิ้มเมื่อคิดถึงอดีตสมัยเด็ก

“คุณแม่ชอบเพลงคลาสิกมังคะคุณป้า” นัชชาเอ่ยแล้วยิ้ม

“คงยังงั้นแหละจ้ะ เอาล่ะทานข้าวกันได้แล้วลูก แล้วนี่จะซ้อมอีกกี่วัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel