บทที่ 1 (4)
ภายในสนามบิน เครื่องบินเซสน่ารุ่นซิเทชั่นที่เป็นเครื่องบินส่วนตัวของทริเซียนโน เทรซ ทาลอสซากำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมตัวก่อนบิน โดยเจ้านายของเครื่องกำลังนั่งอยู่บนเบาะหนังนุ่มบนเครื่องคล้ายกับกำลังรอคอยใครอยู่ จวบจนกระทั่งรถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามาตรงบริเวณลานบิน
“เธอมาแล้วครับ เอ่อ แต่แน่ใจหรือครับว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สาวของคุณฟ้าจริงๆ” น้ำเสียงถามด้วยความไม่แน่ใจของลูกน้องทำให้เขาต้องขมวดคิ้วพลางเหลือบมองไปนอกหน้าต่างตรงที่บันไดถูกเชื่อมต่ออยู่กับตัวเครื่องบิน แล้วเขาก็ต้องชะงักพลางคิดเหมือนกับลูกน้องของตนเอง
นั่นใช่พี่สาวของน้ำฟ้าจริงหรือ ทำไมช่างแตกต่างกับน้องสาวเหลือเกิน!
เจ้าหล่อนสาวเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกับกระโปรงสีน้ำตาลเข้มและรองเท้าส้นสูง เรือนผมสีดำถูกมัดรวบเป็นหางม้าและติดกิ๊บเก็บผมเรียบ แล้วยังแว่นตากรอบสีดำหนาเตอะ ที่ดูยังไงบุคลิกภาพของหล่อนก็เหมือนสาวทึนทึก ผิดกับน้องสาวอย่างวิลาสินีลิบลับ แล้วแบบนี้น่ะเหรอที่วิลาสินีการันตีนักหนาว่าจะทำให้เขาพอใจได้
แต่คนอย่างเขาไม่หลงกลกับแผนการตื้นๆ นี่หรอก ถ้าการที่หล่อนแต่งตัวเช่นนี้มาก็เป็นไปเพื่อทำให้เขาเกิดไม่ชอบใจและยอมยกเลิกข้อตกลงอื่นๆ ละก็ คิดผิดไปแล้ว!
“ไหนมาลองดูสิว่า พี่สาวของเธอจะแน่ขนาดไหน”
เขายิ้มอย่างขบขันขณะเลื่อนสายตาจากหน้าต่างไปยังทางเดินกลางภายในเครื่องที่สามารถมองตรงไปถึงผนังกั้นที่คนที่เพิ่งขึ้นจากเครื่องจะต้องก้าวเข้ามา แต่เขาก็ต้องรออยู่อึดใจใหญ่ เนื่องจากวิกานดาไม่ยอมขึ้นเครื่อง เพราะ
กลัวว่าจะถูกพาตัวไปไหน จนกระทั่งทั่งนายร่างยักษ์ต้องบอก
“แค่ขึ้นไปคุยกับนายเท่านั้นครับ”
วิกานดาชั่งใจอยู่พักใหญ่กว่าจะยอมก้าวขึ้นบันไดไปตามที่นายร่างยักษ์ แต่คล้อยหลังจากที่หล่อนก้าวขึ้นไปถึงห้องโดยสารนั้นเอง นายร่างยักษ์ก็หันไปพยักหน้ากับคนที่ดูแลอยู่ด้านนอกเป็นเชิงบอกว่าพร้อมจะขึ้นบินแล้ว
หญิงสาวก้าวเข้าไปในห้องเคบินแล้วจึงเดินผ่านผนังกั้นเข้าไปจนถึงทางเดินกลาง ครั้นเหยียบย่างเข้าไปสู่ห้องโดยสารตรงกลาง นัยน์ตาของหล่อนก็ไหวระริกเมื่อสบเขากับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งเอนพิงเบาะหนังด้วยท่วงท่าสบายใจ
ใบหน้าคมเข้มของเขามีทั้งความอ่อนโยนและความดุดัน คิ้วหนาเฉียงชี้ขับให้นัยน์ตาสีดำแปลกคู่นั้นดูมีเสน่ห์มากขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากชวนมองที่ทำให้หล่อนแทบหยุดหายใจ เพราะไม่คิดเลยว่าทริเซียนโน เทรซ ทาลอสซา จะหล่อเหลือร้ายได้ถึงเพียงนี้
“เชิญนั่งสิครับ”
วิกานดาลงนั่งบนเบาะหนังปรับเอนได้ด้วยความรู้สึกวางตัวไม่ถูก เมื่อดวงตาสีดำแปลกตาคู่นั้นกำลังมองมาเหมือนสำรวจหล่อนให้ถ้วนทั่วทุกซอกมุม
หญิงสาวรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อถูกเขามอง ทั้งที่หล่อนพยายามแต่งตัวแบบที่ผู้ชายไม่น่าจะชมชอบได้เลย แต่ทำไมเขายังส่งสายตาเช่นนั้นมาด้วยเล่า
เอ๊ะ หรือว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนชอบของแปลก?
หญิงสาวพยายามสูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมความกล้าในการพูดกับเขา ถึงข้อตกลงทางสัญญาที่มีช่องโหว่ทำให้หล่อนเสียหาย แต่กลับกันมันทำให้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบในทุกอย่าง
“ฉันอยากพูดกับคุณเรื่องสัญญาค่ะ ฉันว่ามันไม่ยุติธรรม ถ้าเรื่องการพนันนั้นเกิดจากความเมาของน้องสาวของฉัน คุณจะยอมเพิกเฉยต่อมันได้ไหมคะ แล้วฉันจะจ่ายค่าเสียหาย เสียเวลาในการพนันให้ค่ะ”
ภาคินหรือทริเซียนโนกระตุกยิ้มมากขึ้นพลางทำเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วจึงกล่าวตอบหล่อนกลับไปถึงข้อเรียกร้องที่เป็นใครก็ดูออกทั้งนั้นว่าสัญญานั้นทำขึ้นเพื่อให้เขา ไม่ใช่ให้หล่อน
“เสียใจด้วยวิกานดา ตั้งแต่เธอก้าวขึ้นมาบนเครื่องนี้ ฉันก็ถือว่าเธอเต็มใจแล้ว”
“คะ? ว่าไงนะคะ”
สิ้นเสียงถามของหล่อน เสียงปิดประตูและเสียงร้องบอกของนายร่างยักษ์หนึ่งในสองพร้อมกับการโบกสัญญาณของคนบนพื้นดินก็เริ่มขึ้น เหมือนกับพวกเขากำลังเอาเครื่องขึ้น
“ไม่นะ! ฉันจะลง”
