บท
ตั้งค่า

4

“เป็นไงบ้างแก ตกลงกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมฉันเป็นห่วงแทบแย่” ริชชี่ถามด้วยความเป็นห่วง...เอ่อ...ก็เป็นห่วงแหละ...แต่ระหว่างรอก็ขอเต๊าะคนขับรถที่ควบตำแหน่งบอร์ดี้การ์ดหนุ่มใหญ่ท่าทางอบอุ่นใจดีมีน้ำใจ แค่เพลิน ๆ เท่านั้นเอง.....

“เหรอ....แน่ใจนะว่าห่วงฉันอ่ะ”

“แหม...ก็ต้องเป็นแกอยู่แล้ว ส่วนคุณคมน่ะสเปคฉันแกก็รู้แค่ขำ ๆ น่านาน ๆ จะเจอสักที”

“เฮ้อ !...เหนื่อยชะมัด ฉันจะกลับไปหลบอยู่กับแม่ครูสักพัก ส่วนแกก็ไปหางานทำใหม่เถอะ อย่ามาอดตายกับฉันเลย” ปานอัปสรบอกกับเพื่อนรักที่โตมาด้วยกัน และทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวให้ตั้งแต่เข้าวงการมาใหม่ ๆ หญิงสาวไม่กล้าบอกความจริงกับริชชี่ นึกอายที่ต้องทำงานแลกหนี้ ไม่คิดว่าชีวิตจะมีวันนี้ เอาไว้ดูลาดเลาก่อนถ้างานไม่แย่ค่อยติดต่อกลับมาก็แล้วกัน

“เฮ้ย !....อะไรจะปุบปับรวดเร็วไปไหมแก” ริชชี่ถามอย่างเป็นห่วง ลำพังตัวเองไม่เดือดร้อน เพราะทำงานเบื้องหลัง เข้าไปเกาะแข้งเกาะขาคนวงในเดี๋ยว ก็ได้งาน แต่ปานอัปสรนี่สิไม่น่าเลย

“ทำไมวะ.....ทำไมฉันมันซวยอย่างนี้วะ ฉันไม่ผิดนะแก ไม่มีใครยอม ฟังฉันเลยอ่ะ” ปานอัปสรไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อนหล่อนกำลังทดท้อกับเรื่องของตัวเอง ก่อนจะโพล่งออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ

“ทำใจเถอะวะเรามันไม้ซีก.......ก็เมียของฝ่ายนั้นเขาเก่งนี่ยะ ออกรายการเกาะกระแส มีแต่คนเห็นใจเขากันทั้งประเทศ” ริชชี่ อดอารมณ์ขึ้นไม่ได้ เมื่อนึกถึงภาพดาราสาวที่ทำราวกับเป็นเมียหลวงที่น่าสงสาร ออกรายการบีบน้ำตาเป็นที่น่าเวทนาของคนทั้งประเทศ...ทั้งที่ความจริง หล่อนรู้มาว่านางต้องการฟ้องหย่ากับพระเอกดังอยู่แล้วเพราะตัวเองไปกิ๊กกั๊กกับนักการเมืองใหญ่...แต่จะบอกใครได้ หลักฐานก็ไม่มี นี่ก็ฟังเขามาอีกทีคงจะเป็นคราวซวยของแม่นางฟ้าบนแคทวอล์คจริง ๆ นั่นแหละ ดันไปล้มต่อหน้าพระเอกทำให้ภาพที่หล่อนถูกประคองขึ้นมาด้วยความมีน้ำใจแท้ ๆ แต่ถูกแชร์ออกไป พร้อมกับใส่สีตีไข่จนเรื่องราวบานปลายใหญ่โต…กลายเป็นลูกเข้าเท้าเมียหลวงไป

“เวรกรรมอะไรของฉันวะเนี่ย…ฉันจะฟ้องดีไหมยัยริชชี่” นางแบบสาวนึกขึ้นมาได้ หากหล่อนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายคงพอได้เอาเงินมาเยียวยา ต่อลมหายใจได้นอกจากไม่ต้องทำงานใช้หนี้แล้ว เผลอ ๆ อาจจะได้หวนคืนวงการอย่างสวย ๆ เข้าไปบีบน้ำตาขอเข้ารายการกับพี่มดแดงน่าจะได้...

“ดี” ริชชี่ตอบโดยไม่ต้องคิด แต่เสียงกลับสะบัดนิด ๆ

“งั้นก็ตามนั้นเลยแก ฉันนี่ก็ฉลาดเหมือนกันนะ แกว่ามะ...” ปานอัปสรยิ้มออกมาตาเป็นประกาย ออกปากชมตัวเองเปาะหากเป็นอย่างที่คิดหล่อนจะได้ไม่ต้องเข้าใกล้นายผีดิบนั่น เสียดายหล่อเสียเปล่าเข้าใกล้แล้วชวนขนหัวลุกชอบกล

“เงินค่าทนาย” ริชชี่แบมือไปข้างหน้า พลางค้อนควักปะหลับปะเหลือกโทษฐานที่เพื่อนพูดไม่คิด

หญิงสาวหุบยิ้มทันที ทิ้งตัวกับพนักพิง หล่อนอายที่จะให้ใครได้รู้ว่าถังแตก...เพราะวางตัวดุจนางพญา เป็นนางฟ้าเลอค่าบนแคทวอล์ค ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าซื้อไม่ได้ด้วยเงิน...เฮ้อ...ก็เมื่อก่อนหล่อนหาเงินได้ง่ายนี่นา เรื่องอะไรจะยอมเสียศักดิ์ศรี...ไม่เคยไว้หน้าผู้ชายคนไหนหากหาญกล้าเข้ามาเกี้ยวพา เป็นต้องโดนตอกหน้าหงายทุกรายไป......ริชชี่รู้ดีที่สุดว่าปานอัปสรไม่เคยเก็บเงิน ได้มาเท่าไรหล่อนก็ใช้เท่านั้น ยิ่งระยะหลังยิ่งบ้าหนัก ข้าวของแบรนด์เนมขนซื้อมาสะสม ไม่รู้ว่าเก็บกดอะไรนักหนา

“ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ฉันจะติดต่อแกเอง...รักนะริชชี่” หญิงสาวบอกกับเพื่อนอย่างยอมรับในชะตากรรม เมื่อรถแล่นมาถึงคอนโดของริชชี่ สองสาวกอดลากันน้ำตาซึม

“ฉันก็รักแก แต่ถ้าไม่ไหวกลับมานะฉันพร้อมจะสู้ไปกับแกนางฟ้าของฉัน” ริชชี่ปล่อยโฮ รู้สึกว่าการลาครั้งนี้คงอีกนานกว่าจะได้พบกัน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา คนภายนอกมักมองว่านางแบบสาวหยิ่งไม่สุงสิงกับใคร แต่ริชชี่รู้ดีว่านางปิดกั้นตัวเองเอาไว้เพราะอะไร.....แต่ก็พูดไม่ได้

เรือนร่างงามระหงในชุดกระโปรงพลิ้วไหวสีแดงสด เดินกรุยกรายบนรองเท้าส้นสูงปรี๊ด ปานอัปสรก้าวเดินอย่างมั่นใจลงจากห้องบนคอนโดหรูที่ยังไม่รู้ว่าเดือนหน้าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า หญิงสาวลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาด้วยสองใบอัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตามสไตล์นางแบบ

หญิงสาวหยุดยืนพร้อมกับกวาดสายตาภายใต้กรอบแว่นเก๋ไก๋อันใหญ่ ไม่พบเจ้าหนี้ที่นัดไว้ จึงยกนาฬิกาหรูขึ้นดูอีกครั้ง แทบจะกลั้นใจนับถอยหลัง อีกสองนาทีถ้าไม่มาถือว่าทุกอย่างโมฆะ หล่อนไม่ได้เป็นฝ่ายผิดนัด จะกลับขึ้นไปกินบะหมี่ หนี้ก็ไม่ต้องจ่าย รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้างาม...สาม...สอง....หนึ่ง....หญิงสาวหมุนตัวกลับขยับจะเดินเข้าลิฟต์อย่างลิงโลด

“โอ๊ะ....อูยยย...” ปานอัปสรซู๊ดปากคลำหน้าผากป้อย ๆ ด้วยความเจ็บ ที่ชนเข้ากับปลายคางแข็ง ๆ ของใครบางคน

“ซุ่มซ่าม...” เสียงทุ้มต่ำ เอ่ยออกมาจากผู้ชายเรือนร่างสูงใหญ่ยืนปักหลักเป็นยักษ์ปักหลั่น ขนาดปานอัปสรที่สูงถึงหนึ่งร้อยหกสิบแปดยังสูงได้ แค่ปลายคางของเขา หล่อนสูงน้อยกว่าเพื่อนนางแบบอีกหลายคน ถึงแม้จะไม่ด้อยกว่ามาตรฐานหญิงไทยก็ตามทีแต่ด้วยความที่เธอคือนางแบบอาชีพจึงต้อง ตะเกียกตะกายอยู่บนรองเท้าส้นสูงตลอดเวลาจนกลายเป็นความเคยชิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel