ตอนที่ : 10 เหตุเกิดจากโศธิดา
4
เหตุเกิดจากโศธิดา
หญิงสาวที่นั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตรงหน้าคือปัญหาใหญ่ของคมสัน โศธิดามีปัญหาเรื่องเงินที่น้องชายเล่นพนันบอลแล้วไม่มีทางหาจ่ายคืนโต๊ะบอลได้ มีเจ้าหนี้ตามไปทวงถึงบ้านจนหญิงสาวไม่กล้าอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ส่วนน้องชายตัวดีก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีไปอยู่ที่บ้านของเพื่อน ตลอดสามวันที่ผ่านมาโศธิดาจึงต้องอยู่แบบคนอกสั่นขวัญหายเพียงลำพัง
"น้องดาต้องการให้พี่ช่วยอะไรครับ" คมสันถามตรง ๆ หลังจากนิ่งฟังโศธิดานั่งฟูมฟายมาพักใหญ่ ๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่เอ่ยความต้องการที่แท้จริงออกมาเสียที
"เอ่อ คือว่าน้องดาอยากขอยืมเงินพี่คมสักห้าล้านค่ะ" กว่าจะพูดคำนี้ออกมาได้ก็บีบน้ำตาอยู่เสียนาน
"ห้าล้าน ?"
"ค่ะ น้องดาจะเอาไปจ่ายหนี้พนันบอลแทนโด่งค่ะพี่คม ตอนนี้น้องดาไม่ไหวแล้วค่ะ บอกตรง ๆ ว่ากลัวพวกเจ้าหนี้ที่มากดออดประตูบ้านอยู่ทุกวัน"
"ห้าล้านไม่ใช่เงินน้อย ๆ นะครับ แล้วน้องดาจะเอาที่ไหนมาใช้คืนพี่" แม้ฐานะทางบ้านจะร่ำรวยแต่คมสันก็ใช้เงินเป็นเสมอ เขาไม่จำเป็นจะต้องเสียเงินก้อนโตให้กับผู้หญิงที่เคยหักอกตัวเองมาก่อนอย่างโศธิดา
"น้องดาเพิ่งได้งานเดินแบบมาค่ะ ถ้าได้เงินแล้วน้องดาจะเอามาคืนพี่คมนะคะ" เสียงอ่อยบอกเขาแบบไม่เต็มน้ำเสียงของตัวเอง
"เดินแบบได้ค่าแรงถึงห้าล้านเลยเหรอครับน้องดา" แม้จะไม่ได้อยู่ในวงการนี้แต่คมสันก็คิดว่าดาราหน้าใหม่ เพิ่งเข้าวงการยังไม่ถึงปีจะได้รับค่าจ้างเดินแบบมากขนาดนี้
"ก็มีหลายที่ติดต่อมาค่ะ" คำตอบออกแนวแบ่งรับแบ่งสู้ คมสันมองปราดเดียวก็รู้ว่าอีกคนคงไม่มีรายได้ที่เป็นหลักแหล่งที่แน่นอน
"ถ้าอย่างนั้นพี่คงต้องขอโฉนดบ้านของน้องดามาค้ำประกันก่อนนะครับ"
"โฉนดบ้าน ?" โศธิดาทำหน้าคล้ายอยากจะร้องไห้อีกครั้ง ทำไมเขาถึงไม่ค้ำประกันด้วยตัวของเธอเอง ถ้าเป็นแบบนั้นเธอยินยอมพร้อมใจจะทำ
"หวังว่าน้องดาจะเข้าใจพี่" เมื่อเห็นแววตาตัดพ้อของคนรักเก่าคมสันก็รีบเอ่ยคำนี้ออกมา
"ค่ะพี่คม" เพราะว่าคมสันมีนิสัยแบบนี้ เขาทำอะไรมีหลักฐานเสมอและไม่ยอมถูกใครเอารัดเอาเปรียบ ตอนที่คบหาเป็นคนรักกันโศธิดาจึงรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอต้องการมาร่วมสร้างชีวิต
แชะ แชะ แชะ ด้านหลังของคนทั้งสอง มีนักสืบเอกชนคนหนึ่งกำลังบันทึกภาพของทั้งคู่ด้วยความตั้งใจ เรื่องราวการขอนัดพบของคมสันกับคนรักเก่า จึงรู้ถึงหูของนางยลดาในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงต่อมา
"แม่คะเอาอีกแล้วนะคะ จะจับผิดคมเขาไปถึงไหนกัน" รัตนาวลีออกอาการเบื่อหน่ายมารดา ที่เริ่มจะแสดงอาการไม่ปลื้มคมสันออกนอกหน้ามากขึ้นทุกวัน
"คมสันนัดพบแม่โศธิดานั่นอีกแล้วนะลี่ ทำไมลี่เห็นเป็นเรื่องปกติหรือยังไงกัน" นางยลดาทำหน้าขึงขังใส่บุตรสาว
"นัดพบโศธิดาแล้วยังไง เอ๊ะ นี่แม่ให้คนสะกดรอยตามคมเหรอคะ" สายตาตั้งคำถามแกมเหนื่อยใจของรัตนาวลีทำให้นางยลดาตัดพ้อออกมา
"ก็แม่เป็นห่วงลี่"
"แม่เลิกทำแบบนั้นนะคะ ไม่งั้นลี่โกรธจริง ๆ ด้วย ถ้าคมรู้เข้าเขาจะรู้สึกยังไงที่แม่คอยแต่จ้องจะจับผิดเขาแบบนี้"
"ลี่ทำไมไม่เข้าใจแม่บ้าง"
"แม่คะลี่ไว้ใจคมถึงคมจะนัดพบคนรักเก่า ลี่มั่นใจว่าคมมีเหตุผลเสมอ แม่อย่าพยายามยุให้ลี่เลิกกับคมเลยนะคะ ลี่รู้ว่าแม่ไม่ได้ชอบคมเขาเท่าไหร่ แต่ลูกสาวคนนี้ของแม่รักเขาสุดหัวใจนะคะ" รัตนาวลีพูดจบก็เดินหันหลังขึ้นบันไดบ้านไป
"รักได้นะลี่แต่อย่าหลงบทเรียนมีให้เห็นแล้ว" นางยลดาได้แต่พูดไล่หลังบุตรสาว คนเป็นลูกชะงักเท้าไว้เพียงชั่วครู่ก่อนจะเดินต่อไปแบบคนไม่อยากฟังอะไรอีกทั้งนั้น
โศธิดาอีกแล้ว รัตนาวลีรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย หญิงสาวมองดูแหวนตรงนิ้วนางข้างซ้ายแล้วหลับตาลงแน่น เธอควรจะไว้ใจเขาหรือว่าเชื่อมารดาดี ความคิดแบ่งพวกออกเป็นสองฝักสองฝ่าย และแล้วเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าก็ดึงสติของรัตนาวลีให้กลับคืนมา
"สวัสดีค่ะคม" เพียงรู้ว่าสายที่โทรเข้ามาคือคมสันรัตนาวลีก็ยิ้มออกในทันที
"ครับลี่ผมโทรมาชวนไปดูหนังกันวันพรุ่งนี้นะครับ" ยิ่งคำชวนของเขาก็ยิ่งทำให้หญิงสาวหัวใจพองโตขึ้น
"พรุ่งนี้ ได้ค่ะคมลี่ว่างอยู่พอดี"
"เอาไว้ผมเช็กรอบหนังก่อนแล้วค่อยโทรมาบอกนะ แล้วเจอกันนะครับ"
"เดี๋ยวค่ะคม"
"ว่าไงครับ"
"ลี่ขอถามอะไรคมสักอย่างได้ไหมคะ" แม้จะเชื่อใจเขาแต่บางเรื่องมันก็ค้างคาอยู่ในใจ รัตนาวลีจึงเลือกที่จะเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้กระจ่าง หากจะรักกันก็ต้องเปิดเผยทุกเรื่องให้คนรักรับรู้ได้
"ถามมาได้เลยครับ"
"พอดีแม่เขาไปเจอคมกับโศธิดา เอ่อ"
"เรื่องนี้เอง ไม่มีอะไรหรอกครับลี่ พอดีน้องดาเขามีปัญหาชีวิตนิดหน่อยเลยมาขอคำปรึกษา" คมสันพูดไม่หมดเพราะเขาเชื่อว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนทำใจต่อเรื่องแบบนี้ได้แน่ คิดแล้วก็ยิ่งหนักใจที่มารดาของคนรักคอยจ้องจับผิดอยู่แบบนี้
