11 - นางบำเรอตัวน้อย
“น้ำอุ่น!”หัวใจหนุ่มพองโตราวกับลูกโป่งอัดแก๊สเมื่อได้เห็นคนที่ตนถวิลหามาหลายวัน ก่อนที่จะดึงสติตัวเองกลับมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาดีใจจนออกนอกหน้ามากเกินไป
“หืม!!”
“มานั่งนี่มา....”ฝ่ามือหนาตบลงบนตักตัวเองเป็นเชิงบอกว่าให้เจ้าหล่อนนั่งตรงนี้ในขณะที่เห็นคนตัวเล็กกำลังหย่อนสะโพกลงบนโซฟาตัวใหญ่ แต่เด็กสาวได้แต่มองเขาตาใสแป๋ว
“หนูมาตามสัญญาแล้วห้ามบอกพ่อหนูนะ”
“แต่ถ้าเธอไม่มานั่งตักฉัน ฉันจะให้นิโคลัสติดต่อพ่อเธอเดี๋ยวนี้”คริสโตเฟอร์ขู่ก่อนจะมองปากจิ้มลิ้มที่ยู่ลงราวกับกำลังจะร่ำไห้ ทว่าเธอก็ยอมเดินเข้ามาเขาแต่โดยดี
“อ๊ะ! ทำไมคุณชอบทำให้หนูตกจะ....อื้อ”ด้วยความคิดถึงระคนโหยหาอันมากล้นทำให้เขารวบเอวบางให้เข้ามานั่งบนร่างแข็งแกร่งอย่างง่ายดาย แต่ปากบางชั่งค้านก็ขยับไหวราวกับว่ายั่วยวน ไวเท่าความคิดริมฝีปากหนาก็กดลงอย่างอดใจไม่ไหว
“อืม...”เสียงคำรามลึกในลำคอแกร่งดังขึ้นเมื่อบดขยี้กลีบปากระเรื่อเพื่อให้เธอเปิดปากรับปลายลิ้นของเขา คริสโตเฟอร์กวาดไล้ลิ้นสากควานหาความหวานล้ำที่ซุกซ้อนอยู่ภายใน
“อื้อ!!!”เนตรอักษรขมวดคิ้วยุ่งหรี่ตามองการกระทำของเขาในขณะที่ลิ้นเล็กพยายามจะหลบหลีกการถูกลุกล้ำ แต่เหมือนกับเป็นการปลุกกำหนัดเขาเสียมากกว่าเมื่อความไร้เดียงสาของเธอทำให้เขาลุ่มหลงเกินยากจะถอนตัว
“หายไปไหนมา?”เมื่อผละจุมพิตอันดุดันอกได้ก็ถามหญิงสาวทันทีโดยที่เธอยังหายใจไม่ทั่วท้องเท่าไหร่
“หนูเปล่าหายนะ หนูเพิ่งสอบเสร็จเลยตรงมาที่นี่เลย”ช่วงที่หายไปเธอไม่ได้จงใจจะหลบหน้าเขาแต่อย่างใด ทว่าไฮสคูลของเธอต้องสอบเพื่อเก็บหน่วยกิตตัวสุดท้ายต่างหาก
“ทำไมไม่บอกฉัน”
“หนูไม่รู้จะบอกคุณไปเพื่ออะไรนิค่ะ อีกอย่างหนูไม่อยากเจอคุณอีกด้วยซ้ำ แต่กลัวคุณเอาเรื่องวันนั้นไหปบอกคุณพ่อเลยต้องฝืน!”คำพูดตรงไปตรงมาของเธอทำให้คนฟังต้องกัดฟันกรอดจนเกิดเสียงดัง มือหนาที่กำลังประคองร่างบางเอาไว้เผลอกำผิวกายนิ่มอย่างแรง
“กล้ามากนะที่คิดว่าตัวเองสำคัญในชีวิตฉันขนาดนั้น!”ไม่เคยมีหญิงใดกล้าเปล่งวาจาพวกนั้นออกมา มีแต่พวกหล่อนจะพยายามวิ่งเข้าหาเขาโดยไม่ต้องมานั่งรอคอยการมาของเธอมาก่อน
“หนูไม่ได้คิดว่าตัวเองสำคัญสักหน่อย”เธอไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย แต่เหมือนว่าคำพูดของเจ้าหล่อนไม่เป็นผลเมื่อชายหนุ่มลงน้ำหนักมือตรงเอวคอดกิ่วแรงขึ้นจนเธอเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย!! หนูเจ็บ ปะ....ปล่อยหนูนะ”หญิงสาวพยายามจับข้อมือแกร่งให้พ้นจากเอวคอดของตน ทว่าแรงอันน้อยนิดของเธอน่ะหรือจะสู้พลังช้างสารอย่างเขาได้
“อึก~ อื้อ!!!”
“จะร้องทำซากอะไร!”ด้วยความกราดเกรี้ยวทำให้ทุกอย่างเนตรอักษรทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกอย่าง
“คุณคริสปล่อยหนูอุ่นนะคะ”เนตรอักษรใจดีสู้เสือใช้วาจาออดอ้อนปนสะอื้นไห้ขอร้องให้เขาปล่อยเธอ ก่อนที่ดวงหน้างามที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาจะซบลงบนแผงอกกว้างฟังเสียงหัวใจของเขา
“อย่าขัดใจฉันถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“...”
“เข้าใจไหมแม่นางบำเรอน้อย”นางบำเรอ! หญิงสาวมองเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเมื่อครู่
“นางบำเรอ?”
“อื้อหึ!”เมื่อเธอย้ำคำเขาเองก็ย้ำให้เธอรู้เช่นกันว่าเขาหยิบยื่นสถานะที่ไม่เคยมีใครได้มันมาก่อนให้สาวน้อยคนนี้เป็นคนแรก
“ต่อไปนี้เธอจะเป็นนางบำเรอของฉัน ไม่ว่ายังไงห้ามขัดใจถ้าไม่งั้นเรื่องของเราถึงหูพ่อเธอแน่!”
“รู้แล้วค่ะ อึก....ขู่อยู่ได้คนใจร้าย”สุดจะทนเสียงแหลมเล็กก็แผดใส่พร้อมกับกำปั้นน้อยที่ทุบอักบนแผงอกของเขา แทนที่คริสโตเฟอร์จะโกรธเคืองแต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบอกชอบใจกับอาการเจ้าแง่เจ้างอนของเธออีก
“เด็กขี้แยเอะอะก็ร้องไห้”คริสโตเฟอร์ใจอ่อนยวบทว่ายังคงใช้น้ำเสียงเข้มขรึมพูดกับคนตัวเล็ก ชายหนุ่มเผลอใช้มือลูบศีรษะทุยสวยเพื่อปลอบประโลม
“อื้อ!! คิดถึงคุณพ่อจังเลย”ความอ่อนโยนและอกอุ่นๆ ที่เธอได้ซบมันกับทำให้เนตรอักษรนึกถึงบิดาของตนที่ไม่ค่อยมีเวลากับเธอมากสักเท่าไหร่
ผัวนั่งทนโท่ร้องหาพ่องั้นเหรอ!
“ทานอะไรมาหรือยัง”คริสโตเฟอร์เลือกถามคำถามทั่วไปมากกว่าใช้คำปลอบประโลม
“ยังเลยค่ะ สอบเสร็จก็มาสนามบินเลย”คนตัวเล็กผงกศีรษะจากอกกว้างตอบคำถามที่เธอคิดว่าดีสำหรับเธอในตอนนี้มาก เพราะกระเพาะน้อยๆ กำลังร่ำร้องถึงอาหารอยู่พอดี
“งั้นหยุดร้องก่อนจะพาไปกินของอร่อย”
“ฮึ้บ! ไม่ร้องแล้วค่า~”อย่าว่าเธอเห็นแก่กินเลยนะ แต่ความหิวมันไม่เคยปรานีใครนี่น่า ริมฝีปากบางจูบที่กรามแกร่งก่อนจะผละออกอย่างรวดเร็วเม้มปากเป็นเส้นตรงไม่คิดว่าตนจะใจกล้าทำอะไรเช่นนี้
นางบำเรอวัยขบเผาะของเขาชั่งน่ารัก!
