10 - ผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี
“คุณเป็นผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี ถ้าพ่อหนูรู้ต้องผิดหวังแน่ๆ เลย”ผิดหวังงั้นหรือ! คริสโตเฟอร์แสยะยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูตรงหัวเตียงเช็ดคราบน้ำรักของเขาที่ไหลย้อนจากช่องทางรักอันบอบช้ำ การกระทำเหล่านั้นไม่เคยทำให้ใครมาก่อนเธอคือคนแรก
“ฉันว่าต้องบอกพ่อเธอว่าเราได้เสียกันละ....”
“อย่านะ! ห้ามบอกพ่อหนูอุ่นนะ”ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบประโยคเนตรอักษรก็ยู่ปากส่ายหน้าเป็นพัลวัน จอมเย็นชายิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัยเมื่อมองเห็นจุดอ่อนอันแสนไร้เดียงสาของเธอ
“หืม~ ขอกันง่ายๆ เลยเหรอ”
“แล้วคุณคริสจะให้หนูทำยังไงล่ะ รู้ไหมว่าหนูโกรธคุณที่ทำแบบนี้กับหนู”มันไม่ใช่ความผิดของเธอเสียหน่อย เขาเองที่เดินเข้ามาในห้องของเธอโดยไม่ขออนุญาต มิหนำซ้ำยังสร้างตราบาปที่ไม่มีวันลบมันจากร่างกายได้อีก
“อืม! ก็ตามใจอยากโกรธก็โกรธไปเลย เพราะยังไงฉันก็เสียบเธอแล้วนิ”
“ออกไปจากห้องหนูเดี๋ยวนี้นะ”หญิงสาวเบือนหน้าหนีในตาแดงก่ำแค้นเคืองกับการกระทำเมื่อครู่ อยากจะตะโกนแสกหน้าเขาเสียว่าทำแบบนี้ได้ยังไง ไม่คิดเลยว่าจะพลาดท่าเสียทีผู้ชายที่พบกันไม่กี่ครั้งเช่นนี้
“จุ๊ๆ ไหนลองแทนตัวเองว่าหนูอุ่นสิ”เสียงทุ้มพูดชิดพวงแก้มใสก่อนจะใช้จมูกเป็นสันคลอเคลียอย่างหลงใหล รวบเอวคอดกิ่วเข้ามาประชิดตัวมากขึ้น
“ปล่อยนะ!”
“ลองแทนตัวเองให้น่ารักหน่อยสิ เผื่อใจดีปล่อยเชื้อให้อีกรอบ”
“คุณต้องการอะไรกันแน่ค่ะ หนูบอกว่าหนูไม่แทนไง อ๊ะ!”เด็กสาวร้องอุทานเสียงหลงเมื่อคนที่ช้อนแผ่นหลังเธออยู่นั้นสอดนิ้วเข้ามาในโพรงสวาทอันบวมเปล่ง
“เป็นเมียฉันอย่าคิดว่ามีอำนาจต่อรองได้นะ!”คำว่าเมียที่เขาพูดเมื่อครู่ทำให้หัวใจของเนตรอักษรสั่นระรัว ไม่รู้จะโกรธแค้นเคืองหรือหวั่นไหวสรรพนามที่เขาเรียกขาน
“นุ...หนูไม่ได้ต่อรองแต่ไม่เรียก ซี๊ด!!”เสียงกระแท่นกระท่อนบอกพลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นขยุ้มเรือนผมของเขา ในขณะที่นิ้วร้ายกำลังขยับเข้าออกกลีบผกาลีช่องามจนทำให้เธอเคลิบเคลิ้มหลับตารับสัมผัสของเขา
“น้ำอุ่น”
“ขา~”เมื่อน้ำเสียงอันแสนอ่อนโยนเรียกเธอก็ตอบรับอย่างหลงลืมตัวด้วยความเคยชิน
“ยังอยากทำงานกับฉันหรือเปล่า”
“อื้อ...อย่าแกล้งหนูสิ!”เนตรอักษรพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดเมื่อเขาหยุดชะงักการกระทำทุกอย่างลง
“ตอบฉันมาก่อนสิ!”คริสโตเฟอร์ย้ำจนได้คำตอบคือหญิงสาวพยักหน้างึกงักก่อนจะโพล่งถามเขา
“หนูเป็นแอร์โฮสเตสได้แล้วใช่ไหมคะ?”ทว่าต่อมาชายหนุ่มก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างละเหี่ยใจ เธอเป็นอะไรกับอาชีพนี้นักหนานะทุกคนที่ทำงานแบบนี้เดินทางสัปดาห์ละหนึ่งประเทศด้วยซ้ำ เหนื่อยและลำบากยากเย็นขนาดไหน
“ฉันมีงานที่ดีกว่านั้น”
“อะไรหรือคะ?”เด็กสาวขมวดคิ้วยุ่งเอี้ยวหน้าหวานมองหน้าคมคายที่กำลังระบายยิ้มแห่งความเจ้าเล่ห์ออกมาทีละน้อย
“แค่ไปหาฉันทุกวันที่สนามบิน แล้วถ้าวันไหนเป็นเด็กดีเธออยากไปไหนฉันจะพาไป”คริสโตเฟอร์มองคนในอ้อมกอดที่กำลังทำท่าครุ่นคิดอย่างใจจดใจจ่อ
“คุณต้องสัญญาว่าจะไม่บอกพ่อหนูว่าคุณเข้ามาในห้องนอนวันนี้นะคะ”หากแม้นว่าบิดารับรู้ท่านจะต้องผิดหวังที่เธอทำตัวเหลวแหลกใจแตกเช่นนี้ จะโทษเป็นความผิดของเขาฝ่ายเดียวไม่ได้เพราะเธอเองก็ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ที่พร่ำสอนว่าอย่าพาคนแปลกหน้าเข้ามาในห้อง
“ถ้าเธอไม่ดื้อฉันสัญญา!”เด็กหนอเด็กชั่งสะอาดราวกับผ้าขาวบริสุทธิ์ที่เขาเอาราคีมาแปดเปื้อนเจ้าหล่อนแท้ๆ แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อความต้องการของเขาก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้เช่นกัน....
ภายในห้องทำงานสูงสุดของสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี คริสโตเฟอร์ได้แต่นั่งมองประตูบานใหญ่รอคอยการมาของใครคนหนึ่งนานเกือบห้าชั่วโมง หลังจากค่ำคืนอันแสนเร่าร้อนผ่านไปเด็กสาวก็ไม่มาที่สนามบินอีกเลย
ไม่รู้ว่าทำไมเธอเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจดวงแกร่งของเขาตอนไหนกัน ทว่ามันเริ่มสั่นไหวขึ้นทุกครั้งที่เพียงได้นึกถึงใบหน้าหวานงามหยดย้อยและได้ยินเสียงครวญครางที่ยังกึกก้องในหัวใจของเขา
“หายไปไหนนะยัยเด็กบ้านี่”
“...”
“คอยดูนะถ้าเจอพ่อจะกระแทกเข้าให้!”คริสโตเฟอร์บ่นขมุบขมิบอยู่คนเดียว พ่นลมหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วทำไมเขาต้องมานั่งนึกถึงเด็กสาวจอมจุ้นน่ารำคาญนั่นด้วย
เฮ้อ~ เมียทั้งคนแถมน่ารักอีกต่างหาก
มะ....เมียงั้นหรือ! นายบ้าไปแล้วเหรอคริสโตเฟอร์ อย่าเชียวนะนายไม่เคยแคร์ใคร คิดสิว่าเธอก็เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เคยขึ้นเตียงด้วยก็เท่านั้น เอ๊ะ! แต่ลืมไปนายข่มเหงเด็กคนนั้นนิ
เดี๋ยวสิคริสเด็กคนนั้นก็น่ารักดีนะ ฉันว่าทำไมไม่ลองจริงใจกับเธอดูล่ะ และอีกอย่างเธอก็แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่นายเคยมานะคิดดูดีๆ
เสียงในหัวสมองซีกซ้ายและซีกขวาทะเลาะกันไปมาจนเขาต้องสลัดทุกอย่างออกจากหัว ก่อนจะสนใจกับเอกสารงานของตนต่อไป วันๆ เขาเทียบจะไม่ได้จรดลายเซ็นส์ลงบนกระดาษเลยเพราะมัวแต่คิดถึงเด็กผู้หญิงคนนั้นมากเกินไป
ก๊อก! ก๊อก!!!
“ขออนุญาตครับ”นิโคลัสแคะประตูห้องทำงานใหญ่ก่อนจะเปิดเข้าไปโดยไม่รับรู้ถึงอารมณ์ของผู้เป็นนายในตอนนี้
“ใครอนุญาตออกไป”เสียงเข้มเค้นถามก่อนจะเอ่ยปากไล่อย่างไม่สบอารมณ์สองสามวันมานี้ไม่มีใครเข้าหน้าเขาติดสักคน หากใครมีเอกสารให้เซ็นส์จะต้องวางไว้บนโต๊ะก่อนที่เขาจะเข้ามา
ลูกน้องคนสนิทได้แต่งุนงงว่าตนทำอะไรให้เจ้านายไม่พอใจหรือเปล่า แต่ต้องเก็บความสงสัยไว้ในใจก่อนจะโค้งศีรษะแทนคำขอโทษขอโพยและก้าวออกจากห้องไป
แอด~
“ฟังไม่รู้เหรอวะ ออกไป!!”ชายหนุ่มที่กำลังเดือดดาลกับการหายหน้าหายตาของเนตรอักษร จนไม่ลืมหูลืมตาว่าใครเป็ดคนผลักประตูห้องทำงานของเขาจนต้องเผลอตะคอกใส่
“ทำไมต้องดุหนูด้วย ไม่อยากให้เข้าไปหนูกลับก็ได้”ผู้มาเยือนใหม่ก้มหน้างุดน้อยอกน้อยใจกับคำพูดเอ่ยปากไล่ของเขา เธอก็แค่มาตามสัญญาที่เคยให้ไว้เมื่อหลายวันก่อนแต่กลับโดนตะคอกเสียงใส่
