06 - กลัวปืนลั่น
“ก็แค่จูบเด็กน้อยไม่ถึงตาย”จะรู้บ้างไหมว่าเธอนั่นแหละกำลังทำให้เขาแทบเจียนคลั่งตาย
“คุณจูบจนหนูหายใจไม่ออกนิ”คนตัวเล็กยังเถียงฉอดๆ ไม่ยอมลดราวาศอกลงง่ายๆ ก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่น เมื่อฝ่ามือข้างที่ไม่ได้ประคองร่างเธอไว้ทาบลงบนหน้าท้องแบนราบลูบไล้มันอย่างแผ่วเบาผ่านเสื้อสีขาวที่เป็นเครื่องแบบยูนิฟอร์มของไฮสคูล
“แค่จูบบอกแล้วไงว่าไม่ตาย ถ้าพูดมากจะทำมากกว่าจูบนะ”
“ปล่อยหนูเลยหนูไม่พูดกับคุณแล้ว”ใบหน้างามกระเง้ากระงอดอย่างยอมแพ้ จะพูดอะไรก็ผิดไปหมดต่อไปนี้จะเว้นระยะห่างจากผู้บริหารสุดหล่อของสายการบินแอร์ไลน์ที่เธออยากจะทำงานด้วยให้มากที่สุด
“ไม่ปล่อยจะทำไม”จอมเย็นชาเลิกคิ้วถามก่อนจะหลุบยิ้มออกมาเมื่อเจ้าหล่อนทำปากยื่นปากยาวอย่างขัดใจ
“อ๊ะ~ ทำไมลุงต้องจับนมหนูด้วย....”เสียงเล็กแผดใส่คว้าหมับที่ข้อมือหนาที่ตีเนียนกอบกุมอกข้างซ้ายของเธอเอาไว้อย่างเต็มไม้เต็มมือ
“ฉันทำอย่างงั้นเหรอ”คนหน้ามึนปฏิเสธแต่กลับส่งยิ้มที่ยากเกินจะคาดเดาได้ว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ไปให้คนตัวเล็ก ทรวงอกที่ไหวกระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจฟึดฟาดด้วยความกราดเกรี้ยวของเจ้าหล่อนทำให้เขาอยากจะรู้ว่ามันจะใหญ่โตเกินตัวที่เขาแอบสังเกตหรือเปล่าจึงไม่รอช้าที่จะสัมผัสมัน
“ก็หนูเห็นอยู่ลุงจับมันเมื่อกี้”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกลุง สงสัยอยากจะครางชื่อคริสมากใช่ไหม”เค้นเสียงบอกสาวน้อยแต่อย่างอื่นไม่น้อยรู้ว่าเขาจะไม่ขู่อีกต่อไป ทว่าจะแสดงให้ดูเหมือนถ้อยคำที่เปล่งบอก
“หนูเลิกเรียกลุงแล้วก็ได้พอใจไหมคะคุณคริส”ตอบอย่างจำยอมพยายามใช้เท้าเล็กแตะลงพื้นเพื่อลงจากหน้าตักแข็งแรงของเขา เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ทิ่มกับสะโพกงามงอน
“จะไปไหน”
“คุณพกปืนในกางเกงหรือเปล่าค่ะ หนูว่ามันทิ่มก้นหนู”
“...”คริสโตเฟอร์แทบอยากจะเอาหัวโขกพื้นให้ตายไปเสีย เด็กอะไรจะโลกสวยขนาดนี้นี่มันยุคไหนกันแล้ว ทำไมเจ้าหล่อนถึงไม่รู้ว่าภายใต้กางเกงของเขาอาวุธร้ายที่เคยสงบเริ่มผงาดงันทำงาน
“ปล่อยหนูลงเดี๋ยวนี้นะเดี๋ยวมันจะลั่นใส่หนู”
“กระสุนมันไม่ลั่นหรอก แต่เชื้อฉันมันจะลั่นใส่ตัวเธอรู้หรือเปล่า”ยิ่งเจ้าหล่อนขยับตัวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้แก่นกายใหญ่พองโตรวดร้าวจนแทบปริแตก กายนุ่มนิ่มของเด็กสาวอันแสนเย้ายวนจนเขาอยากจะกดเธอกดบนโต๊ะอาหารและกระหน่ำสะโพกเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง
“...”เนตรอักษรเม้มปากแน่นเมื่อประจักแจ้งแก่ใจแล้วว่าสิ่งที่ดุนดันสะโพกกลมกลึงน่าหวาดเสียวนั้นคืออะไร ถึงแม้จะเคยอ่านนิยายโรมานซ์มาเยอะจนรับรู้เรื่องอย่างว่าก็ตามแต่ ทว่าเมื่อได้ประสบพบเจอกับตัวเองทำให้คนไม่ประสีประสานิ่งงันไม่กล้าขยับตัวไปไหน
“น้ำอุ่น~”เป็นอีกครั้งที่น้ำเสียงชวนน่าขนลุกเรียกชื่อเล่นของเธอที่ข้างกกหูจนทำให้คนตัวเล็กหันหน้ามองเขา แต่เนื่องด้วยใบหน้าของเขาใกล้กับเธอจนเกินไปเลยทำให้จมูกรั้นเล็กชนกับจมูกโด่งเป็นสันพอดิบพอดี
“เอ่อ....”
“ทานอาหารต่อเถอะ!!”
“...”ท่อนแขนที่ตวัดรอบเอวบอบบางไว้คลายออกจนคนที่กำลังจ้องเขานั้นหลุดจากภวังค์ความคิดบางอย่าง หญิงสาวพ่นลมหายใจออกจากปากอย่างโล่งอกที่ไม่อยู่ในสถานการณ์เหมือนถูกฉุดลงเหวสูงให้วูบไหวและหวาดเสียวเป็นที่สุด
“คุณคริสคะ! ถ้าหนูเรียนจบคุณจะให้หนูเป็นแอร์โฮสเตสไหมคะ”หญิงสาวเรียกชื่อที่เขาเคยบอกให้เรียกเพราะกลัวว่าจะโดนจูบกระชากวิญญาณอีก ก่อนจะกระพริบตาปริบๆ เฝ้ารอคำตอบ
“อย่าเพิ่งคิดเรื่องเป็นแอร์ได้ไหม อีกตั้งหลายปีไม่ใช่เหรอกว่าจะเรียนจบ”ทำไมเด็กคนนี้อยากจะเป็นแอร์โฮสเตสนักนะ ไม่คิดอยากเป็นเมียเจ้าของสายการบินบ้างเลยหรือไงกัน
บ้าฉิบ! ความคิดบัดซบนี้ฉุกขึ้นมาในหัวของเขาอีกแล้ว
“ไม่เคยได้ยินหรือคะคนเราอยู่ได้ด้วยความฝัน”ตั้งแต่ผู้เป็นแม่จากโลกนี้ไปคนที่คอยอยู่เคียงข้างก็พลอยจางหายไปจากชีวิตตลอดกาล ถึงพ่อของเธอท่านจะรักและเอ็นดูที่เอามาเลี้ยงดูที่อิตาลี แต่ทว่ากับไม่มีเวลาให้เธอเลยสักนิด
เงินทองมากมายที่ให้ใช้ทุกวัน สวมใส่เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับราคาแพงล้วนแต่เป็นสิ่งนอกกาย ในใจของเธออยากจะได้อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นจากอกผู้เป็นพ่อมากกว่า
“พ่อเธอเค้าอยู่ด้วยทุกวันหรือเปล่า”
“ถามทำไมหรือคะ?”เด็กสาวเลิกคิ้วถามเมื่อเธอไม่เคยปริปากว่าอยู่ที่อิตาลีกับใคร และไม่มีใครรับรู้ว่าพ่อของเธอทำงานอะไร แต่ทำไมชายหนุ่มถึงโพล่งคำถามนั้นขึ้นมา
“บอกแล้วใช่ไหมว่าผู้ใหญ่ถามให้ตอบ”
“หนูแค่แปลกใจว่าทำไมคุณถามถึงพ่อหนูก็เท่านั้น หรือคุณคิดมิดีมิร้ายกับหนู”
“....”
“อย่านะหนูไม่ยอมจริงๆ ด้วย”ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาเมื่อแม่เคยบอกว่าหากมีผู้ชายถามว่าอยู่บ้านกับใครต้องบอกว่าอยู่กันหลายคน เพราะพวกนี้อันตรายเป็นที่หนึ่งโดยเฉพาะคนที่รู้จักกันไม่นาน
“เฮ้อ~ คิดว่าพิศวาสเธอหรือยังไงกัน”เขาพูดปัดความรู้สึกส่วนลึกของตัวเอง มองท่าทางขู่ฟ่อๆ ราวกับแมวกำลังเจอภัยก็ต้องเผลอหลุดยิ้มออกมา
“เอ๊ะ! เมื่อกี้คุณยิ้มเหรอคะ”เหมือนสิ่งที่เนตรอักษรประจักษ์เมื่อครู่คือสิ่งมหัศจรรย์ ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาทว่าแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกใครจะคิดว่าเมื่อสักครู่เขาดูมีเสน่ห์และน่าลุ่มหลงมากแค่ไหน
“สมองเพี้ยนไม่พอ ตายังลายอีกนะยัยเด็กเอ๋อ”น่าอายชะมัดที่เธอดันตาดีเห็นคริสโตเฟอร์ฉายาเสือยิ้มยากเผลอยิ้มออกมา
“ไม่เอาสิ! อย่าทำหน้าดุนะ หนูว่าเมื่อกี้หล่อกว่าเยอะ”เสียงเจื้อยแจ้วบอกคนที่กำลังทำหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะหยิกแก้มสากเพื่อให้เห็นรอยยิ้มเขาอีกครั้ง
“เด็กนี่นิเดี๋ยวพ่อก็ล่อทำเมียซะนิ”การกระทำอันแสนจะโคตรน่ารักของเธอทำให้เขาอยากจะจับเด็กสาวกดแผ่นหลังของเจ้าหล่อนลงบนโต๊ะ หรือไม่ก็กดเอวคอดกิ่วให้คร่อมอยู่บนเรือนร่างของเขานัก
