04 - จูบฉันแทนตุ๊กตา
ก๊อก!! ก๊อก!!!
“เข้ามา”เสียงเข้มเค้นบอกก่อนที่นิโคลัสจะเดินเข้ามาในมือถือซองเอกสารบางอย่างมาด้วย
“ผมสืบมาแล้วครับนาย เธอชื่อเนตรอักษร พัชรกุล ย้ายมาอยู่ที่อิตาลีเมื่อปีที่แล้ว หลังจากมารดาเธอเสียด้วยโรคมะเร็ง พ่อของเธอจึงไปรับมาอยู่ที่นี่ครับ”มือขวาอธิบายรายละเอียดคร่าวๆ ทว่ากับต้องหยุดคำพูดทุกอย่างเมื่อผู้เป็นนายยกมือปรามเอาไว้ก่อน
“ฉันจะเปิดอ่านเองไปทำงานต่อได้แล้ว”ปรายตามองลูกน้องของตนเพียงแวบเดียว ก่อนจะสนใจกับแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงาน ชายหนุ่มมองกระดาษปึกใหญ่ที่นิโคลัสรวบรวมมาให้ชั่วครู่
“หืม....เกิดที่ประเทศไทยเพิ่งย้ายมาอยู่ที่อิตาลี”ถึงแม้จะได้ยินในสิ่งที่นิโคลัสบอกคร่าวๆ เมื่อครู่ ทว่าคริสโตเฟอร์กับอยากจะรู้เรื่องราวของสาวน้อยคนนี้ด้วยตัวเองเสียมากกว่า
“อายุ 19 ปี ต้องมาเรียนปรับพื้นฐานภาษาอิตาลีหนึ่งปีเลยเรียนช้ากว่าเกณฑ์”
“...”
“น่ารัก~”เมื่อนิ้วเรียวเปิดไปอีกหน้าก็พบกับรอยยิ้มของเธอที่กำลังส่งมายังกล้องถ่ายรูป จนเขาครางละเมอมองความสดใสในกระดาษที่ถูกส่งผ่านมาให้ อัตราการเต้นหัวใจของคริสโตเฟอร์ทำงานอย่างบ้าคลั่งเมื่อเปิดหน้าต่อไปมองทุกอกัปกิริยาของเธอ
ROME INTERNATIONAL HIGH SCHOOL
ร่างเล็กกำลังเดินไปบนริมฟุตปาธหน้าตึกอาคารเรียนของตน เมื่อวิชาสุดท้ายสิ้นสุดลง เนตรอักษรดูเวลาที่มีบอกในนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือของตน ก่อนที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่วันนี้เลิกเรียนช้าอีกแล้วคงจะไม่ได้ไปนั่งเล่นในสนามบินอีกตามเคย
สองวันแล้วที่เธอเอาแต่นั่งศึกษาภาษาสเปนและภาษาดัตช์ที่ชายหนุ่มเจ้าของสายการบินบอกว่าหากใครอยากทำงานที่นั่นต้องพูดให้ได้อย่างน้อย 6 ภาษา
บรื้น~ บรื้น~
“อ๊ะ! ขับรถอะไรของเขานะ”ขาเล็กก้าวผิดตกฟุตปาธทว่ากลับพยุงตัวเองไม่ให้ล้มลงไปกองบนพื้นได้ แต่เพียงแค่เธอตวัดขาเดินบนพื้นถนนคอนกรีตก็มีรถสปอร์ตหรูขับจี้หลังเธออย่างเว้นระยะไม่มากเท่าไหร่
เนตรอักษรลองหยุดเดินเพื่อให้รถคันดังกล่าวขับผ่านไปก่อน แต่ยานพาหนะหรูก็เคลื่อนตัวเพียงเล็กน้อย ก่อนที่คนขับจะลดกระจกลงทำให้หญิงสาวต้องขมวดคิ้วมองด้วยความงุนงง
“จะไปไหน”เอ๋~ คุณลุงเจ้าของสายการบินโดมินิก แอร์ไลน์ ที่เธอเพิ่งเจอเขาเมื่อไม่กี่วันนี่น่า แล้วเขามาทำอะไรแถวนี้ ผ่านมาหรือบังเอิญเจอกันแน่นะ ในหัวของเด็กสาวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“มีอะไรหรือคะ”ไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่มทว่าถามกลับ เธอยังสับสนงุนงงว่าคุณลุงสุดหล่อลากไส้มาทำอะไรในไฮสคูลที่เธอเรียนอยู่
“ผู้ใหญ่ถามให้ตอบไม่ใช่ถามกลับ”
“...”
“ไม่มีมารยาท”คริสโตเฟอร์เค้นเสียงใส่ เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องมาดักรอเจ้าหล่อนถึงในบริเวณสถานศึกษาขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่อยากจะพบเจอเด็กจอมจุ้นจ้านคนนี้เลยด้วยซ้ำ
ทุกครั้งก่อนหน้านี้เด็กสาวมักชอบไปนั่งเล่นหน้าลิฟต์ของตึกสายการบิน ทว่าสามวันเต็มที่เขาไม้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มเลยจึงทำให้กระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก
“หนูแค่สงสัยว่าคุณละ....”
“ฉันบอกไปแล้วว่าฉันชื่อคริสโตเฟอร์ และไม่ได้แก่จนให้เธอมาเรียกว่าลุง”หากเด็กคนนี้เรียกเขาว่าลุงอีกล่ะก็ พ่อจะจูบให้ปากบวมเลยคอยดู!
“ก็หนูไม่อยากเรียกชื่อคุณนิค่ะ คุณอายุมากกว่าหนูจะเรียกพี่ก็กระดากปาก”ปากยื่นปากยาวตอบเขาก่อนที่ชายหนุ่มจะเปิดประตูลงจากรถ เนตรอักษรมองร่างสูงที่กำลังย่างสามขุมเข้าใกล้จนเธอต้องขยับกายถอยห่างอีกนิด
“อย่ามากวนประสาทฉัน”
“หนูเปล่ากวนนะ เปล่าเลยจริงๆ”ลอยหน้าลอยตาตอบจนคนมองนึกหมั่นไส้ อยากจะจับฟาดก้นเด็กดื้อให้เข็ดหลาบที่บังอาจทำให้เขาปวดหัวและปวดหนึบตั้งแต่วันแรกที่พบกัน
“เฮ้อ~ สรุปว่าเธอกำลังจะไปไหน”เสียงพ่นลมหายใจหนักๆ ของเขาดังขึ้น เมื่อคริสโตเฟอร์ระบายอารมณ์บางอย่างออกมา อยากจะขยับเข้าไปใกล้คนตัวเล็กอีกนิดก็กลัวจะเสียฟอร์ม
“หนูกำลังไปหาอาหารทานและกลับบ้านค่ะ”หญิงสาวตอบตามความจริง ในเมื่อเธอจะต้องไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนสุดโปรดเพื่อฝากท้องที่นั่นทุกวันเช้าเย็นเป็นประจำ เนื่องจากว่าผู้เป็นพ่อต้องเดินทางทำงานตลอดเวลาจึงทำให้เนตรอักษรต้องโดดเดี่ยวคนเดียวในอิตาลี ถึงแม้จะมีเพื่อนแต่เธอว่าทุกคนก็ต้องเวลาเป็นของตัวเองบ้างในบางครั้งบางคราว จะให้ตามติดกันตั้งแต่เข้าเรียนยันเลิกเรียนไม่ได้หรอก
“ขึ้นรถ!”
“อะไรนะคะ”
“หูหนวกเหรอ บอกให้ขึ้นรถ”ทำไมเธอเป็นคนเข้าใจอะไรยากเย็นขนาดนี้ เขาพูดคำเดียวไม่รู้เรื่องจะต้องให้ย้ำซ้ำสองจนมันน่าหงุดหงิด เพราะคริสโตเฟอร์เคยได้ดั่งใจมาตลอดแต่เด็กสาววัยกระเตาะคนนี้ชั่งชอบทำให้อารมณ์ขึ้นอยู่เรื่อย
“แล้วทำไมหนูต้องไปกับคุณลุง อื้อ....”ไม่ทันที่เสียงหวานจะพูดจบประโยคท้ายทอยเล็กก็ถูกล็อคด้วยฝ่ามือหนาก่อนที่ปากหยักสวยจะกระทกปิดปากบางจิ้มลิ้ม ชายหนุ่มทำอะไรรวดเร็วเสียจนหญิงสาวตั้งตัวไม่ทันได้แต่ยื่นแข็งทื่อ
“บอกแล้วว่าอย่าเรียกฉันว่าลุง!”ปากหยักผละออกก่อนจะบอกในสิ่งที่ตนย้ำเธอสองครั้งสองคราว่าอย่าเรียกเขาว่าลุงอีก ทว่าสัมผัสเมื่อครู่ชั่งน่าเสียดาย เขาจูบเธอก็จริงแต่ไม่ได้ลุกล้ำด้วยปลายลิ้นทั้งที่อยากจะสอดแทรกมันเข้าไปเชยชิมความหวานล้ำจากภายในเสียเต็มประดา
“มะ...เมื่อกี้คุณจูบหนู ทำไมล่ะคะหนูทำอะไรผิด”
“....”
“ก็ในนิยายที่หนูอ่านพระเอกจะจูบนางเอกเป็นการลงโทษถ้าทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ”โลกสวยเกินไปแล้ว แม่ของเธอคลอดเจ้าหล่อนในทุ่งดอกลาเวนเดอร์หรือยังไงกันนะ!
“ไปขึ้นรถ”
“ดะ...เดี๋ยวสิ! คุณยังไม่ตอบหนูเลยนะว่าหนูทำอะไรผิด”ยัยเด็กนี่เกิดมาพร้อมกับเครื่องหมายเคทชั่นมาร์กในหัวเหรอ ขนาดเขาเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองตอนนี้แล้วจะหาคำตอบที่ไหนมาตอบเด็กขี้สงสัยกัน
“อยากจูบมีปัญหาอะไรไหม”คริสโตเฟอร์เค้นเสียงตอบอยากจะรู้เหมือนกันว่าหากตอบไปแบบนี้เธอจะถามต่อไหม
“ไม่มีปัญหา หนูจูบบ่อยแล้ว”ใช่เธอจูบพี่หมีตัวสีน้ำตาลที่บิดาซื้อให้ทุกคืนเพื่อคลายความเหงาและกอดแนบกายให้ได้รับความอบอุ่น เหมือนดั่งว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวในคอนโดที่ผู้เป็นพ่อซื้อเอาไว้
“เคยจูบ?”คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม เคยจูบคนอื่นมาแล้วงั้นหรือบ้าจริงใครกันนะน่าอิจฉาชะมัด เฮ้ย น่าเอาปืนแสกหัวกระบาลฉิบ!
“ค่ะหนูจูบตุ๊กตาพี่หมีชิลลี่บราวน์แบร์บ่อย”ตุ๊กตา! เด็กนี่ทำให้เขาใจหายใจคว่ำทั้งที่เขาเองก็ไม่เคยมีอาการเนื้อเต้นเช่นนี้ หลังจากผู้หญิงคนไหนที่เข้ามาในชีวิตบอกว่าเคยทำอะไรมาบ้างแล้ว ทว่าคนตรงหน้าทำให้เขายอมเปิดกระดาษอ่านประวัติของเธอเกือบสามร้อยหน้าได้ราวกับว่าเธอมีแม่เหล็กดึงดูดความสนใจแก่เขาได้
“ต่อไปนี้จูบฉันแทนตุ๊กตาได้ไหม”
“ห๊ะ! คุณลุงจะให้หนูจูบงั้นเหรอ”เนตรอักษรแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด บ้าหรือเปล่าจู่ๆ จะให้เธอเอาปากไปสัมผัสปากหยักสวยของเขาน่ะเหรอไม่เอาด้วยหรอก
“เอ่อ....จะพล่ามอีกนานไหม ไปขึ้นรถได้แล้ว”คริสโตเฟอร์ปรับน้ำเสียงแก้เก้อ เกลียดคำพูดตรงไปตรงมาตามความรู้สึกเมื่อสักครู่นี้นักอยากจะตบปากตัวเองเสียจริง
