6/4
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ทาดิลกลั้นเสียงหัวเราะลั่นเอาไว้ไม่อยู่ เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ถ้าเขาไม่เห็นว่าในบัตรประชาชนของเธอ มีอายุ 20 ปีแล้ว เขาคงต้องคิดว่าแม่สาวน้อยคนนี้มีอายุไม่เกิน 15 ปี
“หัวเราะอะไร หนูรีจริงจังนะ ไม่ได้พูดให้คุณหัวเราะขำหนูรีแบบนี้ซะหน่อย”
ทาดิลลดเสียงหัวเราะลงตามลำดับอึดใจต่อมาเขาก็เลิกหัวเราะ สาวน้อยหน้างอง้ำค้อนประหลักประเหลือก แปลกที่เขาคิดว่าน่ารัก ไม่เหมือนผู้หญิงอื่น พอไม่พอใจก็หน้างอเป็นม้าหมากรุกตาเขียวปั๊ด ไม่สวยเลยสักนิด แต่คนนี้กลับน่ารักได้ใจ ทุกกิริยาท่าทางที่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ได้ปั้นแต่ง ช่างงดงามสมวัยและยั่วยวนดีแท้
“แล้วเธอคิดว่ากลิ่นตัวเธอตอนนี้เหม็นหรือเปล่าล่ะ”
“เหม็นค่ะ”
“เหรอ ไหนขอฉันพิสูจน์หน่อยสิ”
แล้วสิ่งที่สาวน้อยไม่คาดคิดว่าเขาจะทำก็เกิดขึ้น นรีกระจ่างถูกกดลำคอให้ต่ำก่อนที่ริมฝีปากรุมร้อนจะคลอเคลียซุกไซ้ไปมา เท่านั้นยังไม่พอปลายลิ้นสากยังเลียไล้ผิวกายที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ หยาดเหงื่อที่เธอคิดว่าเหม็นและน่าสะอิดสะเอียนนักหนา กำลังถูกละเลียดลิ้มชิมรสจนร่างกายที่ร้อนอยู่แล้วยิ่งร้อนวาบ เขาทำราวกับรสชาติของหยดน้ำที่ซึมออกจากร่างเธอแสนหวาน ทั้งที่ความจริงมันน่าจะเค็มมากกว่า
“ทาดิล”
เสียงหวานขับขานชื่อของเขาช่างไพเราะเหลือเกิน ทาดิลรั้งร่างบางขึ้นให้ทรวงอกอวบอิ่มละลานตาอยู่ในระดับใบหน้า ปลายจมูกโด่งแหลมเฝ้าดอมดมซุกไซ้ก่อนที่เรียวลิ้นจะวาดไล้ไปทั่วเนินสล้าง ยอดถันสีทับทิมถูกเชยชมด้วยสายตาแสดงความกระหายโดยไม่คิดจะปิด ริมฝีปากร้อนผ่าวอ้างับปลายถันและดูดกลืนราวกับทารกตัวน้อย
นรีกระจ่างเปลี่ยนความขวยเขินมาเป็นความเสียวสยิว ขนบนกายของเธอลุกซู่ราวกับตบเท้าเป็นกองกำลังที่มีระเบียบวินัย หัวใจของเธอสั่นหวิวและอยากกรีดร้องให้สุดเสียง เมื่อกลีบกายแห่งความปรารถนากำลังถูไถกับแก่นกายแข็งกร้าว ขนาดยังไม่ได้เข้าไปในกาย เธอยังแทบขาดใจถึงเพียงนี้
“หวานมาก ทั้งกลิ่น ทั้งรสชาติ หอมหวานไม่มีใครเกิน”
“คุณทำได้ยังไง มัน...”
“มันอะไร ทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นล้วนแล้วมาจากความต้องการของเราไม่ใช่เหรอ แล้วจะมีอะไรที่ไม่สวยงามล่ะเด็กโง่”
“เรา?”
“ใช่สิ ความต้องการของเราสองคน”
เขาพยายามเกลี้ยกล่อมและทำทุกอย่างในสาวน้อยหายกลัว การขยับร่างเสียดสีไปมาเป็นการสร้างความสุขในระดับแรก ชายหนุ่มพลิกกายให้หญิงสาวนอนหงาย เห็นทีถ้าให้เธอทำเอง คืนนี้คงไม่มีทางได้นอน
ทาดิลถอดเสื้อคลุมออกเหวี่ยงไปให้พ้นทาง บัดนี้ร่างกายของเขาเปลือยเปล่ากำยำและทาบทับอยู่บนตัวเธอ ร่างกายที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็คของเขากำลังทำให้เธอหลอมละลาย
“สัมผัสฉัน แตะต้องฉัน ลูบฉันให้ทั่วตัวสิหนูรี”
นรีกระจ่างสบตาสีฟ้าที่ดูจะเข้มขึ้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนสีได้ด้วยเหรอ หรือเพราะเขากำลังมีอารมณ์ แต่ไม่ว่าสีตาจะเปลี่ยนเป็นสีอะไร เธอก็รักเขา รักแบบไม่มีข้อแม้ รักแบบซื่อสัตย์ สะอาด และบริสุทธิ์
มือเล็กลูบไล้บ่ากว้างแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ร่างกายของเขาแข็งแรงทุกสัดส่วน และเธอก็เพิ่งเห็นว่าเขาก็เหงื่อออกเหมือนกัน แสดงว่าความรู้สึกเสียวสยิวไม่ได้เกิดขึ้นกับเธอคนเดียวสินะ คิดอย่างย่ามใจก่อนจะเลื่อนมือลงลูบอกกว้างเมื่อความหวาดหวั่นลดลงไปกว่าครึ่ง รอยยิ้มบนมุมปากลึกกำลังบอกว่าเขาพอใจ พอใจที่เธอลูบไล้เรือนกายของเขา หรือพอใจที่...ขาเรียวขาวของเธอตวัดรัดเอวสอบ
“ดีมากหนูรี รัดฉันแน่นๆ ฉันจะพาเธอไปเที่ยวสวรรค์”
“สวรรค์? หมายถึงเราจะขึ้นสวรรค์ด้วยกันอย่างนั้นหรือคะ”
“หึ หึ...เดี๋ยวเธอก็รู้”
ทาดิลเท้าแขนคร่อมร่างนุ่มเอาไว้ จูบแผ่วๆ ไปทั่วดวงหน้างดงาม วาดปลายลิ้นเลียใบหูเล็กนุ่ม มือข้างหนึ่งยกขึ้นกอบกุมทรวงสล้างนุ่มหยุ่น บีบกระชับและคลายออกสลับกัน ปลายนิ้วหัวแม่มือสะกิดป้านถันบี้ขยี้ยอดทรวงและดึงทึ้ง เรือนกายสูงใหญ่ขยับขับเคลื่อนอยู่เหนือร่างนุ่ม กายกำยำร้อนผ่าวและแข็งกร้าวถูไถเสียดสีกลีบสวาทสดใหม่ เขาขยับเลื่อนขึ้นลงในขณะที่เรียวปากก็ยังบรรจงจุมพิตไปทั่วดวงหน้าหวาน
นรีกระจ่างรู้สึกคับคล้ายคับคลาว่าร่างใหญ่ของทาดิลสั่นยะเยือก ก่อนที่สติของเธอจะติดปีกโบยบินไปกับสัมผัสที่แสนรัญจวน อ้อมแขนเล็กๆ ก็รวบรัดร่างใหญ่ มือน้อยลูบไล้ปลุกเร้าไปทั่วแผ่นหลังเครียดเขม็ง ปลุกเร้าและยั่วยุโดยไม่รู้ตัว รู้แต่ว่าเธอจะต้องสัมผัสตอบโต้กับเขา
ลมหายใจของทาดิลหอบสะท้าน แม่สาวน้อยใสซื่อกำลังเริ่มเรียนรู้ที่จะให้กลับคืน เรียวขาสวยขยับไปมาอยู่เหนือสะโพกเครียดเกร็ง สะโพกผายซึ่งถูกบดเบียดเคลื่อนไหวขยับสอดคล้อง เร่งเร้า รุนแรงทวีขึ้นเรื่อยๆ
“เป็นยังไงคนเก่ง เธอรู้สึกยังไงบ้าง บอกฉัน”
“หนูรีร้อน หนูรีอยากเสียดสีกับคุณมากกว่านี้”
ดวงหน้าของแม่สาวน้อยแดงแช้ด กลีบปากอิ่มบวมเจ่อจากจูบของเขา เธอจะรู้บ้างไหมนะว่าเขากำลังจะขาดใจหากไม่ได้เข้าไปในตัวเธอ แต่แม่สาวน้อยแสนสวยจะต้องพบสวรรค์ชั้น 7 และเขาจะต้องยอมปวดร้าวเพื่อเป็นผู้ส่งเธอขึ้นสวรรค์
“ฉันก็อยากคนดี แต่ร่างกายที่ใหญ่โตของฉัน อาจทำให้เธอเข็ดหลาบ เราจะต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะหนูรี”
ปากก็พร่ำบอก ร่างกายก็ยังขยับเสียดสี จนเขารู้สึกได้ถึงความชุ่มฉ่ำซึมออกมาจากกลีบดอกไม้แรกแย้ม อาบชโลมแก่นกายของเขาจนลื่นไหน ร่างกายของเขาปวดหนึบจนต้องกัดฟันกรอด และดูเหมือนว่าสาวน้อยจะได้ยินเสียงฟันกระทบกัน
“ทาดิล คุณเป็นอะไรไปคะ”
“เจ็บ ฉันเจ็บ”
“เอ๊ะ! คุณมีบาดแผลตรงไหนคะ หนูรีไปโดนตรงไหน คุณถึงได้เจ็บจนต้องกัดฟัน”
หน้าซื่อตาใส่ของเธอ กำลังฆ่าเขาทางอ้อม ช่วยไม่ได้แล้วยิ่งเธออยากรู้ ความไร้เดียงสาจะทำให้เขาอกแตกตาย ชายหนุ่มสอดมือเข้าไปกลางร่าง แทนที่แก่นกายด้วยปลายนิ้วบี้เกสรนารีชุ่มฉ่ำ เท่านั้นหญิงสาวก็ครวญครางไม่เป็นศัพท์ ทาดิลจึงเลื่อนตัวลงเปลี่ยนเป้าหมายพลิกตัวโค้งกายลงหากลีบสาว ความแดงช้ำจากการเสียดสีเรียกให้เขาต้องทำเสียงบางอย่างในลำคอ
ชายหนุ่มถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนกดริมฝีปากเลียไล้ปลายลิ้นบนกลีบดอกไม้ตูมแน่น กายสาวสะบัดพลิกพริ้วไม่รอท่า เสียงครวญครางดังระคนเสียงหอบหายใจจนทรวงสะท้อน
“ช่วยฉันหน่อยเถอะคนสวย จับฉันที ลูบไล้ฉันที”
