2/4
ร่างสูงของชีคแฝดที่กลายมาเป็นจอมโจรแฝดเฉพาะกิจ อยู่ในชุดสีดำที่เปิดเผยเพียงดวงตาเท่านั้น พวกเขาเป็นใครไม่มีใครรู้ แต่เวลานี้กระเป๋าเป้สองใบที่บรรจุสิ่งของมีค่าวางอยู่บนโต๊ะของประธานมูลนิธิช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้ประจำประเทศจีน มูลนิธิแห่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ยากไร้ภายในประเทศ แต่ยังรวมถึงทุกประเทศที่มีความยากจนกว่า 50% สมาชิกในมูลนิธิล้วนแล้วแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อจะแบ่งค่าตอบแทนจำนวนหนึ่งช่วยเหลือผู้ยากไร้ ถือเป็นบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ ความดีที่ทำแม้ตายไปก็ยังติดอยู่ในใจของลูกหลาน
หากแต่เวลานี้เจ้าของมูลนิธิกำลังมีผู้ร่วมบริจาคที่ไม่ประสงค์จะเป็นสมาชิก แต่นำสิ่งของมีค่ามาบริจาคด้วยความสมัครใจ ไม่ว่าของสิ่งนั้นจะได้มาด้วยเหตุอันใด คนยากจนข้นแค้นโดยเฉพาะเด็กตาดำๆ ต่างกำลังรอคอยผู้ใจบุญมาช่วยเหลือ
“ผมจะไม่ถามหรือซักไซ้ว่าพวกคุณได้ของเหล่านี้มายังไง แต่ผมจะขอบคุณพวกคุณที่อุตส่าห์เห็นแก่เด็กน้อยตาดำๆ ไร้ที่พึ่งพิง ไร้อาหาร ไร้ยารักษาโรค”
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ของพวกนี้เป็นของเราที่ถูกขโมยไป แต่มันนานมากจนเราไม่อยากเก็บมันไว้ เพราะที่มีการมากพอจนชาตินี้ทั้งชาติใช้ให้ตายก็ใช้ไม่หมด เรารบกวนให้คุณนำไปเปลี่ยนเป็นเงินแจกจ่ายให้เด็กๆ ที่ยากไร้ทั่วโลก ที่เราเลือกคุณก็เพราะสืบมาอย่างดีและแน่ใจว่าคุณช่วยเหลือเด็กๆ จริง และหวังว่าสมาชิกของคุณทุกคนจะไว้ใจได้ด้วย”
“ไว้ใจได้ครับ ไม่ต้องห่วง ผมรับประกันด้วยเกียรติของผมเอง”
“ขอบคุณ”
หลังจากกล่าวขอบคุณเสร็จ ไม่กี่นาทีต่อมาเฮลิคอร์ปเตอร์ส่วนตัวก็บินขึ้นจากดาดฟ้าตึกมูลนิธิแห่งนั้น เสียงเครื่องยนต์เบาลงเรื่อยๆ แล้วเฮลิคอร์ปเตอร์ลำนั้นก็หายวับไปจากรัศมีสายตา
“เสร็จเรื่องไปหนึ่ง คราวหลังนายต้องตัดสัญญาณกันขโมยก่อนนะ ไม่งั้นอาจไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้” เรย์ยาชเตือนพี่ชายน้ำเสียงรื่นรมย์
“ขอโทษด้วย มันเป็นการปล้นครั้งแรก อะไรๆ ก็พลาดกันได้น่ะ”
“แต่พลาดเพียงครั้งเดียว ก็มีสิทธิ์ตายได้นะพี่ชาย”
“รู้แล้วล่ะน่ะ ถึงยังไงก็ไม่มีหลักฐานหลงเหลือ นอกจากสัญลักษณ์ตัวอักษรที่นายจงใจทิ้งไว้ กับแม่สาวน้อยคนนั้น”
“เรื่องสัญลักษณ์ ฉันทิ้งให้พวกมันเจ็บใจเล่นๆ ส่วนแม่สาวน้อยนั่น ฉันแน่ใจว่าหล่อนจะไม่ปากโป้ง แจ้งตำรวจให้จับซุเปอร์สตาร์ของตุรกีเข้าคุกหรอก” แฝดน้อยอดโม้ไม่ได้
“นายรู้ได้ไงว่าหล่อนจะไม่บอกใคร”
“ก็โปสเตอร์นั่นเป็นโปสเตอร์ของทาดิล ซาจานลาน่ะสิ เจ้าหล่อนคลั่งไคล้ทาดิลจะตายไป ดูก็รู้แล้ว”
ชีคเรย์ฮานอดหัวเราะไม่ได้ เสน่ห์ของเรย์ยาชยังคงมีมากได้ทุกที่ แต่มันจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายต้องรอดูกันต่อไป แม่สาวน้อยหน้าใสนั่นอาจจะคลั่งไคล้น้องชายฝาแฝดของเขาจนปิดปากเงียบก็เป็นได้
“อย่าเพิ่งด่วนสรุป เราต้องรอดูกันต่อไป ว่าแต่งานต่อไปจะเริ่มได้เมื่อไหร่”
“ขอเป็นปีละครั้งสองครั้งก็พอนะ ถ้าถี่มากจะยิ่งเป็นที่สงสัย”
“อืม...ก็ดี ฉันเห็นด้วย”
“สบายใจจัง” เรย์ยาชบอกก่อนหลับตาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสบาย เช่นเดียวกับเรย์ฮาน การได้ช่วยเหลือคนยากไร้ทำให้ร่างกายของเขาเบาหวิว แม้คราแรกจะไม่มั่นใจว่าคนรับ ‘ของ’ จะเปลี่ยนเป็นเงินและนำไปช่วยเหลือเด็กจริงหรือเปล่า แต่พอคิดว่าเราต้องการทำบุญแล้ว ไม่ว่าคนรับจะนำไปทำอะไรก็เรื่องของเขา คนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มันเป็นบ่วงที่ทุกคนเลือกได้ แล้วแต่จะเลือกทำ
กวินทราจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างสังเกต หลายวันมานี้นรีกระจ่างดูเหม่อลอยชอบกล กว่าจะเรียกให้รู้สึกตัวก็หลายครั้ง หรือว่าเกิดเรื่องอะไรกับเธอกันนะ
“นรี ตูนว่านรีดูแปลกๆ ไปมากนะ มีอะไรหรือเปล่า”
“...” นรีกระจ่างยังคงใจลอยไปไกล ดวงตากลมราวกับต้องมนตร์แห่งความเพ้อฝัน มันเลื่อนลอยแปลกๆ จนเพื่อนอย่างกวินทราอดเป็นห่วงไม่ได้
“นรี” สาวน้อยเขย่าแขนเพื่อนรักให้รู้สึกตัว
“อ๊ะ...อะไรตูน เรียกนรีทำไมเหรอ” สาวน้อยร่างบอบบางสะดุ้งสุดตัว มองหน้าเพื่อนเลิกลัก
“เป็นอะไรไปน่ะนรี ตูนเห็นนรีเหม่อลอยนานแล้วนะ มีอะไรรึเปล่า”
“อ้อ...ไม่มีอะไรหรอกตูน ก็แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ” เพื่อนสาวคนสวยแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ จะให้เล่ายังไงได้ เรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดเลย
“เมื่อวันก่อนแถวบ้านเธอ ถูกโจรขึ้นบ้านเหรอ ตูนเห็นข่าวออกว่าได้ทรัพย์สินมีค่าไปหมดตู้เซฟเลย แถมไม่ทิ้งร่องรอยให้น่าสงสัย นอกจาก”
“นอกจากอะไร” อยากรู้ขึ้นมาเดี๋ยวนั้น บางทีเธออาจตกข่าวอะไรไปบ้าง เพราะตั้งแต่ถูกขโมยจูบ ก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงจอมโจรสองคนนั้น โดยเฉพาะเจ้าของดวงตาสีฟ้าใสกระจ่าง
“นอกจากตัวอักษร H และ Y ยังไงล่ะ”
“จริงเหรอ ทำไมนรีไม่รู้เรื่องนี้ล่ะ แต่...แล้วมันหมายถึงอะไรเหรอตูน”
“ไม่รู้สิ ตำรวจคิดว่าน่าจะเป็นอักษรชื่อย่อของโจรน่ะ แต่โจรเดี๋ยวนี้ทิ้งสัญลักษณ์ไว้เหมือนในหนังเลยเนอะ”
“เขาคงสื่ออะไรบางอย่างหรือเปล่า ถ้าไม่มีเหตุผลคงไม่ทำหรอกมั้ง”
“นั่นสิ เรื่องโจรน่ะช่างเถอะ มันไม่ใช่เรื่องของเรา ต่อไปนี้เวลากลับบ้านนรีต้องระวังตัวให้มากขึ้นนะ” กวินทราเตือนอย่างเป็นห่วงเพื่อนสาวจริงๆ
หากแต่คำเตือนของเพื่อนไม่ได้เข้าหูของนรีกระจ่างเลยสักนิด สาวน้อยกำลังนึกถึงรอยจูบที่ยังติดอยู่บนริมฝีปากจนวันนี้ ถ้าเจ้าของดวงตาสีฟ้าเป็นคนเดียวกับทาดิล ซาจานลา คงดีไม่ใช่น้อย พลันสาวน้อยก็บังเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
“ตูนๆ เธอว่าถ้าจะขึ้นเครื่องบินไปอิสตันบลู ต้องใช้เงินเท่าไหร่”
“ไม่รู้สินะ คาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าสามหมื่น แล้วยังไม่รู้ว่าไปกลับหรือเปล่าด้วย ทำไมเหรอ”
“นรีจะทำงานพิเศษเก็บเงินไปอิสตันบลู ตูนไปกับนรีมั้ย”
กวินทราอ้าปากหวอ นี่เพื่อนของเธอพูดเล่นใช่ไหม อายุแค่นี้จะเดินทางไปเมืองนอกนี่นะ เงินก็ยังแบมือขอทางบ้านอยู่เลย งานพิเศษเหรออายุไม่ถึง 18 ปี จะไปทำอะไรได้
“เอ่อ...ตูนว่าคงต้องรอให้นรีอายุครบ 18 ปีก่อน ถึงจะทำงานเก็บเงินได้ อีกอย่างไปต่างแดนไกลขนาดนั้นก็ต้องศึกษาความเป็นอยู่ของบ้านเมืองเค้า ค่าเงินเท่าไหร่ ค่าครองชีพเป็นยังไง แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ ไปแล้วจะอยู่ไหน ภูมิประเทศเป็นยังไง อากาศอีก อูย...ต้องศึกษามากโขอยู่นะนรี แถมคงต้องเก็บเงินเยอะมากๆ ถึงจะไปได้ ค่าตั๋วเครื่องบินแล้วยังค่าครองชีพอีก มิต้องเก็บเงินเป็นแสนเลยเรอะ ว่าแต่...นรีคิดจะไปหาทาดิลเหรอ”
“ใช่ ขอเจอตัวเป็นๆ สักครั้งก็ยังดี นรีคิดเอาไว้นะ ว่าจะไปอยู่ไม่นาน ขอแค่ได้เจอตัวทาดิลแล้วค่อยกลับ”
“ถึงงั้นก็เถอะ ต้องศึกษาและเก็บเงินให้ได้มากๆ ไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ภัยรอบตัวอีก โอย...น่ากลัวนะเพื่อน”
นรีกระจ่างฟังคำเพื่อนแล้วได้แต่ทบทวนไปมา เธออยากรู้ว่าจอมโจรคนนั้นใช่ทาดิลหรือเปล่า อยากเห็นทาดิลตัวจริงใกล้ๆ อยากไปดูคอนเสิร์ตของเขา อยากเห็นเวลาเขาเต้นบนเวที ที่สำคัญอยากรู้ว่าถูกเขาจูบแล้วจะเป็นยังไง สาวน้อยตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะเก็บเงินเพื่อเดินทางไปอิสตันบลูให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้เงินมากเท่าไหร่ เธอจะพยายามทำให้ความฝันเป็นความจริง
“คอยดูนะตูน นรีจะต้องไปพบทาดิลตัวเป็นๆ ให้ได้”
