1/1
มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ เมืองอิทากา มลรัฐนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
“พี่เรย์ยาช”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 21 ปี หันไปมองบุคคลที่เรียก เสียงหวานๆ นั้นทำให้ดวงตาสีฟ้าใสเข้มขึ้นก่อนจะหรี่ลงแล้วกวาดตาไปทั่วร่างอิ่มในชุดนักศึกษาเพียงแวบเดียว ริมฝีปากบางเป็นกระจับสีระเรื่อน่าจูบกว่าปากของผู้หญิงบางคนเสียอีก กำลังแย้มยิ้มให้กับสาวน้อยตรงหน้า ช่อดอกไม้ในมือเธอไม่ทำให้เขาสนใจมากไปกว่าเรือนร่างอวบอัดอวดสัดส่วนสาวดันชุดนักศึกษาออกมาชัดเจน
“ขะ...ขอโทษนะคะที่เรียกพี่ ตะ...แต่ชาช่ามีดอกไม้จะมอบให้พี่ในวันสำเร็จการศึกษาค่ะ ได้โปรดรับไว้ด้วยนะคะ”
เรย์ยาช มูฟาร็อบ หมุนตัวมองร่างอิ่มชัดๆ เขาเอียงคอใช้สายตาว่างเปล่าสำรวจคนตรงหน้าอีกหน ก่อนจะยื่นมือไปกุมมือขาวที่ถือช่อดอกไม้นั้นแผ่วๆ
“บังเอิญฉันไม่ชอบดอกไม้ประเภทนี้ แต่ถ้า...เป็นคนให้ล่ะก็...ไม่แน่”
“มะ...หมายความว่า พะ...พี่เรย์ยาชสนใจชาช่าเหรอคะ” สาวน้อยกลายเป็นคนติดอ่างเพราะความตื่นเต้นจนเหงื่อซึมขมับ
“ถ้าใช่ เธอจะให้ตัวเธอแทนไอ้ดอกไม้งี่เง่านี่ได้มั้ยล่ะ”
“ก็ถ้าพี่เรย์ยาชตะ...ต้องการจริงๆ ชาช่าก็...ก็ยินดีค่ะ”
ก็แค่นี้ จะหวังคำปฏิเสธจากพวกหล่อนน่ะหรือ บอกได้คำเดียวว่ายาก ท่าทีแทบกระโจนเข้าใส่แล้วตีหน้าใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้ เขาเจอมานักต่อนัก พอทำท่าว่าพอใจเจ้าหล่อนหน่อยเดียว ก็แทบตะกายกันเข้ามาหาเหมือนเห็บหมัด
แต่ถึงพวกเธอจะเป็นยังไง เรย์ยาชก็มองเห็นเพียงแค่ของเล่นแก้เซ็งชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
“งั้นก็ตามมา ห้องแถวนี้คงมีว่างให้เราเข้าไปอยู่หรอก”
ร่างสูงในชุดสำเร็จการศึกษาเดินนำพร้อมกับผิวปากไปตลอดทาง หากแต่เดินยังไม่ทันถึงห้องว่าง มือถือในกระเป๋ากางเกงก็แผดเสียงจ้าขัดจังหวะ เรย์ยาชสบถก่อนจะหยิบมันออกมาจากกระเป๋า พอเห็นว่าเป็นใครเรียวปากสวยก็เปิดยิ้มกว้าง
“เรย์ยาช นี่หลานอยู่ที่ไหน ไหนนัดกันว่าจะกลับมาทานข้าวฉลองที่บ้านไง”
ป้าอาอีซาที่อยู่ปลายสายถามเสียงนุ่มมีเมตตาจนคนฟังรู้สึกผิด วันนี้เขาห้ามไม่ให้ป้ากับลุงมาร่วมพิธีสำเร็จการศึกษาเพราะเป็นห่วงที่จะต้องให้คนสูงอายุเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากตุรกีมาอเมริกาจึงบอกว่าจะกลับไปฉลองกับพวกท่านที่บ้านเอง ตามแผนที่วางไว้ว่าเขาจะเป็นเดินทางกลับอิสตันบลูทันทีที่เสร็จพิธี แต่สุดท้ายก็เอ้อระเหยลอยชายอยู่ 2 ชั่วโมงแล้ว กว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินกว่าจะขึ้นเครื่องอีก เวลาเขารู้สึกผิดมากที่ต้องปล่อยให้ลุงกับป้ารอนาน
“ป้าครับ ผมเพิ่งเสร็จพิธี กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แล้วครับ”นั่นเป็นคำแก้ตัวที่ผุดขึ้นมาในสมองอันชาญฉลาด
“งั้นเรอะ ลุงกับป้ารอหลานอยู่ อ้อ...เอซีโอฟิล์ม เขาติดต่อมาหาหลานหลายครั้งแล้วนะ เห็นว่ารอให้หลานเข้าไปเซ็นสัญญาอะไรนี่แหละ”
“จริงเหรอครับป้า ผมดีใจจังเลยครับ งั้นผมคงต้องรีบกลับแล้วไปจูบแก้มป้าเป็นรางวัลที่บอกข่าวดีแก่ผมซะแล้ว”
“มาเถอะหลานรัก ป้าก็ดีใจด้วยถ้าความฝันของหลานเป็นความจริง แล้วป้าจะเตรียมอาหารไว้รอนะ”
“ครับป้า เอาไว้พอผมถึงอิสตันบลูเมื่อไหร่ ผมจะโทรบอกแล้วป้าค่อยเตรียมอาหารอร่อยๆ ที่มีแต่ป้าอาอีซาของผมเท่านั้นที่ทำได้รอผมนะครับ”ถ้อยคำประจบประแจงหวานหูทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่นไปตามวัยยิ้มระรื่น หลานชายสุดที่รักมักจะทำให้พวกท่านยิ้มออกเสมอ เพียงแค่อ้าปากพวกท่านก็กระตุกมุมปากตามๆ กันแล้ว หลานที่เปรียบเสมือนลูกชายคนเดียว คือแก้วตาดวงใจของลุงฮาลีมและป้าอาอีซา
“นี่เธอ วันนี้ฉันคงเข้าห้องกับเธอไม่ได้แล้วล่ะ เพราะฉันมีนัดสำคัญกับคนที่ฉันรักมากถึงสองคน”
เรย์ยาชบอกยิ้มๆ แบบไม่ค่อยให้ความสนใจผู้หญิงตรงหน้ามากกว่าเห็นเป็นของเล่นชั่วคราวเขายักไหล่ก่อนจะเดินไปอีกทางซึ่งเป็นทางที่รถของเขาจอดอยู่ ทิ้งให้ชาช่าต้องมองตามอย่างเสียดายเขาเป็นเดือนเด่นในมหาลัยแห่งนี้ เก่งทั้งการเรียน การกีฬา เป็นผู้ชายในสเป็คที่ผู้หญิงเกือบทั้งมหาลัยอยากทอดกายให้เชยชม ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้นแต่ยังมีผู้ชายบางคนที่คิดจะเป็นชาวสีม่วงก็เพราะหลงเสน่ห์ของเรย์ยาช
ร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ตไม่ติดกระดุม 3 เม็ด อวดแผงอกกว้างมีไรขนขึ้นประปราย ใบหน้าคมจัดประกอบด้วยเครื่องหน้าหล่อเหลาที่พระเจ้าบรรจงปั้นแต่งมาให้เป็นเทพบุตรเดินดิน ดวงตาสีสวยถูกปิดบังซ่อนเร้นภายใต้แว่นกันแดด ยิ่งทำให้ดูคมเข้มหล่อเหลาจนเตะตาสาวๆ ที่เดินผ่านไปมาในสนามบินตุรกี
เรย์ยาชไม่ได้สอดส่ายสายตามองหาใครก็ตามที่จะมารับ เพราะเขาบอกลุงกับป้าไว้แล้วว่าจะโทรหาหากถึงสนามบิน เขาล้วงมือใหญ่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อเตรียมหยิบเครื่องมือสื่อสาร แต่แล้วปลายนิ้วเรียวสวยก็ชะงักพร้อมกับดวงตาสีฟ้าใสต้องหรี่ลงมองใครบางคนที่กำลังเดินตรงมา
ชีคเรย์ฮานในชุดสูทสีเทาดำบนศีรษะโพกกุทตราสีขาวคาดทับด้วยอากัลสีดำ ใบหน้าคมจัดเฉกเช่นเดียวกับเรย์ยาชแทบทุกกระเบียดนิ้ว ยกเว้นดวงตาคมสีนิลซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสีฟ้าใส และตอนนี้ดวงตาคู่นั้นก็ซ่อนอยู่ใต้แว่นดำเหมือนเขา ฮึ...พี่ชายที่รักของเขาจะพยายามทำตัวให้เด่นหรืออำพรางตัวกันแน่ ก็แหม...สวมสูทหรูหราเต็มยศแล้วโพกหัวใส่แว่นตา มันเรียกร้องความสนใจจากคนทั่วไปได้มากพอดู
“ฉันไม่คิดว่านายลงทุนมารับฉันด้วยตัวเองท่านชีค”
เรย์ฮานหยุดห่างน้องชายเพียงก้าวเดียว เห็นใบหน้าที่เหมือนกับเขาสะบัดเล็กน้อยก็อมยิ้มแล้วกวาดตามองร่างสูงเท่าเทียมกันของน้องอย่างสำรวจ
“นายสบายดีนะเรย์ยาช” ชีคแฝดผู้พี่ถามกลับ
“ก็อย่างที่เห็น แล้วนายล่ะ” เรย์ยาชมองปราดเดียวก็รู้ว่าเรย์ฮานซูบลง เวลาที่ไม่ได้เจอหน้ากันแค่ 2 ปี สำหรับแฝดน้องเหมือนจะไม่นาน แต่สำหรับแฝดพี่คงต้องพบเจอเรื่องปวดหัวจนทำให้น้ำหนักลดอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันสบายดี”
“โกหก นายไม่เคยโกหกฉันได้เลยสักเรื่องก็รู้นี่นา เดี๋ยวพอไปถึงบ้านนายต้องเล่าให้ฉันฟังทุกเรื่องที่เกี่ยวกับนายเข้าใจมั้ย” คนน้องสั่งเสียงเข้ม
“เกี่ยวกับซาลาบัดและเกี่ยวกับเรา”
