ep5
“แล้วถ้าพี่ทศไม่โทร.หาล่ะ” ศจีคิดอย่างกังวล แต่แล้วสมองอันปราดเปรียวของเธอก็ทำให้เธอพบทางออก
“ป้าจ๊ะ หมายเลขโทรศัพท์ของบ้านนี้เบอร์อะไรจ๊ะ”
ทศวารฟื้นขึ้นมาจากอาการเมามาย แล้วพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องที่คุ้นเคย แขนเรียวงามที่กระหวัดรอบเอวอยู่นั้นทำให้ เขาผงะถอย
“นี่มันอะไรกัน”
ทศวาร ผุดลุกขึ้น แต่แล้วก็กลับลงไปที่เตียงใหม่ ร่างกายของเขาตอนนี้ ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น
หญิงสาวเนื้อละมุนที่หลับตาพริ้มอยู่นั้น ดูยั่วยวนน่าค้นหา แต่เขาไม่ชอบ!
ทศวารพยายามเรียกความทรงจำของเขากลับคืนมา
เส้นประสาทบนศีรษะของเขาคงเต้น ตุ๊บ ๆ ชนิดที่เรียกว่า ถ้ามันระเบิดออกมาภายนอกได้ มันคงระเบิดไปแล้ว
“นางตัวดี กรอกยาอะไรให้เรานี่”
แม้ทศวารจะดื่มหนักแค่ไหน เขารู้ตัวดีว่า ไม่มีทางที่เขาจะลงเอยกับ ผู้หญิงคนนี้
เขาจำได้แล้วว่า ศจี โทร.หาเขาหลังเลิกงาน แล้วขับรถมารับเขาที่บ้าน ขณะที่เขาเอง หัวเสียกับเสียงบ่นว่าของผู้เป็นพ่อที่ทำงานไม่ได้ดังใจ เลยรีบชิ่งออกมาก่อน นี่ถ้าเขาทนให้พ่อด่าแล้วไม่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ เขาคงเลือกที่จะถูกพ่อด่าให้หนัก ๆ มากกว่า..... แล้วนี่ เขาจะทำอย่างไรได้
ทศวารยกมือกุมหัว ที่แทบจะระเบิดด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง ฤทธิ์เหล้า เพียงแค่นั้น มันคงไม่ทำให้เขาทำอะไรชั่ว ๆ ลงไปได้
แล้วนี่เขาจะทำอย่างไร เค้าลางหายนะเกิดขึ้นในอนาคตเห็น ๆ
“พี่ทศ”
นั่นไง! เสียงเรียกของปีศาจ โอ๊ย เขาอยากจะบ้า ทำไมคนอย่างต้องมาเจอเรื่องเฮงซวยอย่างนี้ เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า บทพิศวาสที่ผ่านมา มันรสชาติไหนกัน
“พี่ทศ ตื่นนานแล้วหรือคะ” ศจีกระชับผ้าเช็ดตัวไว้กับอก ลุกขึ้นเดินมากอดเอวด้านหลังของชายหนุ่มที่เธอหลงใหล ยาปลุกเซ็กส์ที่ใส่ลงไปในเหล้าได้ผลดี บทรักอันบรรเจิดนั่นทำให้เธอระบมไม่น้อย ก็ช่างเป็นไรล่ะ เรื่องอย่างนี้มันก็ต้องมีการลงทุนบ้าง
ทศวารแกะมือออกจากเอวของเขา หันกลับมาพร้อมปัญหา ใบหน้าของเคร่งขรึม เหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลก
ศจีเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม สายตายังฉ่ำด้วยแรงรักใคร่เสน่หา
“คุณจับผม” เรียบง่าย และไม่ต้องมีคำอธิบายใด ๆ
ศจีผงะเล็กน้อย ก่อนยิ้มเย็น หญิงสาวหันหลังกลับ แล้วกระตุกผ้าห่มสีขาวบริสุทธิ์ออกให้เห็นร่องรอยของคืนพิศวาส ก่อนที่เธอจะเดินตรงเข้าห้องน้ำชำระคราบไคลที่หลงเหลืออยู่
ทศวาร จดจ้องร่องรอยเปรอะคาวโลกีย์ที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงด้วยสายจาครุ่นคิด เขาเมินสายตาไม่อยากมองรอยแดงจางๆ เล็กๆ ที่แทรกตัวอยู่ด้วย
“ยังมีอยู่อีกหรือวะ เจาะเข็มแทงนิ้วละซิ” ทศวารครุ่นคิด จงใจให้เราดูเสียขนาดนี้ ไม่น่าเลยกู มึงทำอะไรลงไปวะทศ”
ศจี เปิดน้ำฝักบัวโรยรดหยาดน้ำตาที่หลั่งรินลงมาอย่างเงียบ ๆ สัมผัสที่ห่างเหิน และรังสีที่กระจายความเกลียดชังทำไมเธอจะไม่รู้ ทศวารไม่ใช่คนโง่ ถ้าไม่มีหลักฐานมัดแน่น เขาคงไม่รับผิดชอบเธอ แต่เธอก็รู้ดีว่า หากไม่ยอมเจ็บที่นิ้ว เธอจะเจ็บที่ใจ หึ ... เขาเมาขนาดนั้นจะรู้หรือว่า เธอเคยผ่านหรือไม่เคยผ่านใครมาก่อน สุดท้ายก็ต้องบอกว่าเธอผ่านมามาก แล้วก็ทิ้งเธอไปในที่สุด มันง่าย ที่จะทิ้งผู้หญิงที่ผ่านอะไร ๆ มาแล้ว ทั้งที่การผ่านนั้น ผู้ชายเฮงซวยมันก็ผ่านมาแล้วเหมือนกัน เธอมองขาดแล้วว่า เขาจะไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับเธอ แม้ว่าจะมีอะไรกับเธอก็ตาม เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาเป็นคนแรกของเธอ
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งอดสูใจว่า เธอกำลังทำอะไรลงไป เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา เจ็บปวดทรมานกับครั้งแรก แม้เยื่อบ้าบอนั่น มันจะขาดหายไปนานแล้วกับการออกกำลังกายของเธอ แต่ครั้งแรกก็คือครั้งแรก ยิ่งคิด ศจีก็ยิ่งสับสนตัวเอง
สบู่เหลวที่ฟอกร่างอยู่ ไม่อาจชำระสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจของเธอได้ แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป เธอกลั้นน้ำตาของเธอเอาไว้ ก่อนยิ้มสมเพชตัวเอง นาทีนี้ไม่มีถอยหลังอีกแล้ว
*****************
อนินนาถกลับมาอยู่บ้านหลังจากสึกมาแล้ว หลวงพ่อบอกว่า แม่ป่วยหนัก และต้องการเธอดูแล จึงสั่งให้เธอสึก ทั้งที่ใจเธอไม่ต้องการสักนิด ส่วนนางจันทร์นั้น แรก ๆ ก็ดูป่วยหนักใกล้ตาย พอเธอสึกเท่านั้นก็แข็งแรง ราวกับไม่เคยป่วยมาก่อน อนินนาถปลงแล้ว เธอสงบขึ้นและไม่ได้ติดต่อกับอดีตคู่หมั้น แม้เขาจะยืนยันไม่ยอมถอนหมั้น แต่เรื่องในอนาคตก็ไม่แน่นอน เธอไม่อยากผูกมัดเขาไว้เลย แรกนั้นเธอรู้สึกราวขาดใจ เพื่อฟื้นตื่นขึ้นมาต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ และต้องจากพรากทั้งคนรักในอดีต และคนรักในปัจจุบัน หากแต่ความกลัวตาย และสำนึกในความผิด ทำให้เธอต้องก้มหน้าชดใช้ในสิ่งนั้น
“เอ็งจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ หรือวะ”
“แล้วแม่จะให้ฉันทำอะไรอยู่ที่นี่”
“อยู่กับแม่ เอ็งก็ไม่อดตายหรอก ทรัพย์สินที่ดิน อาคารให้เขาเช่าเราก็อยู่สบาย ๆ ไม่เดือดร้อน แต่อย่าสะเออะใช้เงินเกินตัวเกินฐานะ อย่างนั้นมีเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก”
