ep18
“นิน นิน เปิดประตูให้พี่ก่อน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เสียงรัวเร็วที่หน้าประตู ทำให้ อนินนาถหันไปทางประตู ตะโกนตอบ
“สักครู่ค่ะพี่นนท์”
แต่เมื่อเบือนหน้ากลับมา ร่างของบุรุษ “ลักษมินทรา” ก็จางหายไปแล้ว
อนินนาถ เดินเร็วมาเปิดประตูห้อง นนท์ ถลันเข้ามาภายในห้อง กวาดสายตาไปรอบ ๆ แม้กระทั่งม่านหน้าต่าง ก็คลี่ออกดู ราวกับจะมีใครซุกซ่อนอยู่
“อะไรกันคะพี่นนท์”
“นิน อยู่คนเดียวหรือ” นนท์ถามเสียงเข้มงวด
อนินนาถ มองหน้า นนท์ ผู้เปรียบเสมือนพี่ชาย
“คนเดียวค่ะ พี่นนท์” คนเดียว คือเธอ แต่อีกคน คงไม่ใช่คน
“แน่ใจนะ” นนท์ มองหน้า น้องสาวเหมือนจับผิด
“อ้าว แน่ใจซิคะ”
นนท์ มองหน้าน้องสาว ไม่พูดอะไร แต่ค้นห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า แม้แต่เตียงนอน ก็ตลบผ้าออกดู
“พี่ได้ยินเสียงนิน คุยกับใครอยู่ ต้องขอโทษด้วย” นนท์กล่าวขอโทษกับอนินนาถ เขาคิดว่า นินอยู่กับใครสักคน ที่บังคับให้เธอ ยืนยันว่า อยู่คนเดียว ผู้คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ มันอาจจะเข้ามาภายในห้องอนินนาถ แล้วบังคับขู่เข็ญเธอ นี่เอง คือ เหตุผลที่ทำให้ นนท์ ต้องกวาดตามองทุกซอกมุมของห้อง เพื่อความปลอดภัยของน้อง
“เป็นเอามากนะคะ พี่นนท์”
“แต่พี่ได้ยินจริง ๆ นะ นินคุยอยู่กับใคร”
“นิน อาจหนังสือออกเสียงน่ะค่ะ ทำให้ได้ยินเหมือนว่า คนกำลังคุยกัน” สายตาอนินนาถเหลือบไปพบหนังสือเล่มหนึ่งบนหัวเตียง เลยแก้ตัวไปได้น้ำขุ่น ๆ แต่หวังใจว่า นนท์จะเชื่อ
“งั้นหรอกหรือ สงสัยพี่เองจะคิดมากไป” นนท์เชื่อไปในทันที ส่วนหนึ่ง อนินนาถเองก็เคยเป็นนักข่าว การอ่านออกเสียงจึงเป็นเรื่องธรรมดาของเธอ
“นี่ก็จะตี 5 แล้ว ที่นี่ พระอาทิตย์ขึ้นเร็ว พี่เองก็ติดมาตั้งแต่สมัยอยู่วัด ตี 4 ตี 5 ต้องตื่นมาทำโน่นทำนี่” นนท์กล่าวขึ้น คล้ายแก้ตัวว่า เหตุใด เขาจึงมาได้ยินเธอพูดอยู่คนเดียว
“นินเองก็ติดมาจากวัด ตื่นเช้ามืด อากาศดีนะคะ” พูดไปแล้ว ก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง อยู่ในห้องแอร์ จะอากาศดีได้ยังไง โชคดีที่นนท์ไม่ติดใจ และขอตัวออกจากห้อง หลังจากขอโทษขอโพยอนินนาถแล้ว
อนินนาถล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เหมือนความง่วงงุนคืนมา แต่ก่อนจะงีบหลับไป ก็อดที่จะคิดถึงใครอีกคนไม่ได้
“ลักษมินทรา ท่านคือใครกัน”
******************
รุ่งเช้าที่ทศวารลืมตา พบหลานชายตัวน้อย นอนอยู่แนบข้าง โดยมีแขนขาของมะขามป่ายมาที่ลำตัว น้าทศ อย่างหวงแหน นี่ถ้าเขามีลูกจริง ๆ ก็คงจะดีไม่น้อย มะขาม มะขวิด เด็กน้อยที่กำลังเรียนรู้ อ้อนที่นอนกับเขา เมื่อยายจันทร์ยื่นคำขาดให้กลับไปนอนได้แล้ว ตัวเขาเอง ก็เหนื่อยล้ามาทั้งวัน บอกลาเพื่อพักผ่อน เจ้าตัวน้อยได้โอกาสเลยขอตามมานอนด้วยเสียเลย
นี่ยังดี ที่ไม่ให้เขาเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง ไม่งั้น เขาคงไม่รู้จะไปหานิทานที่ไหนมาเล่าดี ทศวารค่อยๆ ปลดมือ ที่พาดหน้าอกของเขาออก และ วางเท้าที่พาดอยู่บริเวณต้นขาออก ขยับให้หนุ่มน้อยหลับสบาย ส่วนเจ้ามะขวิดขดตัวงออยู่ด้านข้าง ไม่ห่างนัก ทศวารอดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบแก้มของเด็กทั้งสองอย่างแผ่วเบา คาดหวังในใจไว้ว่า แม้ไม่ได้เป็นพ่อ แต่เป็นน้าเขยก็ยังดี
“มาทานกาแฟด้วยกันก่อนซิ พ่อทศ” นางจันทร์ นั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน ในมือมีเข็มร้อยพวงมาลัยก้านยาว ลูกจ้าง 1 คน ที่กำลังช่วยร้อยมาลัยอยู่
ทศวารเดินถือถ้วยกาแฟเข้ามานั่งลงฝั่งตรงข้าม เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“คุณน้า ยังร้อยพวงมาลัยส่งเขาอยู่อีกหรือครับ”
“ก็ว่าง ๆ นี่พ่อทศ มะลิก็ของเราเอง ไม่ได้ใส่ยา ใครซื้อไปก็ชอบ กลายเป็นลูกค้าประจำ ก็ทำไปเรื่อย ๆ พอมีรายได้ ไม่เหงาด้วย”
ลูกจ้างที่นั่งร้อยอยู่ข้าง ๆ แอบอมยิ้ม คำว่าพอมีรายได้ของ นางจันทร์ หรือคุณนายจันทร์ของคนแถวนี้ เรียกว่า รายได้ดีทีเดียวสำหรับลูกจ้างอย่างเธอ เพราะลำพังแค่ค่าร้อยมาลัยส่งตลาด เดือนหนึ่งก็เท่ากับเงินเดือนที่เธอจะได้รับพอดี และประเดี๋ยวก็จะมีป้า ๆ มาร่วมวงร้อยมาลัยกันอีก
“ดอกรัก กับพวกดาวเรืองนี่ละครับ”
“อันนี้ซื้อเอา บ้านเราปลูกแต่มะลิ หน้าบ้าน หลังบ้าน แล้วก็ปลูกเป็นสวนอยู่หลังบ้านโน่น แรก ๆ ปลูกเพราะนินเขาชอบดอกมะลิ ชอบพวงมาลัย ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ปลูกไปปลูกมา มีคนมาขอซื้อ ดอกมะลิ ช่วงหน้าหนาวน่ะพ่อทศ”
“คุณนายเห็นราคาดี ไม่ขาย เลยมานั่งร้อยเอง” ลูกจ้างสาวตอบสวนออกมาอย่างทะเล้น เลยมีรางวัลทันที คือ มะเหงกของคุณนายจันทร์
“สู่รู้นัก”
ทศวาร หยิบพวงมาลัยที่วางอยู่บนถาดขึ้นมาดู ถึงว่าซิ อนินนาถมักจะแวะซื้อพวงมาลัยเสมอ ทุกครั้งที่มีโอกาส คงคิดถึงแม่ ไม่ใช่แค่เพียงชอบดอกมะลิเพียงอย่างเดียว
“แล้วนี่โทร.หานินหรือยัง น้าว่า วันนี้เขาน่าจะกลับบ้านนะ เมื่อวานเขาแค่ไปดูที่ทำงาน”
นางจันทร์หลุดปากออกไป ก็รู้ตัวว่า ไม่ควรพูดมาก
“ยังเลยครับ อาบน้ำเสร็จผมก็ออกมานี่แหละครับ”
“ก็ถือซะว่า บ้านเรากันเองนะพ่อทศ น้าก็ไม่ได้ดูแลอะไร ไม่ได้คิดว่าเป็นแขกหรอก เด็ก ๆ พวกนั้น ตื่นขึ้นมาก็เดินไปหาของกินเอาเองในครัวโน่นแหละ เตรียมไว้ให้แล้ว”
