5 จากผู้ช่วยเหลือกลายเป็นผู้ประสบภัย (nc)
“ต้องเมาอีกสิ เมาแล้วจะได้ลืมไง”
แพรไหมเถียงด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ แต่แววตากลับเศร้าหมองจนคนมองรู้สึกสงสาร เจเลนจับอีกคนพิงพนักโซฟาก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“ลืมอะไร ไปเจออะไรมาถึงได้เมาขนาดนี้เนี่ย”
“เจอคนทรยศไง ฮึก คนใจร้าย”
“ใครใจร้ายก็อย่าไปยุ่งกับเค้าสิ”
เจเลนบอกพลางจัดผมให้แพรไหม สลับกับคอยเช็ดน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหลของอีกคนไปด้วย ความอบอุ่นอ่อนโยนที่ได้รับทำให้แพรไหมยิ่งงอแงหนักกว่าเดิม เหมือนกับว่าตอนนี้เธอมีคนให้ระบายแล้ว แต่เพราะใบหน้าที่คุ้นเคยเลยถามอย่างหาเรื่องเมื่อนึกได้ว่าเจเลนชอบแกล้งให้รำคาญทุกวัน
“นายก็ใจร้ายใช่มั้ย นายชอบกวนทุกวันเลยนี่”
“โอ้ย ถ้าผมใจร้ายจะพามาส่งทำไมครับถามจริง”
“จริงเหรอ ไม่ใจร้ายจริงๆเหรอ อย่าใจร้ายนะไม่ชอบเลย ฮึก ฮือ”
แพรไหมสะอื้นปล่อยโฮออกมาอีกรอบจนเจเลนถึงกับกุมขมับ ก่อนจะหาวิธีปลอบใจคนเมา
“เวรกรรมแท้ๆเลยกูเนี่ย เฮ้อ อย่าร้องนะเดี๋ยวตาก็บวมเป็นกบหรอก”
“กบตาบวมเหรอ”
“เฮ้อ เออๆกบมันตาบวมน่าเกลียดป้าอย่าร้องนะ ตกลงมั้ย”
เจเลนบอกอย่างอ่อนใจ เล่นเปลี่ยนอารมณ์ไปมาแบบนี้ใครจะเอาใจถูก แต่เพราะคำเรียกที่ไม่น่าฟังนั่นแพรไหมเลยงอแงขึ้นมาอีกรอบ
“ทำไมชอบเรียกป้า นิสัยไม่ดีเลย”
“แล้วให้เรียกอะไร”
เจเลนถามพลางมองคนเมาที่ทำหน้ายู่อย่างขำๆ ก็แกล้งมาตั้งแต่แรกวันนี้จะเปลี่ยนไปเรียกอย่างอื่นก็ไม่ชินซะแล้ว
“พี่แพร เรียกพี่แพรเพราะพี่แก่กว่านายนะรู้มั้ย”
“โอเคเลย พี่แพร พอใจยังครับทีนี้ก็ไปนอนได้แล้วไป”
เจเลนบอกพลางดึงแขนอีกคนให้ลุกเพื่อจะพาไปนอนที่เตียงดีๆ แต่ดันถูกคนเมาดึงลงมาจนหน้าแทบจะชนกันซะก่อน
“เฮ้ย! ป้าจะดึงทำไมเนี่ย”
“บอกว่าให้เรียกพี่ไง เด็กดื้อนี่”
“อย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้แบบนี้สิ ปล่อยผมก่อนเร็วๆ”
เจเลนบอกพลางเกร็งตัวสุดชีวิต เมื่อแพรไหมกอดคอไว้แล้วยื่นหน้ามาซะใกล้จนหายใจรดกัน
“ทำไมหล่อขนาดนี้เนี่ย ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งหล่อ”
“ปล่อยผม”
เจเลนขืนตัวออกเมื่อถูกแพรไหมจับใบหน้าแล้วจ้องด้วยสายตาหวานเยิ้มเพราะฤทธิ์เหล้า มันคงจะไม่เป็นไรหรอกถ้าเจเลนไม่ได้ใจสั่นจนต้องหลบสายตา ใครจะคิดว่ายัยป้าปากร้ายที่ชอบด่าทุกวันจะดึงดูดสายตามากขนาดนี้
ไม่ไหวแล้ว อันตรายมาก….
“นายมีแฟนยัง”
“ถามทำไม”
“งั้นเคยนอนกับใครยัง”
แพรไหมถามพลางจ้องตาคมอย่างจริงจัง ภาพของคนทรยศทั้งสองคนที่เริงรักกันบนเตียงตามมาหลอกหลอนจนใจปวดร้าวแม้อยากจะลืม ตอนนี้เธอก็แค่อยากเอาคืนแบบที่เคยโดนบ้าง ทำไมเธอจะต้องซื่อสัตย์ในเมื่ออีกคนไม่เคยเห็นค่าในความรักของเธอ
ก็แค่นอนกับใครสักคน ไม่เห็นยากเลย….
“อะไรของป้าวะ ปล่อยนะโว้ย”
เจเลนโวยวายเมื่อแพรไหมจ้องเหมือนจะกลืนกินกันยังไงยังงั้น ไม่ได้กลัวที่ถูกลวนลามอยู่หรอก กลัวใจตัวเองนี่แหละมันจะหยุดไม่ได้หากอะไรๆจุดติดขึ้นมา เจเลนก็แค่มนุษย์คนนึงนี่นา
แถมยัยป้านี่ก็สวยน้อยซะเมื่อไหร่…
“สอนให้มั้ย”
“พูดอะไรเนี่ย รีบปล่อยก่อนที่จะไม่ทนนะป้า”
“ก็ไม่ต้องทน เรียกป้าดีนักเดี๋ยวจะสั่งสอนให้ดู”
“อื้อ!”
เจเลนเบิกตากว้างเมื่อถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว สองมือยันไว้ที่พนักพิงโซฟาเพื่อยื้อตัวเองไม่ให้ล้มลงไปทับแพรไหมที่นั่งอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาถูกจับให้รับจูบที่เนิบนาบอย่างไม่อาจเลี่ยง ริมฝีปากอิ่มขบเม้มดูดดึงหวังให้เจเลนเปิดปากรับ ซึ่งก็ไม่ยากอะไรเพราะเจเลนก็ไม่ได้คิดขัดขืนและปล่อยอีกคนใช้ลิ้นเล็กๆนั่นหยอกเย้ากับลิ้นตัวเองตามใจชอบ
แพรไหมลูบไล้ใบหน้าของอีกคนขณะที่ปากก็ยังไม่หยุดสำรวจความแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยสัมผัสนอกจากแฟนตัวเอง กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นเฉพาะตัวที่ออกมาจากเจเลนยิ่งทำให้อีกคนมีเสน่ห์มากขึ้นอีกเท่าตัว รสจูบที่คิดว่าแค่อยากลองกลับสร้างความหวามไหวจนใจสั่นอย่างน่าประหลาด
และจากที่เป็นคนควบคุมแพรไหมก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังล่องลอยและมัวเมาหนักยิ่งกว่าเดิม ยามที่เจเลนโต้ตอบกลับด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่า
เหนือกว่าจนต้องจิกไหล่หนาเอาไว้แรงๆเพราะหายใจไม่ทัน
“อื้อ!”
แพรไหมครางอื้ออึงในลำคอ ดวงตาเบิกกว้างยามถูกรุกกลับจนตั้งตัวไม่ทัน ก่อนจะหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปตามที่อีกคนชักนำอย่างง่ายดาย ลิ้นร้อนกวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก กวาดเก็บทุกหยาดหยดในปากของแพรไหมอย่างช่ำชอง
เจเลนละออกมามองใบหน้าสวยที่ตาปรือหวานฉ่ำ หอบหายใจกับการจูบที่ยาวนานเมื่อครู่ ก่อนจะก้มลงไปครอบครองริมฝีปากอิ่มที่บวมเจ่ออีกครั้งอย่างไม่อาจห้ามใจ ความหอมหวาน แปลกใหม่ หรือเพราะอะไรก็ตามที่เป็นแพรไหมตอนนี้
มันกำลังกระตุ้นสัญชาตญาณของเจเลนจนยากจะควบคุมซะแล้ว…
