บท
ตั้งค่า

1/3

อริสรา เจริญศักดิ์เสนา ละสายตาจากภาพที่กำลังมองอยู่อย่างไม่คิดจะสนใจ มองไปอย่างนั้นด้วยไม่รู้จะมองไปยังที่ไหน แล้วเสียงหัวเราะครื้นเครงก็เรียกดวงตาคู่กลมโตสีน้ำตาลอ่อนที่เป็นส่วนประกอบเด่นทำให้ใบหน้าที่หวานอยู่แล้วยิ่งหวานเข้าไปอีก ตากลมมองผ่านผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อเลยไปถึงโต๊ะที่เสียงดังที่สุดในร้าน โต๊ะนั้นมีชายฉกรรจ์แต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารอากาศสุดเนี้ยบสีน้ำเงินผมตัดสั้นเกรียน และชายสองคนที่แต่งกายด้วยชุดคล้ายชุดหมีสีเขียวช่วงบนล่างยาวต่อเนื่องกัน อีกคนผิวคล้ำเข้มแต่อีกคนผิวขาวกรำแดดนิดๆ

ในวินาทีนั้นไม่มีใครที่เธอมองแล้วสะดุดตาได้เลย จนกระทั่งดวงตากลมประสานสบกับดวงตาคมกริบของชายที่สวมเครื่องแบบสีเขียวขี้ม้า เขาจ้องนิ่งมาที่เธอราวกับรู้แต่แรกว่าเธอจะต้องมองเขา อริสราไม่หลบสายตา ไม่มีอะไรต้องหลบ เธอจ้องตอบกลับไปนิ่งๆ เช่นกัน จนเห็นว่าผู้ชายคนนั้นมีหน้าตาคมสันสะดุดตาใครต่อใครได้มากแค่ไหน เขากระตุกมุมปากขึ้นนิดๆ คล้ายจะยิ้มให้ แล้วเธอก็เมินหนีเมื่อคนที่มาด้วยถือวิสาสะกุมมือของเธอไว้

“มองอะไรอยู่หรือคะขนุน” อิทธิพล ณรงค์ศักดิ์ศิริ นักธุรกิจชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา มีธุรกิจสถานบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยวเอกชนหลายแห่งในจังหวัด เขาหันไปถามสาวน้อยวัย 21 ปี ที่นั่งอยู่ข้างกาย เมื่อเห็นเธอหาได้สนใจเขามากกว่าสิ่งอื่นในร้านอาหารแห่งนี้

“เปล่าค่ะ ขนุนแค่คิดอะไรเพลินๆ พี่พลอิ่มหรือยังคะ ขนุนปวดหัวอยากกลับบ้านค่ะ”

“แต่พี่ยังไม่อิ่มนี่คะ ขอทานให้หมดก่อนนะ เราไม่ค่อยได้ทานข้าวด้วยกันแบบนี้บ่อยๆ ขอเวลาพี่พลหน่อยนะคะขนุน”

อริสราพยักหน้าหงอยๆ เธอทานอาหารไปได้นิดเดียวก่อนจะรู้สึกอิ่มตื้อจนแน่นหน้าอก บรรยากาศในร้านอาหารทำไมช่างดูน่าอิจฉาเสียจริง โต๊ะอื่นที่พากันมาทานข้าวกันดูสนุกสนานอิ่มหนำสำราญ คงมีแค่เธอที่คงยัดอะไรใส่ท้องไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ใช่ว่าจะแน่นท้องแต่จุกหน้าอกตื้อๆ หน่วยตาร้อนผ่าวบอกไม่ถูก อึดอัดทั้งที่อากาศในนี้ก็ถ่ายเทสะดวกเพราะด้านข้างเปิดโล่ง แถมยังมีพัดลมไอน้ำช่วยระบายความร้อนอีกด้วย

อึดอัด อยากไปให้พ้นจากตรงนี้

“ถ้าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากขนุน วันหลังพี่จะพาไปนั่งทานที่อื่นนะคะ”

อริสราไม่ตอบ กระทั่งอิทธิพลสั่งของหวานมาให้ทาน เป็นกระท้อนลอยแก้วของโปรดของอริสราซึ่งเขารู้มาจากมารดาของเธอเอง เสียงหัวเราะสรวลเสของโต๊ะถัดไปซึ่งมีแต่นายทหาร 5 คน เรียกดวงตากลมโตจับจ้องไปที่นั่น เธอประสานสายตากับดวงตาคมกริบคู่เดิมอีกหน ราวกับเขาทุ่มความสนใจมาที่เธอคนเดียว หญิงสาวหลบตาวูบเบือนหน้าไปทางอื่น ก่อนจะลอบมองเขาผ่านเงาของอิทธิพล

ผู้ชายคนนั้นยังคงมองจ้องมาไม่มีการหลบ สายตาของเขาบั่นทอนกำลังใจของเธอได้ง่ายๆ อริสราหลุบตาลงมองถ้วยขนมหวาน เธอจะเลิกสนใจผู้ชายคนนั้นและหันมาสนใจถ้วยขนมตรงหน้า มือบางใช้ช้อนคนไปมาได้สอนรอบ ช้อนก็ถูกปล่อยดัง “กริ๊ง” อริสราผงะไปข้างหลังแทบตกเก้าอี้

“อะไรคะขนุน” อิทธิพลชะโงกหน้ามองในถ้วยขนมหวาน เขาเห็นแมลงสาปตัวเท่าปลายนิ้วก้อยลอยอยู่ในนั้น ร่างสูงลุกขึ้นพรวดเรียกหาเจ้าของร้านอาหารทันที

“ไปเรียกเจ้าของร้านมาซิ”

“อะไรคะ มีอะไรหรือคะคุณ” พนักงานในร้านคนหนึ่งเดินเข้ามาหน้าตาตื่น

“นี่อะไร ในถ้วยขนมมีแมลงสาปได้ยังไง”

พนักงานคนนั้นเห็นแมลงสาปในถ้วยขนมก็ตกใจตาแทบถลน

“ขอโทษนะคะ จะเปลี่ยนถ้วยใหม่มาให้ค่ะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ” รีบขอโทษขอโพยลูกค้ากระเป๋าหนักหน้าเสีย

“ขอโทษเหรอ เปลี่ยนถ้วยเหรอ แล้วไง จะเอาขนมที่เคยมีแมลงสาปอยู่ในนั้นมาให้ใหม่เหรอ”

อิทธิพลเสียงดังลั่นร้านอย่างไม่สนใจใครด้วยความโมโห อริสราหน้าตาตื่น เธอไม่คิดว่าเขาจะโวยวายเสียงดังอะไรขนาดนี้ เธอซวยที่ได้ขนมแถมแมลงสาป แต่พนักงานคงไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอกน่า เห็นสีหน้าของพนักงานแล้วให้สงสาร เขาไม่น่าโวยวายเลย เธอแค่จะไม่ทาน อุทานไปสักนิดก็ไม่มี แค่ตกใจ แค่กลัว แต่ไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตแบบนี้

แต่ถ้าคิดในทางตรงกันข้าม เธอจะปล่อยให้ร้านขายขนมโดยที่ไร้แมลงสาปเพราะถูกตักออกไปแล้วอย่างนั้นหรือ

“เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหมคะ ทางเราไม่อยากให้เป็นแบบนี้ มันเป็นเหตุสุดวิสัย”

“เป็นความสะเพร่ามากกว่า ไปเรียกเจ้าของร้านมา ฉันอยากรู้นักขายขนมที่มีแมลงสาปไปกี่ถ้วยแล้ว” อิทธิพลไม่ยอม

“พี่พลคะ พอเถอะค่ะ ไม่มีใครตั้งใจหรอกนะคะ” อริสราปราม เธออยากให้เรื่องนี้จบแบบเงียบๆ ไม่อยากสร้างปัญหาให้เจ้าของร้าน ถ้าจะเอาเรื่องกันก็เอาแบบเงียบๆ ก็ได้นี่ ไม่ต้องโวยวายเสียงดัง แค่เรียกมาบอก และสั่งให้เททิ้ง ถ้าไม่เชื่อใจก็เข้าไปดูให้เห็นกับตาก็ได้

“ไม่ได้หรอกขนุน ร้านดังมีชื่อแบบนี้จะให้มองข้ามความสะอาดไปได้ยังไง อย่างนี้มันต้องเอาเรื่อง ต่อไปจะได้ไม่สะเพร่าแบบนี้อีก ไปเรียกเจ้าของร้านมาเดี๋ยวนี้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel