1/2
“ฮ่ะ ฮ่ะ มึงนี่แสนรู้สมเป็นเพื่อนรักกูจริงๆ ที่มึงพูดมาถูกเผ็ง เอาน่าเขารณรงค์ลดใช้รถใช้ถนน ไปทางเดียวกันก็ให้ไปด้วยกัน มึงไม่เห็นรึไงวะไอ้กี้”
“เออกูเห็น เห็นมึงโคตรเนียนชิบเป๋งเลยว่ะ ครั้งนี้กูไปส่งก็ได้ แต่มึงเลี้ยงข้าวกูด้วยนะ ไม่ตกลงก็รีบยกกระเป๋ามึงออกจากรถกูเลย” กีรติขู่ หฤทธิ์แสร้งทำหน้าจ๋อย แต่รู้ว่ายังไงเพื่อนรักก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว กีรติต่างจากหฤทธิ์ตรงที่ใจป้ำกว่า รวยกว่า หล่อกว่า แต่ความสามารถทัดเทียมกัน
“ก็ได้ๆ มื้อนี้กูเลี้ยงเอง งบพันเดียว ตกลงมั้ย” กีรติขมวดคิ้วชักสีหน้า “แหมๆ กูไม่รวยอย่างมึงนี่หว่า ไม่งั้นกูจะปิดร้านเลี้ยงมึงเลยไอ้กี้” งัดไม้นี้ขึ้นมาสู้ กีรติก็หมดข้อโต้แย้ง
ฐานะทางบ้านของหฤทธิ์แค่พอมีพอกิน พ่อมีอาชีพรับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แม่เป็นแม่ค้าขายผักอยู่ในตลาดสด มีลูกชายคนเดียวก็คือหฤทธิ์ ส่วนเขา...มีทุกอย่างที่หฤทธิ์ไม่มี แต่ไม่มีในสิ่งที่หฤทธิ์มี
“ขึ้นรถ ชักช้าเดี๋ยวกูเปลี่ยนใจซะเลย”
หฤทธิ์ยิ้มปากกว้างรีบกระโดดขึ้นรถเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ สีดำด้าน ซึ่งเป็นสีที่กีรติเพิ่งทำใหม่จากความชื่นชอบความดุกร้านทะมึนแบบนี้เป็นพิเศษ รถคันนี้หฤทธิ์เคยแซว ทำไมไม่ขับรถเมอร์ซิเดส เอสยูวี เพราะฐานะของกีรติมีมากกว่าจะขับรถหรูระดับกลางแบบนี้ คำตอบที่ได้ก็คือความไม่ชอบการฟุ้งเฟ้อ เลือกที่จะซื้อสิ่งที่ชอบและพอดีมากกว่าเลือกซื้อสิ่งที่หรูหราฟุ่มเฟือยสมฐานะ
หฤทธิ์ชื่นชมกีรติแทบทุกด้าน ทั้งฐานะ ชาติตระกูล รูปร่างหน้าตาที่สุดแสนจะเพอร์เฟค เดินไปทางไหนก็มีแต่สาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันจนคนเดินด้วยหูแทบดับเพราะเสียงเจ้าหล่อน บางวันดอกไม้ช่อโตบ้างเล็กบ้างก็ส่งมาถึงพร้อมแนบเบอร์โทร.ทิ้งไว้ให้โทร.กลับ แต่กีรติเพื่อนรักไม่สนใจใครเป็นพิเศษ เบอร์โทร.ของพวกหล่อนจึงกลายเป็นหมัน ส่วนตัวของหฤทธิ์ที่แย่กว่าแทบทุกด้านไม่เว้นแม้แต่หน้าตาผิวพรรณ หน้าตาบ้านๆ ผิวคล้ำแบบนี้จะมีใครสนใจ แต่หฤทธิ์ไม่คิดอิจฉาเพราะกีรติไม่ทำตัวให้เหนือกว่าแม้จะมีทุกอย่างเหนือกว่าก็ตาม
กีรติจอดรถเมื่อถึงร้านอาหารชื่อดังในตัวเมืองโคราช ร้านนี้เขากับหฤทธิ์มาทานอาหารด้วยกันบ่อยๆ รสชาติอาหารของที่นี่อร่อยถูกปาก ไม่เพียงแต่พวกเขายังมีคนอื่นๆ ที่มาทานอาหารที่นี่อย่างสม่ำเสมอ เรียกว่าเป็นลูกค้าขาประจำกันเลยทีเดียว
กีรติกับหฤทธิ์เดินตามกันเข้าไปในร้านอาหาร สายตาของกีรติสะดุดเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอสวยสะดุดตาเลยทีเดียว หากแต่เธอไม่ได้มาคนเดียวหรือมากับเพื่อนผู้หญิง แต่เธอมากับแฟนของเธอ ใช่ น่าจะเป็นแฟนดูจากสีหน้าระรื่นของฝ่ายชายที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อาการประคบประหงมกุลีกุจอตักอาหารใส่จานให้แล้วยังแทบจะป้อนใส่ปาก หากทว่าฝ่ายหญิงกลับมีสีหน้าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แม้จะมีรอยยิ้มน้อยๆ แต่เธอดูจะรักษาท่าทีไว้มาก
“เฮ้ย! นั่น พวกไอ้แสบ”
หฤทธิ์บอกก่อนจะเดินนำกีรติตรงไปยังโต๊ะที่มีทหารอากาศแต่งเครื่องแบบสีน้ำเงินนั่งอยู่ 3 คน ไอ้แสบที่ว่านี้ คือเรืออาการเอกนาคนาวา เรืออาการเอกดิษฐ์ยศ และเรืออากาศเอกปวริษฐ์ 3 แสบนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน ฉายา ‘ไอ้แสบ’ มาจากการชิ่ง กินแล้วชิ่ง ดื่มแล้วชิ่ง ปล่อยให้คนที่เหลือควักกระเป๋าจ่าย
“ดูสิพวก เรามีโต้โผใหญ่แล้วนะ” ดิษฐ์ยศเป็นผู้เอ่ยปาก หฤทธิ์เลิกคิ้วเข้มขึ้นถลึงตามองนายทหารชั้นผู้น้อย ในขณะที่คนอื่นๆ หัวเราะเสียงดัง
“หุบปากไปเลยมึง มื้อนี้ถึงทีของพวกมึงบ้าง กูควักกระเป๋าจ่ายมาหลายทีแล้วนะเว้ย ไอ้หน้าด้าน”
“ก็ผู้พันเงินเดือนเยอะกว่าพวกเรานี่ครับ ถ้าให้พวกเราจ่าย ผู้พันไม่อายหรือไงครับถ้าใครเห็นน่ะ ผู้ใหญ่รังแกเด็กเชียวนะครับ” ดิษฐ์ยศบอก
กีรติทรุดตัวนั่งเมื่อปวริษฐ์เลื่อนเก้าอี้ให้ เขายิ้มขำหฤทธิ์ที่ไม่เคยแพ้ใคร แต่ต้องพ่ายให้กับความเจ้าเล่ห์ของ 3 แสบ ไปเสียทุกครั้ง
“แต่กูไม่รวยโว้ย น้องๆ” หฤทธิ์กวักมือเรียกพนักงานรับออเดอร์มาจดออเดอร์ เขาจงใจสั่งอาหารราคาแพงหลายอย่าง กะจะถล่มไอ้แสบให้หงายท้องเก๋ง จะเอาคืนพวกมันสักหน่อยเสียเงินแทบหมดตูดเพราะพวกมันมาหลายหน แค้น!
“ผู้พันกี้จะสั่งอะไรครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” นาคนาวาหันมาถามกีรติ เป็นเหตุให้หฤทธิ์ยกเท้าถีบเก้าอี้ของเขา
“หน็อยมึง กูจนจะตายห่าไม่เลี้ยง เสือกจะเลี้ยงเศรษฐี”
“ผู้พันกี้เป็นไอดอลของผมนี่ครับ ผมจะเลี้ยงแล้วมันผิดตรงไหน แต่อย่าสั่งของแพงมากินนะครับ ผมจ่ายไม่ไหว”
กีรติหัวเราะร่วน
“มื้อนี้เต็มที่ ฉันเลี้ยงเอง” เขาบอกขึ้นเรียกเสียงตีอกชกลมดังตามมาทันที
“ขอบคุณครับผู้พัน ทั้งหล่อแล้วยังใจดีอีกนะครับ นี่ล่ะไอดอลของพวกผม”
“หึ ยกยอปอปั้นกันเข้าไป แต่ก็ดีได้ผู้พันกีรติเป็นเจ้ามือ กระผมจะสั่งแหลกล่ะงานนี้” หฤทธิ์แซวเพื่อน เลยถูกกีรติเบิร์ดกระโหลกไปหนึ่งที เรียกเสียงหัวเราะจากนายทหารหนุ่มๆ ของกองทัพอากาศดังลั่น
