บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 “พิษบุหงาเดือนสิบ”

“พี่สาม ท่านเป็นถึงยอดบุรุษหนึ่งในสี่ของเฉินซาน แต่กลับรับองครักษ์สตรีมาอยู่ข้างกายงั้นหรือ”

“พี่สาม ดูท่าองครักษ์หญิงผู้นี้คงมิได้มีไว้เพื่ออารักขาท่าน แต่มีนางไว้เพื่อจุดประสงค์อื่นสินะ”

เฉินตงหรานหันมายิ้มให้กับน้องชายของตัวเองที่รู้ทัน เดิมทีเขาคิดแค่ว่าจะให้นางช่วยสืบเรื่องของหอฟงหรู แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านางจะมีความสามารถมากกว่านั้นจนเขานึกอยากจะรั้งเอาไว้ข้างกาย

“พี่สาม ท่านกำลังคิดอะไรอยู่”

“อย่าบอกนะว่าท่านกำลัง… คิดถึงนาง”

“เหลวไหล ข้ากับนางก็แค่… ช่างเถอะ ว่าแต่พวกเจ้าเฝ้าอยู่ด้านนอกไม่พบคนที่น่าสงสัยเลยงั้นหรือ”

ทั้งสองหันมามองหน้ากัน อ๋องห้าถึงกับยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของพี่ชาย ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นผู้ที่สุขุมอยู่เสมอจะเสียกิริยาเช่นนี้

“ข้ากับพี่สามซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ด้านบนหลังคาเรือนที่สูงที่สุด คิดว่าคนร้ายจะจัดการคนในงานเลี้ยง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเป้าหมายครั้งนี้จะอยู่ที่เรือนหลังของฮูหยินผู้เฒ่า ว่าแต่เหตุใดนางจึงกลับมาก่อน”

“หลังจากที่รับคำอวยพรเสร็จแล้ว ข้าเห็นสาวใช้เดินเข้ามาหานาง หลังจากนั้นก็ขอตัวกลับ เดิมทีไม่คิดว่าจะมีเรื่องอื่นแต่ดูท่าแล้วเหมือนกับว่านางเองน่าจะรู้ว่ามีคนมาหา”

“แต่เหตุใดต้องเลือกลงมือวันนี้ด้วย แล้วยังลงมือพร้อมกันทั้งสองทาง”

“หนึ่งเบี่ยงความสนใจเพื่อจะได้ต่อรองสิ่งที่ต้องการ สองคือหากนางไม่ยอมมอบให้ก็ข่มขู่ว่าจะสังหารคนสกุลเพ่ย ข้าคิดว่าคนร้ายน่าจะใช้เรื่องนี้เป็นข้อต่อรอง”

“เช่นนั้นพวกมันก็ได้สิ่งที่ต้องการไปแล้วน่ะสิ”

ทั้งสามคนมองหน้ากันโดยไร้คำตอบ เพราะมิอาจจะคาดเดาสิ่งใดได้เลยจากเหตุการณ์ที่เห็นตรงหน้า นอกจากคนร้ายที่จับมาได้ก็ไม่มีเบาะแสอื่น

“ช่างเถอะ กลับไปค่อยสอบสวนก็แล้วกัน”

“เรื่องนี้ยกให้เป็นหน้าที่ข้าเอง”

“เฉินรั่วเฟิง” กำหมัดแน่นราวกับคันไม้คันมือ เขาคือ “ตงอ๋อง” องค์ชายเก้าแห่งเฉินซาน ผู้ครองเมืองตงโจวแห่งดินแดนประจิม และยังเป็นผู้คุม “หอหรงเยว่” ที่เป็นหอสืบข่าวซึ่งตั้งขึ้นมาโดยสี่อ๋องแห่งเฉินซาน

“เช่นนั้นเรื่องนี้ก็คงต้องฝากเจ้าแล้วน้องเก้า”

“ให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

วันถัดมา

“ยาพิษที่พวกมันกัดเอาไว้เตรียมฆ่าตัวตาย ดูแล้วน่าจะมิใช่ยาพิษของเฉินซาน”

“เจ้าหมายถึง พวกมันเป็นคนต่างถิ่นงั้นหรือ”

“ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะคนในหอฟงหรูเองก็มีหลากหลายที่มา นักฆ่าระดับสองผู้นี้ดูเหมือนว่าจะเชี่ยวชาญเรื่องพิษ ข้าอาจจะต้องขอให้ “องครักษ์หญิง” ของท่านมาช่วยแล้วล่ะ”

“แม้แต่หมอที่เก่งอย่างเจ้าก็มิอาจรู้ได้หรอกหรือ”

“เฉินเฟิ่งเซียว” หรือ “เสิ่นอ๋อง” องค์ชายห้าแห่งเฉินซาน ผู้ปกครองเมือง “เสิ่นโจว” แห่งดินแดนทักษิณ เขาถนัดวิชาการแพทย์และถือเป็น “หมอเทวะ” ที่เก่งรอบรู้ทั้งการรักษาและการใช้ยา

“พี่สาม ข้าเชี่ยวชาญการรักษาคนมิใช่วางยาพิษ เรื่องนี้จะมีผู้ใดรู้ดีไปกว่าศิษย์ของผู้ใช้พิษที่เก่งกาจที่สุดในใต้หล้าเล่า”

“เช่นนั้น... เสี่ยวอวี้!”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“อวิ๋นซีกลับมาหรือยัง ไปเรียกนางมาพบข้า”

“พ่ะ…”

“ข้ามาแล้ว”

ไม่ทันขาดคำ องครักษ์หญิงนามอวิ๋นซีก็เดินเข้ามา ตอนนี้นางกลับมาสวมชุดแบบบุรุษสีขาวสลับแดงอีกครั้ง ซึ่งเป็นชุดที่ท่านอ๋องมอบให้

“ถวายบังคมท่านอ๋องทั้งสอง”

“ไม่ต้องก็ได้กระมัง หากจะพรวดพราดเข้ามาถึงตัวข้าขนาดนี้”

ท่านอ๋องหันมามองหน้านางที่พึ่งเดินเข้ามา เฉินเฟิ่งเซียวลอบยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีขู่แกมหยอกนี้ของพี่ชาย ซึ่งเฉินตงหรานไม่เคยพูดเช่นนี้กับผู้ใดมาก่อน

“เมื่อคืนนี้ข้าเห็นว่าเสิ่นอ๋องนำยาพิษของคนร้ายกลับมาด้วย ข้าจึงอยากมาดูเท่านั้น”

“เช่นนั้นก็พอดีเลยแม่นาง…”

“เรียกหม่อมฉันว่าอวิ๋นซีก็ได้เพคะ”

“เช่นนั้นอวิ๋นซีเจ้ามาดูทางนี้เถอะ ข้าไม่ถนัดเรื่องยาพิษ แต่เจ้าอาจจะมองปราดเดียวก็น่าจะรู้ในทันที”

อวิ๋นซีเดินเข้าไปที่ถาดยาของเฉินเฟิ่งเซียวบนโต๊ะ เมื่อนางเห็นผงยาที่เขานำมาเทก็ดึงเข็มเงินออกมาและจุ่มลงไปที่ผงยานั้นทันที

“นี่เข็มวารีของเจ้า ใช้ตรวจพิษได้ด้วยงั้นหรือ”

“นี่ไม่ใช่เข็มวารีสักหน่อย แค่เข็มเงินธรรมดา”

“อ้อ…อะแฮ่ม ขออภัย ๆ ข้าไม่ทันได้มอง”

เฟิ่งเซียวหันไปสนใจยาพิษตรงหน้าแทน เฉินตงหรานถึงกับรีบยกน้ำชาขึ้นมาดื่มเพื่อแอบยิ้ม เขาเองก็ไม่เคยเห็นน้องห้าจะพลาดเรื่องยาเช่นนี้มาก่อน

“พิษบุหงาเดือนสิบ”

“บุหงา… เดือนสิบงั้นหรือ พิษหายากของเป่ยหนาน แต่เหตุใดจึงมาอยู่ที่เฉินซานได้”

“ฮูหยินผู้เฒ่าเดิมเป็นคนเป่ยหนาน นางแต่งงานมากับยอดหมอหลวงแห่งเฉินซานนั่นก็คือเพ่ยหรู บิดาของใต้เท้าเพ่ย”

เฉินรั่วเฟิงเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับคำตอบ ตงหรานหันไปมองน้องเก้าของเขาทันที

“เจ้าสอบสวนเสร็จแล้วงั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าพวกมันจะไม่ยอมบอกตรง ๆ แต่ข้าก็มีวิธีถามเลี่ยงไปมา แล้วค่อยมาจับใจความรวมกัน เอ่อ…”

รั่วเฟิงหันมามองที่หลิ่วอวิ๋นซี เมื่อท่านอ๋องเห็นจึงได้รีบแจ้ง

“ไม่เป็นไร นางเป็นคนของข้า”

คำนี้ทำเอาใบหน้าของอวิ๋นซีร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที นางรีบหันไปมองยาพิษในถาดที่เหลือ เฟิ่งเซียวทันได้เป็นกิริยานี้ได้ทันเพราะเขายืนอยู่ใกล้นางที่สุด

‘ดูท่าครั้งนี้มาที่หลิงโจว คงมีเรื่องน่าสนุกไปทูลฝ่าบาทเป็นแน่’

“เช่นนั้นพวกท่านมาดูนี่ ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกคนร้ายต้องการก็คือยาพิษที่เพ่ยฮูหยินผู้เฒ่าเก็บเอาไว้นะ”

“ยาพิษงั้นหรือ พวกมันต้องการไปทำอะไร”

“เห็นว่ายาพิษที่พวกมันต้องการคือพิษร้ายแรง สามารถฆ่าทหารทั้งกองทัพได้ภายในยาพิษหยดเดียว เพียงแค่ใส่ผสมลงไปในน้ำเท่านั้น”

“ยาพิษร้ายแรงเช่นนี้ เหตุใดคนสกุลเพ่ยจึงได้คิดออกมาได้”

ครั้งก่อนที่เป่ยหนานพ่ายศึกไป คงอยากจะเอาคืนแต่กลับใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้ พี่สามท่านคิดว่าอย่างไร”

“แต่ข้ากลับคิดว่า ยาพวกนั้นคงไม่จำเป็นต้องฆ่าทหารทั้งกองทัพนั่นหรอก”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร นี่พี่สาวคนสวยอย่าหาว่าข้าว่าเจ้าเลยนะแต่สรุปเช่นนี้จะรวดเร็วไปหรือไม่”

“หากว่าข้าเป็นพวกมันคงอยากได้ตำรับยาพิษนั่นแน่ ๆ แต่คงไม่ใช้ฆ่าคนมากมายไปเพื่อให้คนประณามหรอก แต่จะฆ่าเพียงแค่คนเดียว คือแม่ทัพใหญ่ของพวกเขาและเอาชนะอย่างวีรบุรุษ”

อวิ๋นซีหันไปมองท่านอ๋องที่นั่งนิ่งและสบตานาง แววตาของทั้งสองเริ่มวาบหวามเมื่อหันไปสบตากันอีกครั้ง อวิ๋นซีรีบหลบสายเนตรนั้นอีกครั้งเพราะรั่วเฟิงเริ่มหันมาถาม

“หรือเจ้ากำลังคิดว่าพวกมันรวบรวมยาพิษครั้งนี้ก็เพื่อ… สังหารพี่สามของข้างั้นหรือ”

ทั้งหมดมองไปที่ท่านอ๋องทันที แน่นอนว่าดินแดนอุดรที่ยิ่งใหญ่นี้ หลิงอ๋อง หรือเฉินตงหราน องค์ชายสามแห่งเฉินซานเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและยังมิเคยพ่ายให้กับศัตรูที่กล้าเข้ามารุกรานแดนเหนือของเฉินซานเลยสักครั้ง หากว่าต้องการจะครอบครองดินแดนแห่งนี้ เฉินตงหรานก็คืออุปสรรคใหญ่ที่สุดของแคว้นรอบข้าง

“เช่นนั้นก็ชัดเจนแล้ว เพราะยาพิษนี้มาจากเป่ยหนาน ดังนั้นก็ไม่แปลกที่คนร้ายจะมาจากที่เดียวกัน พี่สามท่านคิดจะทำเช่นไรต่อไป”

ท่านอ๋องลุกขึ้นและเดินเข้ามา สายเนตรจับจ้องไปยังยาพิษบนโต๊ะและหันมามองหลิ่วอวิ๋นซีอีกครั้ง

“ในเมื่ออยากจะใช้ยาพิษกับข้า แต่พวกมันคงไม่ล่วงรู้มาก่อนว่าข้างกายข้าจะมีธิดาพิษอยู่ข้าง ๆ อวิ๋นซีในเมื่อเจ้าล่วงรู้เรื่องแผนการนี้ของพวกมัน เจ้ายินดีจะช่วยข้าอีกครั้งได้หรือไม่”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel