บท
ตั้งค่า

3

“ไว้เดี๋ยวเจอกันที่บ้านเธอนะ”

“อือม์ ได้”

นพรัตน์มองตามแผ่นหลังเด็กเรียนดี มารยาทเด่นที่กำลังเดินลงตึกไปด้วยสายตาครุ่นคิดก่อนแยกตัววิ่งลงไปที่สนาม ที่รีบไม่ใช่เพราะนัดเพื่อนไว้ แต่เป็นเพราะอยากไปให้ทันเห็นว่าเธอคนนั้นกลับบ้านอย่างไร

เขาสะดุดตาเธอ ตั้งแต่มัธยมต้น เคยคุยด้วยแต่ก็แทบนับครั้งได้ เพิ่งมีโอกาสได้คุยกันจริงจังตอนขึ้นมัธยมศึกษาตอนปลายนี่เอง

เขาเห็นแล้วว่าเธอเดินผ่านรั้วหลังโรงเรียนออกไป ก็ให้นึกเป็นห่วง เพราะจากการแอบมอง แอบสังเกตอยู่บ่อยๆ เคยเห็นว่ามีรถคอยมารับมาส่งเสมอ แต่สามปีมานี้เห็นว่าเปลี่ยนไป ณัชชามาโรงเรียนด้วยตัวเอง เขาเคยเห็นกับตาว่าเช้าเธอโดยสารรถประจำทางปะปนกับนักเรียนคนอื่น หลังเลิกเรียนก็เห็นกลับบ้านเองด้วยรถประจำทางอย่างเดียวกับตอนขามา

จึงตามถามตามสืบ ค่อยรู้เพิ่มว่าที่บ้านของเธอทำกิจการเกี่ยวส่งออกสินค้าอาหารแช่แข็ง แล้วก็รู้มาอีกว่ากิจการเริ่มมีปัญหาไปต่อไม่ไหว ลึกลงไปมากกว่านั้นไม่รู้หรอกว่าสาเหตุจากอะไรแน่

เดิมเขาเห็นเธอรับจ้างทำรายงานให้เพื่อนในชั้นเดียวกันส่วนใหญ่จะเป็นเด็กห้องอื่น พอรู้อย่างนั้นแล้วเลยรอจังหวะว่าจ้างเธอให้ทำรายงานให้เขาบ้าง ถึงได้มีโอกาสได้คุยกับเธอจริงจังเสียที

ณัชชาเป็นคนพูดน้อยมาก เห็นบ่อยๆว่าเธอชอบนั่งทำงานคนเดียว ชอบไปห้องสมุดคนเดียว นั่งกินข้าวคนเดียว เวลามีงานทีหรือใกล้สอบ ถึงเห็นว่ามีเพื่อนเข้าไปรุมล้อมอยู่รอบตัวเธอ ไม่พ้นให้ช่วยติวให้นั่นเอง

วันนั้นไม่รู้ว่าอะไรดลใจเขา หลังเธอส่งรายงานที่ทำจนเสร็จเรียบร้อยมาให้ เลยออกปากท้าทายดูเล่นๆเรื่องคะแนนสอบกลางภาคของสามวิชาหลักของอาจารย์สุดโหดสุดหิน ท้าทายเธอว่าหากใครทำคะแนนได้มากกว่า เงินพนันที่วางเดิมพันไว้จะเป็นของคนที่ชนะ

คิดว่าเธอจะไม่สนใจเสียอีก แต่แล้วกลับได้ยินเสียงเบาๆของเธอตอบกลับมาว่า ‘เอาสิ’

เลยเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างกันในตอนนั้นนั่นเอง

แวะส่งอัญจารีย์แล้ว นพรัตน์พารถเอื่อยเฉื่อยบนท้องถนนอยู่ครู่ กำลังชั่งใจว่าคืนนี้เขามีอารมณ์อยากใช้ที่ไหนเป็นที่นอนดี ระหว่างบ้านหลังใหญ่ศูนย์รวมพี่ๆน้องๆ หรือกลับไปที่ห้องชุดของตนเอง แม้ที่นั่นจะให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่ามาก แต่เหงาจับใจไม่ใช่น้อย

เขาซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้หลายชิ้น และที่ไม่ได้เอาไว้เกร็งกำไร นอกจากห้องชุด ยังมีบ้านสามชั้นติดแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหลังที่นานครั้งจะเข้าไปที่นั่น

ขณะคิดอะไรเพลินๆอยู่ โทรศัพท์แผดเสียงดังขึ้น เห็นชื่อโชว์หราที่จอตรงหน้าเป็นคู่ควงคนปัจจุบันก็ถอนใจปล่อยให้สายตัดทิ้งไปเอง นึกเบื่ออย่างไม่รู้ว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไรแน่

เขาเป็นพวกที่มีความต้องการทางเพศสูงคนหนึ่ง เคยได้ยินนายแพทย์ภวินท์คุยกับนิรันดร์พี่ชายของเขาเองว่ายิ่งทำงาน รับผิดชอบในตำแหน่งสูง เรื่องทางเพศจะยิ่งแปรผันตามไปด้วย ไม่นึกเชื่อถือเท่าไรนัก คิดว่าคงพูดกันเล่นๆ แต่แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นแบบนั้นจริง

นพรัตน์รับบริหารงานมากกว่าบรรดาพี่น้องเนื่องด้วยศักยภาพที่มากกว่า เขาไม่ได้อยากทำนัก แต่คนนั้นโยนมาคนนี้โยนมาให้ก็รับทำไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คิดอะไรมากมาย สุดท้ายก็พบว่างานในมือของเขามากกว่าพี่น้องคนอื่นถึงสองเท่าเลยทีเดียว

ไม่นานจากนั้นมีสายเรียกเข้ามาอีก ครั้งนี้เป็นเพื่อนสมัยเรียนที่ติดต่อคบค้าสมาคมกันอยู่เรื่อยๆ นึกลังเลครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจกดรับสายในนาทีต่อมา

ทางนั้นทักถามรวดเร็วฉับไวตามนิสัย

“เสี่ยครับ คืนนี้เพื่อนนัดดูบอลกันนะครับ”

เลยคิดแบบไวๆว่าหรือเขาควรไปหาพวกมันดี ถามกลับสั้นๆ

“ที่?”

ปลายสายบอกชื่อร้านที่ซึ่งเป็นของพรรคพวกกัน แล้วจึงวางสายลง พารถมุ่งหน้าสู่ร้านอาหารนั้น ดีที่เป็นทิศทางเดียวกับที่พารถท่องบนถนน จึงไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยวรถกลับไปกลับมาอีก

ไม่นานก็ถึงจุดหมาย

“เสี่ยนพมานู่นแล้วโว้ย เชิญครับเสี่ย” เพื่อนคนโทรศัพท์หาลุกมารับถึงทางเข้าร้าน พามาที่โต๊ะ คนอื่นๆเลยเฮกันลั่นจากนั้นที่เห็นหน้านพรัตน์ เพราะเขาเป็นเสี่ยที่เปย์หนักจริงๆ

หากมาก็แสดงว่ามื้อนี้ได้กินฟรีกันแล้ว

นพรัตน์มีเพื่อนมาก ไม่ใช่แค่เพื่อนกิน ส่วนใหญ่เพื่อนจะชอบเขาไม่ใช่ว่าเพราะเปย์หนัก แต่นพรัตน์ใจถึง พึ่งได้ และรักใครรักจริง

“นึกว่าเสี่ยจะมาไม่ได้ ก่อนหน้าเสี่ยไม่กี่นาทีเจอไอ้แว่นด้วยนะ มันหล่อสายเกาเลยครับเสี่ย”

อีกคนรีบเสริมทันที “ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเอาดีทางนี้ว่ะ”

นพรัตน์ไม่ได้ตอบโต้อะไร เขารับแก้วเครื่องดื่มจากเพื่อนแล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวกลาง ที่อยู่ในวงล้อมของเพื่อน มองจอขนาดยักษ์ที่กำลังถ่ายทอดฟุตบอลนัดสำคัญอยู่ เพื่อนคนหนึ่งในวงเอ่ยขึ้นอย่างต้องการชวนคุย

“เมื่อบ่าย บาสมันไปรอแฟนยิงลำแสงเลเซอร์ชะลอหน้าเหี่ยวหน้าแก่ เพื่อนครับ มึงรู้ไหมมันเจอใครที่นั่นให้พวกมึงทาย”

คนมาทีหลังบอก ขณะที่ตายังจ้องจออยู่

“มึงจะถามทำไม เฉลยมาเถอะจิว”

คนถามทำหน้าเคืองๆ ต่อว่าไม่ได้จริงจังอะไรนัก “เสี่ยนพนี่แม่งไม่ให้ความร่วมมือเลยนะมึง...”

แล้วรีบเฉลย “เจอณัชชาเว้ย”

ใจเหมือนแกว่งไปหน่อยที่ได้ยินชื่อของ ‘ณัชชา’ อีกครั้ง ถามกลับสั้นๆ “ที่ไหน”

คนเกริ่นเรื่องรีบตอบกลับมา ใครว่าผู้ชายไม่ช่างเม้า น้อยไปเสียนี่ “จะที่ไหน ก็ที่คลินิกเสริมสวยเสริมความงามอะไรนั่นแหละครับ ณัชชาเธอเป็นพนักงานอยู่ในนั้นครับเสี่ย”

นพรัตน์ถามต่ออีก “เจ้าของคลินิก?”

“ไม่ใช่ครับ เป็นพนักงานในนั้นอีกที คอยเชียร์ลูกค้าให้ซื้อคอร์ส ทำนองนั้นนะตามที่ไอ้บาสมันเล่ามา”

“พนักงานขายงี้หรือวะ” อีกคนถามเหมือนยังไม่เคลียร์

“ประมาณนั้นมั้ง กูไม่ค่อยรู้จัก”

“สมัยเรียนเห็นแม่งเรียนโคตรเก่ง นึกว่าจะไปต่อหมอ สุดท้ายทำไมไปทำงานแบบนั้นได้วะ”

“ขายเก่งเป็นทุนอยู่แล้วมั้ง คงไม่อยากเป็นหมอ แล้วเป็นไงบ้างวะ สวยขึ้นไหม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel