บทที่ 5
“ตาลจะพยายามรักษาคุณคิริฮาระให้ดีที่สุดค่ะ” พุดตานเอ่ยตอบกลับไป เพราะเธอยังฟันธงตอนนี้ไม่ได้จริงๆ นั่นเอง
คำตอบของพุดตานทำให้ก้องภพเผื่อใจ เพราะไม่แน่ว่าหลังจากนี้คิริฮาระอาจกลับไปทำงานอย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ได้อีก อาการองคชาตแข็งค้างจนใช้งานไม่ได้มันร้ายแรงพอๆ กับอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มันคือเรื่องใหญ่ที่ทำลายชีวิตผู้ชายคนหนึ่งได้เลย ยิ่งอาชีพของคิริฮาระนั้นต้องใช้งานด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่าห่วง
แม้จะอยู่ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่ก้องภพก็ต้องคิดหาตัวตายตัวแทนมาทำงานแทนคิริฮาระ หาเผื่อไว้หน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร ซึ่งเขามั่นใจว่าต้องปั้นให้โด่งดังเทียบเท่าคิริฮาระได้อย่างแน่นอน
ก้องภพได้คุยกับพุดตานเพียงไม่กี่ประโยค คิริฮาระก็กลับมาโดยพระเอกหนุ่มนั่งรถเข็นทั้งไปและกลับ ซึ่งเขาต้องนั่งรอผลอัลตราซาวด์อีก ซึ่งแต่ละครั้งของการลุกนั่งสร้างความเจ็บปวดให้คิริฮาระไม่น้อยเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องทนและฝากความหวังการรักษาไว้ที่นี่
กระทั่งผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมง ผลอัลตราซาวด์ของคิริฮาระก็มาอยู่ในมือของพุดตาน คุณหมอสาวเพ่งสายตามองแผ่นอัลตราซาวด์ตรงหน้าอย่างใช้ความคิด รวมถึงยังคงโทรไปปรึกษากับอาจารย์หมอเพื่อหาข้อสรุปอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาการของคิริฮาระจะเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วนั่นเอง
“บอกหมอไปไม่ดีกว่าหรือว่าใช้ยามา”
“ไม่ครับ บอกไม่ได้เด็ดขาด”
“แต่ถ้าหมอรู้ว่าอาการที่เรนเป็นอยู่ตอนนี้เกิดจากการใช้ยากระตุ้น มันจะเร่งเวลารักษาให้เร็วขึ้นนะเรน ดีกว่าปล่อยให้เวลามันผ่านไปแบบนี้ รู้เร็วก็รักษาเร็ว หายเร็วด้วย” คำพูดของก้องภพทำให้คิริฮาระอึ้งไปนาน สุดท้ายเขาก็ยอมทำตามที่ก้องภพแนะนำ
“คุณหมอครับ ผมมีอะไรจะสารภาพ”
“สารภาพอะไรหรือคะ”
“คือ...ก่อนหน้านี้ผมกินยาไวอากร้าเถื่อนเข้าไป เพราะยานั่นหรือเปล่าถึงทำให้องคชาตของผมเกิดอาการแข็งค้างอยู่แบบนี้” คิริฮาระบอกความจริงที่น่าอับอายออกไป แต่มาถึงตอนนี้แล้วเขาก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ
เมื่อได้ฟังคิริฮาระ พุดตานก็หยิบผลอัลตราซาวด์ของเขาขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากเคร่งเครียดมานาน สุดท้ายเธอก็พอจะได้คำตอบว่าอะไรเป็นสาเหตุ
“เป็นไปได้ค่ะ เพราะยาไวอากร้าที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจมีส่วนทำให้องคชาตของคนไข้แข็งค้างได้อย่างในตอนนี้ เพราะจากผลอัลตราซาวด์พบว่ามีหลอดเลือดดำในเนื้อเยื่อส่วนด้านบนขององคชาติมันผิดปกติไป มันอาจถูกกระตุ้นจนเกิดอาการคลายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง พูดง่ายๆ คือองคชาตของคนไข้ถูกปลุกให้ตื่นตัวจนแข็ง แต่กลับไม่สามารถหดตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ควรจะเป็น นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดขังอยู่ในองคชาต ยิ่งเลือดไม่สามารถไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจได้ตามปกติ จึงก่อให้เกิดเป็นภาวะองคชาตแข็งค้างและเกร็งอย่างที่เป็นอยู่ เอาเป็นว่าก่อนที่เนื้อเยื่อองคชาตจะเริ่มตาย” พุดตานพยายามอธิบายอาการที่เกิดขึ้นให้คนไข้ของเธอฟังแบบง่ายๆ แต่ดูเหมือนคิริฮาระจะจับใจความได้ไม่ครบถ้วน ซึ่งสมองเขายังคงคิดวนเวียนอยู่กับประโยคหนึ่งของพุดตาน
“หนะ...เนื้อเยื่อองคชาตเริ่มตาย หมายความว่ายังไงครับคุณหมอ”
“ก็จะใช้งานไม่ได้อีกค่ะ เพราะนี่ก็ใกล้จะเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว ฉะนั้นหมอว่าเรารีบทำการรักษากันดีกว่านะคะ”
“เอาเลยครับ เอาเลย คุณหมอจะรักษายังไงก็ได้ ขอแค่ผมหายเป็นปกติก็พอ”
“ค่ะ” พุดตานเอ่ยรับแค่นั้น แล้วเดินออกไปบอกให้พยาบาลเตรียมห้องผ่าตัด เพราะเคสนี้ต้องเร่งกับเวลา ยิ่งทำเวลาได้เร็วเท่าไหร่ก็จะกอบกู้องคชาติของคนไข้ได้เร็วเท่านั้น
ระหว่างนั่งรอเข้าผ่าตัด คิริฮาระก็นั่งมองความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไปด้วย หัวใจของชายหนุ่มหนักอึ้งและภาวนาขอให้การรักษาครั้งนี้ประสบความสำเร็จ เขาอยากกลับไปทำงานหรือขอกลับไปฟิตปั๋ง สั่งงานองคชาตให้หลับหรือตื่นได้ดั่งใจอย่างเมื่อก่อนก็พอ ไม่ใช่แข็งค้างท้าทายแรงโน้มถ่วงของโลกจนสร้างความเจ็บปวดและอับอายให้เขาอย่างในตอนนี้
ปลายเข็มแหลมที่จิ้มลงไปบนองคชาตของคิริฮาระเวลานี้ สร้างความเจ็บปวดให้ชายหนุ่มเป็นอย่างมาก แต่ทว่ากลับร้องออกไปไม่ได้ ได้แต่กัดฟันข่มความเจ็บเอาไว้จนเหงื่อซึมออกมาตามไรผม มือหนาทั้งสองข้างจับขอบเตียงไว้แน่นจนเส้นเลือดปูดโปนออกมา
“เจ็บก็ร้องตะโกนได้เลยนะคะคนไข้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหว” คิริฮาระกัดฟันบอกออกไป ทั้งๆ ที่เขาเจ็บจนเกินจะทนแต่กลับเลือกที่จะไม่ร้องตะโกน ดูเหมือนยาชาที่ฉีดเข้าไปก่อนหน้าจะไม่ได้ช่วยให้เขาหายเจ็บเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่พุดตานเองก็กำลังใช้เข็มเจาะเข้าไปยังองคชาตอย่างเบามือ แล้วค่อยๆ ดูดเลือดที่คั่งออกจากเนื้อเยื่อ
แม้จะทำอย่างเบามือถึงที่สุดแล้ว แต่บางจังหวะเธอก็ต้องลงน้ำหนักมือเพื่อจะได้ดูดเอาเลือดที่คั่งอยู่ในองคชาตออกมาให้ได้มากที่สุด นั่นก็ยิ่งทำให้คิริฮาระเจ็บ แต่ก็กัดฟันยอมทน
แต่ดูเหมือนวิธีแรกจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร พุดตานจึงเลือกฉีดยาให้คิริฮาระอีกเข็ม จะได้กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ถ้าหากทำทั้งสองอย่างแล้วยังรักษาอาการของคนไข้รายนี้ไม่ได้ ก็คงต้องผ่าตัดแล้วใส่แกนองคชาตเทียมเข้าไปแทน เพื่อให้คิริฮาระกลับไปใช้งานองคชาตได้อย่างเดิม ซึ่งเธอหวังว่าจะไม่ต้องใช้ทางเลือกข้อสุดท้าย
ในขณะที่คิริฮาระก็กำลังกัดฟันจนได้ยินเสียงกรอดๆ ดังมาเป็นระยะๆ แต่พอยาเริ่มออกฤทธิ์อาการปวดก็ทุเลาลงไปมาก รวมถึงองคชาตที่โด่อย่างไม่รู้ล้มมาเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ค่อยๆ หดตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน แม้จะยังไม่กลับคืนสู่สภาวะปกติก็ตามที แต่ก็ยังดีกว่าแข็งค้างอยู่อย่างเก่า
ประตูห้องผ่าตัดเล็กถูกเปิดออกและคนที่เดินออกมาเป็นคนแรกนั้นคือพุดตาน ส่วนคิริฮาระเธอให้เขานอนพักเพื่อดูอาการไปก่อน
“เรนเป็นยังไงบ้างตาล”
“ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ รอแค่หายเจ็บก็น่าจะกลับบ้านได้”
“แล้วหลังจากนี้ เรนจะหายเป็นปกติใช่ไหม”
“ค่ะ...แต่ระหว่างนี้ยังคงต้องตามอาการอย่างใกล้ชิด” ความเป็นห่วงเป็นใยที่ก้องภพมีให้คิริฮาระนั้นดูมีมากจนผิดปกติ ทำให้พุดตานอดคิดไม่ได้ว่าทั้งคู่อาจมีความสัมพันธ์อะไรเกินกว่าที่เห็นหรือเปล่า แต่เธอก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปถามซักไซ้เอาความจริง
