9
“เฮ้ย! อยู่ๆ ก็มาดับอะไรตอนนี้เนี่ย!” ปิรวดีทุบพวงมาลัยรถที่มีปลอกสวมสีส้มอ่อนลายการ์ตูนหลายครั้งอย่างหงุดหงิด
โชคดีที่รถมินิคันโปรดชะลอข้างทางพอดี เพราะเธอรู้สึกได้ว่าเครื่องเริ่มกระตุก รถคันนี้เธอซื้อมือสองมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยการเก็บตังจากการขายของออนไลน์
และแม้ว่าวันเวลาจะผ่านไป มีเงินทองมากมายเพิ่มขึ้น เธอก็ไม่เคยคิดที่จะซื้อรถคันใหม่เลย เพราะมันยังใช้งานได้ดีอยู่
“นี่ก็จะถึงเวลาที่คุณหมอนัดแล้ว มาป่วยอะไรตอนนี้คะลูก” ความวุ่นวายของท้องถนนก็ยังมีรถขับผ่านไปมา เธอพยายามมองหาความช่วยเหลือ พร้อมเดินลงจากรถไปสำรวจความผิดปกติ
“ซ่อมไม่เป็นซะด้วย ถ้าเรียกช่างก็กว่าช่างจะมาอีก” แต่เธอก็ตัดสินใจควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อโปรดสีดำสนิท สะพายไหล่
แบบที่ไม่ได้สังเกตเลยว่า...
มีรถคันหนึ่งจอดห่างจากเธอออกไปไม่กี่เมตร สายตาคมกริบที่อยู่ภายใต้แว่นกันแดดสีดำ บนเบาะหลังของรถ ที่มีคนขับนั่งประจำตำแหน่งอยู่
“เอาไงวะ จะลงไปช่วยเขาซ่อมรถมั้ย?” ผู้ช่วยคนสำคัญ ที่เป็นได้ทุกย่างทุกเวลา รีบหยิบแว่นตาดำมาสวมบ้าง
“นี่จะถึงเวลาที่หมอนัดแล้ว ถ้าไปไม่ทันไม่ได้ตรวจแน่ เพราะวันนี้คนไข้เยอะ” ว่าอย่างกังวลใจ ตามประสาคนที่มีความรับผิดชอบสูง
หลังจากที่เขาทราบเรื่องราวทุกอย่าง จากปากแพทย์หญิงเพื่อนของธราดล คนที่ปิรวดีไปฝากครรภ์ด้วย แม้จะเป็นความลับของคนไข้ แต่เมื่อฝ่ายนี้เปิดประเด็นก่อน ก็จำต้องหลุดปากออกมาจนได้
เหมือนว่าเรื่องนี้...จะทำให้ใครต่อใครเริ่มที่จะผิดจรรยาบรรณกันเป็นทิวแถว
“ฉันโทรไปบอกฟ้าให้ก็ได้นะเว้ย มันไม่น่าจะซีเรียส”
“เรียกแท็กซี่ให้คันหนึ่ง” ว่าอย่างนิ่งๆ ในน้ำเสียงและแววตามีความครุ่นคิดบางอย่าง
ใช่...
เขาคิดเรื่องนี้มาตลอดหลายวันที่ทราบเรื่อง
‘เธอท้องจริงว่ะ ไปฝากครรภ์แล้วด้วย ดูจากอายุครรภ์แล้วเนี่ยตอนนี้น่าจะใกล้ 3 เดือน เท่ากับช่วงเวลาที่วันไนท์สแตนด์กับแก ถ้าเธอไม่ได้ไปต่อที่อื่นอีกอ่ะนะ’ ข้อมูลที่ยื่นมาให้ปรากฏต่อสายตาคมกริบ
ประกายไหววูบชะงักชั่วครู่ ความรู้สึกที่ได้รับส่งผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ ที่แรงและรัวเร็วขึ้น
ริมฝีปากหยักเรียบเฉย มีแววรอยยิ้มผุดขึ้นชั่วครู่ ถ้าเด็กในท้องคือลูกของเขาจริง...
เขาคงจะมีความสุขมาก
‘ไม่น่าไหว ฉันยังหลับเป็นตายซะขนาดนั้น’ แต่ก็ยังมีอารมณ์ขันเชิงเล่นพูดออกไปแบบหน้าตาย ได้อยู่ดี
‘ว้าว! มีโชว์ มีโชว์’ แซวเชิงขำพร้อมตบไหล่เพื่อนรัก เชิงให้กำลังใจ
‘เอาไง สั่งมา ฉันพร้อมเสมอที่จะจัดการให้’
‘ติดต่อเพื่อนเจ้าของคลินิกแกให้ฉันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าลูกฉันแข็งแรงมั้ย’ น้ำเสียงเชิงตื่นเต้น ถ่ายทอดความรู้สึกของการได้เป็นพ่อคน มันช่างเหมือนได้ยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อันแสนสดชื่น...
ในยามเช้าหลังฝนตก มันเย็นฉ่ำ...และมีกลิ่นดินหอมๆ โชยมาแบบไม่รู้จบ
ตอนที่พ่อรู้ว่าเราเกิดมา...เขามีความรู้สึกแบบนี้มั้ยนะ? วูบคำถามเล็กๆ ผุดขึ้นรวดเร็วจนเกินกว่าใจจะยับยั้ง
คงไม่ ถ้าเรารู้สึกแบบนี้เขาจะทิ้งเราไปทำไม ส่งเสียงเล็กๆ ในลำคอเพียงครู่ เหมือนสมเพชตัวเองนักหนา
“เออว่ะ เรียกแท็กซี่มาพาเขาไป น่าจะเร็วกว่าลงไปซ่อมเอง” แล้วนักจัดการดีเด่นอย่างธราดลก็โทรเรียกแท็กซี่ด่วนมาให้ทันที
และทันทีที่แท็กซี่มาถึง ไมค์ก็ก้าวลงจากรถทันที จนผู้ช่วยคนสำคัญถึงกับต้องชะงักการจะเปิดประตูลงไปบอกแท็กซี่ว่าให้ทำยังไงต่อ
“สงสัยกลัวเราจะจัดการให้ไม่ถูกใจ ลงไปจัดการเองซะด้วย คนเห่อลูกก็เงี้ย ฟู่ว!” ว่าอย่างโล่งใจ พร้อมผิวปากรออย่างอารมณ์ดี
ชั่วครู่เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น...
“เป็นไง เรียบร้อยดีป่ะวะ” ว่าพร้อมคาดเข็มขับเตรียมสตาร์ทออกรถ เพราะเห็นว่าแท็กซี่เคลื่อนไปจอดยังที่รถมินิจอดอยู่ และเหมือนว่าเป้าหมายก็กำลังโบกมือเรียกเช่นกันพอดี
“เรียบร้อยดีครับ” สำเนียงอีสานชัดแจ๋วของชายวัยกลางคน ทำเอาธราดลหันขวับ
“เฮ้ย! ลุงขึ้นรถผมมาได้ไงเนี่ย!” รอยยิ้มแฉ่งฉีกกว้างของคนขับแท็กซี่ ส่งให้อย่างจริงใจทำเอาธราดลอึ้งเป็นการใหญ่
“ก็ไอ้หนุ่มมันบอกให้ลุงขึ้นมาคันนี้ ลุงก็ว่าไม่ผิดนะ เขาขอยืมเสื้อลุงไปด้วย แล้วยกเสื้อเขาให้ลุงใส่เนี่ย ผ้าดีซะด้วย” ว่าพร้อมหันรีหันขวาง กลัวว่าจะขึ้นรถผิดจริงๆ
“โอ๊ย! มันเล่นแบบนี้เลยเหรอวะ” ว่าพร้อมมองตามแท็กซี่ทีรับผู้โดยสารออกตัวไปแล้ว และรีบขับตามไป
“นั่งดีๆ นะลุง ทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลย ไอ้เจ้านายเลือดร้อน!”
“ครับผม!!”