5
“ฝันอีกแล้วเหรอวะเนี่ย ตั้งแต่ท้องมา...ฝันเรื่องนี้วนไปเป็นสิบรอบละมั้ง” ว่าพร้อมตบหน้าตัวเองไปมา
เอาเข้าจริงๆ ความรู้สึกของวันไนท์สแตนด์ในค่ำคืนนั้น ก็ไม่ได้จางหายไปไหนเลย แม้วันเวลาจะล่วงเลยมาสองเดือนกว่าแล้วก็ตาม
เมื่อกลางวันเธอเพิ่งจะไปฝากครรภ์มา สูติแพทย์ตรวจอายุครรภ์ได้ว่า ประมาณ 10 สัปดาห์ได้
มือบางลูบหน้าท้องตัวเองป้อยๆ หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย
‘นัดคราวหน้า ให้พาคุณพ่อมาตรวจเลือดด้วยนะคะ เพราะคุณแม่เป็นพาหะโรคธาลัสซีเมีย’
คำว่าคุณพ่อ...ทำเอาเธอหวาดหวั่นใจ เธอยังไม่ได้บอกแพทย์หญิงว่าเธอท้องไม่มีผัว ก็เลยรับปากไปว่าจะพาคุณพ่อเด็กไป และตัวเองขอตรวจซ้ำด้วยอีกรอบ
อยากตรวจละเอียดหลายโรค แม้จะมีความจำเป็นหรือไม่ก็ตาม!
เอื้ออารีอธิบายว่า...พาหะธาลัสซีเมีย หมายถึงผู้ที่มียีนของโรคธาลัสซีเมียเพียงยีนเดียว เป็นยีนแฝงซึ่งผู้เป็นจะมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องได้รับการรักษาหรือรับประทานยาใดๆ แต่สามารถถ่ายทอดยีนไปสู่ลูกได้
ซึ่ง...ความเสี่ยงที่ลูกของเธอจะเป็นพาหะของโรคหรือโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลเลือดของพ่อเด็ก ว่าเป็นพาหะหรือไม่เป็นพาหะ
ใช่...
ถ้าเขาเป็นพาหะ โอกาสที่ลูกของเธอจะผิดปกติก็มีสูงกว่า ซึ่งการที่เขาไม่ได้มาเจาะ มันทำให้เธอไม่มีโอกาสรู้เลยว่า
ลูกของเธอจะเสี่ยงแค่ไหน...หรือไม่เสี่ยงเลย
“เฮ้อ เพราะมัวคิดแต่เรื่องนี้สินะ เลยฝันถึงเขาบ่อยขนาดนี้” กลิ่นกายหอมสะอาดของเขาลอยเข้ามาในมโนนึก จนเธอต้องตบหน้าตัวเองซ้ำๆ
“เราคิดถึงเขาเพราะเรื่องลูกหรอกน่า ไม่ใช่เรื่องเซ็กส์ซะหน่อย!” เธอตบหน้าตัวเองไปมา ยอมรับว่าตัวเองก็เป็นผู้หญิงจัญไรคนหนึ่ง ความรู้เรื่องพันธ์นี้หนึบแน่น
แม้จะเผชิญกับสถานการณ์จริง ค่ำคืนนั้นเป็นคืนแรก...แต่เธอก็ประทับใจจนไม่อาจลืมเลือนมันได้
แม้ปากจะบอกว่าไม่...แต่ใจก็ยังโหยหาลึกๆ อยู่ตลอด
“ไม่ได้! เราจะหวั่นไหวไม่ได้ ความรู้สึกพวกนี้อันตราย โคตรอันตราย มันคือความผูกมัดอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้ใจเราไม่เป็นอิสระ! ตัดมันออกไปจากหัวเดี๋ยวนี้!!” ปิรวดีมีความเชื่อที่ไม่เหมือนคนอื่น ผิดแผกแตกต่างและไม่เคยยึดติดกับสิ่งอื่นใด
นอกจากความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก!
เธอตัดสินใจเปิดไฟหัวเตียงเดินลงไปที่บริเวณโต๊ะทำงาน เปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ขึ้น
ยอดขายนวนิยายที่ไม่ได้เช็กมาเกือบสัปดาห์ได้ เผยยอดให้เห็นได้พอใจชื้น
“สั่งจองรูปเล่มก็เยอะใช้ได้ เห็นทีพรุ่งนี้ต้องแวะไปโรงพิมพ์ซะหน่อย” พยายามเบี่ยงเบนความคิดและความรู้สึกของตัวเองออกจากความฟุ้งซ่าน
ด้วยงาน...
ใช่ งานสำหรับเธอมาที่หนึ่งเสมออยู่แล้ว!
“อุ๊บ! โอ๊กกก!” ขณะที่กำลังจะรับประทานอาหารบนโต๊ะที่มีของโปรดเรียงราย
ไมค์ พินิจไพบูลย์วงศ์ คือเจ้าของเสียงนั้น เขาวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ จนมารดาต้องวิ่งตามไปช่วยดูพร้อมน้ำเปล่าที่ยื่นให้
“เป็นอะไรหรือเปล่าไมค์ บ้วนปากก่อนนะลูก” ว่าพร้อมลูบหลังให้คนที่อาเจียนหมดไส้หมดพุง ทั้งๆ ที่ยังเช้าตรู่อยู่แท้ๆ
“ไม่รู้สิครับแม่ อยู่ๆ ก็รู้สึกเหม็นอาหารบนโต๊ะนั่น จนทนไม่ไหวต้องอาเจียนออกมา” ว่าพร้อมหยิบน้ำเปล่ามาบ้วนปากตามที่มารดายื่นให้
ใบหน้าขาวแดงเถือก จนการาวดีไม่สบายใจ
“ไปหาหมอมั้ยลูก ช่วงนี้พักผ่อนน้อย หรือทำงานหนักไปหรือเปล่า” เมื่อพยุงบุตรชายเพียงคนเดียวกลับมานั่งบนโซฟากลางบ้านหลังใหญ่ ห่างไกลจากอาหารได้แล้ว ก็รีบเอ่ยถามขึ้นอย่างห่วงใยอีกครั้ง
“ก็เข้านอนปกตินะครับ แม่ก็รู้ว่าผมดูแลสุขภาพตัวเองดีแค่ไหน”
“ก็จริง แปลก...ถ้าลูกเป็นผู้หญิงนะ แม่จะถามว่าช่วงนี้เมนส์มาปกติหรือเปล่า” พูดเชิงเล่นไปอย่างนั้นตามประสาคนชอบตลกหน้าตายไม่แพ้บุตรชาย
หากแต่คำพูดนั้น...กลับสะกิดใจเขาเข้าอย่างจัง!
‘อาห์! อย่าเร่งเดี๋ยวหลั่งใน’ เสียงคำรามก้องของเขาไม่อาจยับยั้ง สะโพกงอนเด้งที่เคลื่อนไหวรัวเร็วอยู่บนร่างของเขา แบบไม่ปรานีปราศรัยให้ชะงักลงได้
‘กลั้นไว้สิ หรือว่าคุณไม่อึดจริง’ น้ำเสียงพร่าว่าอย่างท้าทาย จนเขาต้องอดทนต่อไปอีกขั้น
สะโพกสอบหยัดสวนรับแบบไม่ยอมแพ้ เคลื่อนไหวตอบสนองจากเบื้องล่าง จนร่างบางสั่นสะท้านโก่งตัวเข้าสู้
‘อูว...ลึกสุดๆ ไปเลย’ แต่เสียงครวญครางของเธอนั่น กลับทำให้ทำนบที่เขาอยากจะยืดเวลาต่อออกไป
เริ่มไม่ง่าย...
‘อา อืม!’
‘อู้ว!! แรงอีก แรงอีก!’
‘อย่าร้อง หุบปากเดี๋ยวนี้!’ อารมณ์ดิบในความเป็นชายก่อตัวเล่นงานหนัก สติส่วนดีเริ่มที่จะโมโห ในความเก่งเกินหญิงของเธอ
เขารู้ว่าเธอบริสุทธิ์ผุดผ่องจากการผ่านกระบวนท่ากับเธอมาร่วมหลายชั่วโมง แต่เขาก็ควบคุมให้ตัวเองปล่อยข้างนอกได้อย่างไม่มีบกพร่อง
คอนดอมที่พอจะพกอยู่บ้าง ใช้ไปจนหมด แต่เธอก็สรรหาวิธีที่จะกระตุ้นเขาและพยายามอย่างไม่ลดละ เหมือนตั้งใจที่จะมารีดน้ำอสุจิจากเขาให้จงได้
‘โอ้ว! ก็มาดิ….’
‘อาห์!!’ ทำนบสุดท้ายที่ไม่อาจจะสะกดกลั้น ถูกปลดปล่อยพร้อมกับที่จะเขาจะดึงตัวเองออกมาจากจุดอ่อนไหวที่รัดแน่นนั้น
หากแต่แม่สาวเจ้ากลับกอดเขาแน่น กดสะโพกเน้นหน่วง โอบรัดจนเจ้าโลกกระตุกรุนแรงอยู่ในนั้น เหมือนไส้เดือนดิ้นตาย ที่ไม่อาจจะโผล่ออกมามองเห็นอากาศนอกถ้ำ
‘สุดยอดมาก...สุดยอดไปเลย’ นั่นคือน้ำเสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเธอ ก่อนสลบไสลจากการหมดเรี่ยวแรงไปมากโข
ใช่...
นางฟ้าคืนเดียว จากไปตั้งแต่ที่เขายังไม่ตื่น เขาไม่คิดที่จะออกตามหา ปล่อยให้วันเวลาผ่านเลยไป
แต่สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจตามหาเธอขึ้นมาได้จริงๆ ก็เพราะสงสัย ว่าเธอทำไปเพื่ออะไร...แล้วถ้าเธอท้องจะเป็นอย่างไร