บทที่ 3 ท่านหย่ากับข้าเถิด (1/2)
ปึง!
เสียงกระแทกฝ่ามือพร้อมกระดาษหนึ่งแผ่นลงบนโต๊ะหนังสือดังสนั่น เว่ยจวินอี้เงยหน้าขึ้นจากกองรายงาน วางม้วนไม้ไผ่ลงด้วยความเชื่องช้า เขาขึงดวงตามองผู้มาเยือนอย่างไม่สบอารมณ์ เหตุใดนางจึงมารยาททรามยิ่งนัก
"ท่านหย่ากับข้าเถิด"
เฉิงซินจ้องหน้าแม่ทัพเขม็ง กล่าววาจาอย่างมุ่งมั่น เว่ยจวินอี้ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เขาเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งฝั่ง พยายามกดข่มอารมณ์คุกรุ่นลงไป "นึกครึ้มใดขึ้นมาได้เล่า อยู่ ๆ จึงมาขอหย่าเช่นนี้"
"ได้! ข้าบอกความจริงท่านก็ได้"
"ความจริงหรือ" เว่ยจวินอี้แสร้งกลับไปสนใจกองรายงานของตนต่อ ราวกับว่าผู้มาเยือนเป็นดั่ง ลม ฟ้า อากาศสำหรับเขา
เฉิงซินหลับดวงตา ผ่อนลมหายใจเพื่อข่มความอัปยศในกาลก่อนเอาไว้ลึกสุดก้นบึ้ง "วันนั้นท่านและข้ายังไม่ได้เกินเลยกัน"
เว่ยจวินอี้ชะงักลงชั่วครู่ เฉิงซินได้ยินเสียงหัวเราะหึแผ่วเบา ราวกับว่าแม่ทัพผู้นี้ไม่ได้รู้สึกรู้สาใดเลย เขาหัวเราะเช่นนั้นหรือ หัวเราะด้วยน้ำเสียงเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน
"ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร" เฉิงซินขมวดคิ้วบาง นี่เป็นเรื่องดีกับเว่ยจวินอี้ด้วยซ้ำ เหตุใดเขาช่างดูใจเย็นและประวิงเวลาให้ยืดเยื้อเช่นนี้เล่า การที่นางยอมถอยให้กับแม่นางในดวงใจของเขาไม่ใช่เรื่องน่ายินดีหรอกหรือ
แม่ทัพแหงนใบหน้าขึ้น แววตานุ่มลึกคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม "เจ้าคิดว่าจวนข้าเป็นสถานที่เช่นไร ที่วิ่งเล่นสำหรับเจ้าหรือ อีกอย่างสมรสพระราชทาน ใช่เจ้าคิดจะหย่าก็หย่า คิดจะแต่งก็แต่งได้โดยง่าย"
"อีกหน่อยท่านก็ต้องรับนางเป็นอนุ ข้าไม่อยากใช้สามีร่วมกับผู้ใด" เฉิงซินเหลียวหน้าไปทิศอื่น กล่าวมุบมิบด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ทว่าอีกฝ่ายกลับได้ยินสิ่งที่นางเอ่ยออกมาแม้จะฟังดูไม่ถนัดนัก แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง
"เจ้ากำลังทำตัวเป็นประเภทตีตนไปก่อนไข้เช่นนั้นหรือ" เว่ยจวินอี้เลิกคิ้ว ริมฝีปากกดยิ้มหยามหยัน
เฉิงซินผินหน้ากลับ นางกอดอกแน่น "ในเมื่อท่านไม่เคยรักข้า อีกอย่างการวิวาห์ในครั้งนี้ล้วนเป็นข้าที่ก่อเรื่อง เช่นนั้นข้าก็จะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำ"
"เหอะ! รับผิดชอบหรือ รู้ตัวนี่ว่าเป็นผู้ก่อเรื่อง เจ้ามากล่าวตอนนี้มันสายเกินไปหรือไม่ หากข้าหย่ากับเจ้าหลังจากตบแต่งได้เพียงหนึ่งวัน ชาวเมืองจะได้ครหาว่าข้ารับผิดชอบเพื่อบังหน้าเท่านั้น ซ้ำยังมาหาว่าข้าข่มเหงสตรีไม่มีทางสู้ นี่คงเป็นจุดประสงค์ที่เจ้าอยากหย่ากับข้ากระมัง"
"แล้วไม่จริงหรือ เรื่องที่ว่าท่านรับผิดชอบข้าบังหน้า" เฉิงซินเลิกคิ้ว
"เจ้า!"
เว่ยจวินอี้ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาสิ้นความอดทนกับสตรีเช่นนี้จริง ๆ เขาไม่อาจหย่าในตอนนี้ได้ แม้จะยินดีเพียงใดก็ตาม อยู่ ๆ ผู้ที่อยากวิวาห์กับเขาเสียจนเนื้อเต้นกลับมีท่าทีแปรผันไป นี่มันเรื่องประหลาดใดกัน
"ข้าไม่หย่า" เว่ยจวินอี้กล่าวเสียงขรึม
"ห้ะ! ไม่หย่า ท่าน… เหตุใดจึงเอาใจยากเช่นนี้เล่า ไม่ต้องการข้า ทว่าไม่ยอมหย่า" เฉิงซินยิ้มเยาะ
ราวสวรรค์กลั่นแกล้ง ขณะที่ตนอยากวิวาห์กับแม่ทัพผู้นี้ใจแทบขาด อีกฝ่ายกลับทำสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์และพยายามหลีกหนีนางราวกับเห็นตัวอัปมงคล มาหนนี้นางเป็นฝ่ายเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขากลับปฏิเสธมันออกมาอย่างหน้าตาเฉยเช่นนั้นหรือ เกรงว่าแม่ทัพเว่ยคงต้องการทดสอบความอดทน และรังแกตนเพื่อความขบขันกระมัง
"ก็ได้ ท่านต้องการเช่นนี้จริงหรือ ว่ามาท่านพร้อมเมื่อใด"
"พร้อม" เว่ยจวินอี้งุนงง
"พร้อมหย่าอย่างไรเล่า หากยามนี้ยังไม่ได้ เช่นนั้นท่านก็บอกข้ามาว่าพร้อมเมื่อใด"
"วันนี้ข้ายังยุ่งนัก เจ้าออกไปเสีย ไว้ข้าจะบอกอีกที" เว่ยจวินอี้ละสายตาจากนางแล้ว เขากลับไปวุ่นวายกับงานที่ล้นมือของตนต่อ
เฉิงซินกัดฟันกรอด "หน็อย ทำเช่นข้าเป็นธาตุอากาศ ข้าไม่ยอมแพ้หรอก อ้อ...อีกอย่าง ท่านมัดข้าไว้ทั้งคืน คิดหรือไม่ว่าแขนของข้าเกือบใช้งานไม่ได้เสียแล้ว"
"..."