ถูกจับได้ 2
“ท่านแม่ข้าว่าปิ่นหยกขาวชุดนี้ก็งามมากเจ้าค่ะ” ฟางหลิ่งเอ่ยบอกพร้อมชี้ไปยังเครื่องประดับชุดหนึ่งซึ่งมีสีขาวนวลดูงดงามและเรียบหรู อีกทั้งมันเป็นชุดเดียวที่ดูเรียบง่ายที่สุดที่วางอยู่บนโต๊ะนี้
“นั่นก็สวย แต่ไม่เข้ากับชุดแต่งงานของลูก แม่ว่าปิ่นทองลายเมฆนี่น่าจะเข้ากับชุดแต่งงานของลูกมากกว่า เจ้าเห็นว่าอย่างไร” หญิงวัยสี่สิบห้าปีที่ยังสวยสง่า ดวงตาหงส์คู่สวยมองบุตรสาวคนเล็กอย่างรักใคร่ มือบอบบางหยิบปิ่นที่หมายตาเสียบลงบนศีรษะบุตรสาวแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ งดงามอย่างที่คิดจริง ๆ
“ท่านแม่ เหตุใดพวกท่านถึงยอมรับการหมั้นหมายจากแม่ทัพปีศาจนั่นเจ้าคะ ไยไม่ถามความเห็นลูกสักคำ ลูกไม่อยากแต่งงานกับคนที่ลูกไม่ได้รักเจ้าค่ะ”
ฟางหลิ่งเอ่ยถามอย่างอัดอั้นตันใจ นางเป็นเด็กดีเสมอมีเพียงเรื่องคู่ครองเท่านั้นที่นางยังดื้อรั้น เหตุผลที่นางยังไม่ยอมแต่งงาน เพราะความคิดของนางไม่เหมือนสตรีคนอื่น ๆ นางอยากเป็นฮูหยินเพียงหนึ่งเดียว นางไม่อยากให้สามีอนุเหมือนกับท่านพ่อ ซึ่งต้องมาแย่งชิงความรักกัน
และเหมือนพี่สาว ที่ต้องใช้สามีร่วมกับสนมนางในอีกหลายร้อยคน และยังต้องหาวิธีทำให้องค์จักรพรรดิโปรดปราน แค่คิดนางก็เหนื่อยแล้ว และนั่นทำให้นางปฏิเสธเรื่อยมา อีกทั้งข่าวลือของแม่ทัพปีศาจที่กล่าวขานมาว่าใบหน้าอัปลักษณ์ นิสัยโหดเหี้ยม อำมหิต นางกลัวว่าจะต้องไปตายอย่างไร้ค่าอยู่ภายในจวนตระกูลจาง
คำถามของบุตรสาวทำให้เฟิงหนิงฮวาชะงักไป ก่อนจะลูบศีรษะบุตรสาวเบา ๆ อย่างปลอบโยน ใบหน้างามของบุตรสาวงอง้ำและดูหดหู่จนน่าสงสาร แม่ทัพจางเหว่ยผู้นั้นชื่อเสียงไม่ดีนัก ทว่าสำหรับนางแล้วแม่ทัพผู้นั้นเหมาะสมกับบุตรสาวของนางยิ่งนัก เพราะอีกฝ่ายอายุยี่สิบเก้าปีแล้ว แต่ยังไม่มีฮูหยินหรืออนุมาให้ได้ยิน นั่นนับว่าเป็นวาสนาของบุตรสาวของนาง
เฟิงหนิงฮวาเองก็ไม่อยากให้บุตรสาวมาใช้ชีวิตเฉกเช่นเดียวกับนาง ที่ต้องแก่งแย่งชิงดีเพื่อให้ได้เป็นที่โปรดปรานของสามี นางเหนื่อยมามากแล้วไม่อยากให้ลูกสาวคนเล็กต้องมาเจ็บปวดเช่นเดียวกับมารดาและพี่สาว ส่วนเรื่องโหดเหี้ยมอำมหิตนั้น คนที่เป็นแม่ทัพก็ต้องเด็ดขาดอยู่แล้ว หากไม่ใช่คนทรยศนางก็ไม่เคยได้ยินว่าถูกกระทำอย่างโหดร้ายมาก่อน
“แม่ทัพเหว่ยไม่มีฮูหยินหรืออนุอยู่ในจวน เขาจึงเป็นคนที่เหมาะสมกับลูกมาก แม่เชื่อว่าสักวันเจ้าจะเข้าใจที่แม่ทำทั้งหมด” ฟางหลิ่งมองสบตามารดาที่มีแต่ความรักและความอ่อนโยนแล้วรู้สึกผิดภายในใจ นางเข้าใจที่มารดาปรารถนาดีต่อนาง เพียงแต่นางไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเท่านั้น
“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่”
หลิ่งฟางตอบรับอย่างว่าง่าย นั่นทำให้คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากหรี่ตาคู่หงส์มองบุตรสาวอย่างหวาดระแวง เฟิงหนิงฮวารู้นิสัยของบุตรสาวดี หากนางว่าง่ายเกินไปนั้นเป็นเรื่องที่ผิดปกติเป็นอย่างมาก บุตรสาวคนเล็กของนางจะทำให้นางยิ้มได้บ่อย ๆ เพราะนางสดใสและรู้จักพูดจาเอาอกเอาใจนาง แต่วันนี้นางค่อนข้างเงียบและว่าง่ายเกินไป
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เจ้าไปพักเถอะ เดี๋ยวข้าวของพวกนี้แม่จะส่งไปให้ที่เรือน”
“เจ้าค่ะ” ฟางหลิ่งตอบรับนางหยิบปิ่นปักผมที่มารดาเสียบไว้ให้วางคืนที่เดิม ก่อนจะลุกขึ้นยืน นางมองมารดาอีกครั้ง แล้วหันกายจากไปอย่างแน่วแน่ แผ่นหลังอรชรเหยียดตรง และการก้าวเดินนั้นช้ากว่าปกติ ทำให้เฟิงหนิงฮวาหันไปมองแม่นม ข้ารับใช้ที่อยู่ข้างกายนางมาตั้งแต่ยังไม่ออกเรือน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังนาง
“ป้าซู หาคนจับตาดูหลิ่งเอ๋อร์หน่อยว่าช่วงนี้มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
“เจ้าค่ะ ฮูหยินคิดว่าคุณหนูจะหนีไปหรือเจ้าคะ” ซูเจินหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามนายหญิงอย่างสงสัย นางไม่รู้สึกว่าคุณหนูรองจะมีอะไรผิดปกติ แต่นางก็เชื่อมั่นในสายตาของนายหญิงที่ชาญฉลาดซึ่งมักมองอะไรไม่มีพลาด ดวงตาคู่หงส์เหม่อมองไปทางหน้าต่าง ก่อนจะพึมพำเสียงแผ่วเบา
