ระบบปลูกผักทำฟาร์ม 1
‘ระบบ เจ้าพูดว่าระบบงั้นหรือ’ อ้ายปิงเบิกตากว้าง ไม่รู้ว่าควรมองที่ไหน จู่ ๆ ตรงหน้าก็สว่างวาบ จอสีฟ้าปรากฎขึ้น ซ้ำยังคุ้นตาจนความทรงจำแปลก ๆ ผุดขึ้นมาในหัว
‘อ่า เจ้าคือระบบจริงๆ นี่คือหน้าจอระบบ เกมปลูกผักที่ข้าเคยเล่นจริง ๆ ด้วย’ อ้ายปิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ นางไม่คิดว่าก่อนที่ตนเองจะกำเนิดเป็นเซียนน้อยไปอยู่ข้างกายท่านเทพ แท้จริงแล้วนางยังมีอีกตัวตนหนึ่ง
‘โปรแกรมเมอร์สาว’ นั่นคือตัวตนของนางและเป็นผู้สร้างเกมปลูกผักชื่อดังที่มียอดขายถล่มทลาย และภาพหน้าจอโฮโลแกรมสีฟ้าตรงหน้า ก็มีรูปลักษณ์เหมือนเกมปลูกผักที่นางสร้างในชาตินั้นพอดี
อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ บังเอิญจนนางไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ
‘เกมปลูกผักของฉัน…ของข้า ระบบ และ ภารกิจ นี่ข้าต้องทำอะไรกันแน่ระบบ’
[นายหญิงมีหน้าที่เก็บเกี่ยวค่าความอุดมสมบูรณ์ของดาวดวงนี้ ซึ่งก็คือเงินตราของโลกเพื่อส่งมอบเป็นค่าความดีที่ท่านได้กระทำ เมื่อค่าความดีครบตามเป้าหมาย ท่านจึงจะสามารถจุติกลับคืนเป็นเทพที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง]
‘แปลว่าข้าต้องปลูกผักและขายแลกเงิน เพื่อกลับไปยังแดนเทพงั้นสิ’
[เป็นเช่นนั้น แต่เป้าหมายหลักของระบบคือการช่วยเหลือมนุษย์โลกที่แร้นแค้น ดังนั้นราคาของผลผลิตจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว]
อ้ายปิงนิ่งไปชั่วขณะ กระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้น ก่อนแม่นมเหลียนจะเดินเข้ามาข้างเตียง
“คุณหนู ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ นายท่านและนายหญิงรอท่านอยู่ มาเถอะเจ้าค่ะ”
อ้ายปิงถูกอุ้มให้ลุกขึ้น นางได้รับการปรนนิบัติจากแม่นมเหลียนอย่างดี ล้างหน้าและแต่งกายพร้อมทำผมให้ ก่อนจะอุ้มออกไปยังห้องทานอาหารในเรือนหลัก ขณะที่อ้ายปิงยังทำใจรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่ได้เลย
จวนสกุลหนี่ว์นั้นมีพื้นที่กว้างพอสมควร แม้จะยากจนแต่นั่นก็เพราะพื้นที่ทำการเกษตรของจวนแห้งแล้ง แต่ต้นตระกูลหนี่ว์มองการณ์ไกล
เมื่อต้องติดตามท่านอ๋องผู้ถูกเนรเทศมาชายแดนทางเหนือ พวกเขาก็ตัดสินใจใช้เงินที่ขนมาจากเมืองหลวงซื้อที่ดินปลูกจวนนอกเมือง แทนที่จะซื้อจวนขนาดกลางในเมือง
จวนสกุลหนี่ว์ไม่ได้ไกลจากในเมืองมากนัก ซ้ำยังเป็นทางไปยังค่ายทหาร อยู่ตรงข้ามกับหน้าด่าน ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย
แต่จวนแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ด้านหน้ามีเรือนหลัก ด้านข้างมีเรือนรับรอง เรือนสี่ประสานของจวน ด้านตะวันออกเป็นเรือนของบุตรชาย ด้านตะวันตกเป็นของบุตรสาว ขณะที่เรือนหลักเป็นที่พำนักของนายท่านและหนี่ว์ฮูหยิน
ทุกวันหนี่ว์อ้ายปิงมักถูกพาไปยังห้องอาหารในเรือนหลัก ก่อนถูกมารดาพากลับไปยังห้องนอนของมารดา
วันนี้บรรยากาศในห้องอาหารคึกคัก นับตั้งแต่บิดาอย่างหนี่ว์ซวงกลับมา หนี่ว์อ้ายหรงก็ดูร่าเริงขึ้นมาก แม้จะเห็นว่ามีรอยช้ำบนร่างกายมากขึ้น แต่เขากลับมีรอยยิ้มอยู่เสมอ
“น้องสาวเจ้ามาแล้ว” หนี่ว์อ้ายหรงเดินไปต้อนรับน้องสาวด้วยท่าทางยินดี อ้ายปิงทำเพียงแปะๆ มือให้เขาพอเป็นพิธี ประมาณว่าขอบคุณที่มาต้อนรับนาง
ไม่นานท่านพ่อก็เริ่มกินอาหาร บนโต๊ะอาหารเงียบสนิท กระทั่งถ้วยจานเปล่าถูกยกเก็บ นายท่านหนี่ว์ซวงผู้เป็นประมุขของบ้านจึงกล่าวขึ้น
“พ่อเดินทางกลับมาคราวนี้ เนื่องจากมีการพักรบชั่วคราว แต่เพราะข่าวที่หน้าด่านไม่ดีนัก อีกสองสามวันพ่อก็คงต้องไปออกรบอีกครั้ง อาหรง พ่อหวังว่าเจ้าที่เป็นบุรุษคนเดียวในบ้าน จะดูแลมารดาและน้องสาวให้ดี”
“ท่านพ่อ ลูกจะดูแลท่านแม่และน้องสาวเองขอรับ” อ้ายหรงนั้นสมเป็นบุตรชายของทหาร แม้เขาจะอายุเพียงห้าขวบ แต่กลับดูรู้ความอย่างยิ่ง ทั้งยังมีกลิ่นอายทรงพลังตั้งแต่ยังเล็ก บ่งบอกว่าได้เริ่มฝึกฝนการต่อสู้บ้างแล้ว
อ้ายปิงนั้นมีความทรงจำจากยุคเทคโนโลยี และช่วงเวลาที่อาศัยอยู่กับท่านเทพ ดังนั้นนางจึงตื่นเต้นกับวิชาการต่อสู้ของคนในยุคโบราณนี้พอสมควร
‘ข้าคงต้องหาโอกาสแอบไปดูพี่ชายและบิดาฝึกซ้อมสักวัน’ นางตั้งมั่นไว้ในใจ
“เอาล่ะ พ่อไว้ใจเจ้า พ่อบ้านฉิน ข้าได้ยินว่าปีนี้น้ำจะแล้งอย่างมาก ที่ดินของเราคงเก็บเกี่ยวได้ผลไม่ดีนัก นอกจากส่วนที่ต้องส่งภาษี ก็แบ่งส่วนให้แรงงานมากหน่อยเถอะ”
