บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 นางรู้ใจตัวเอง?

สารจากตระกูลเยี่ยนถูกส่งมาถึงจวนสกุลหวงในเช้าวันต่อมา พร้อมตราประทับของใต้เท้าเยี่ยน ขุนนางใหญ่ผู้ทรงอำนาจ

บิดาของหวงจื่อหานรับสารด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม ดวงตาเป็นประกายจนเห็นได้ชัด ริมฝีปากเอ่ยชมบุตรชายตนเองตลอดเช้า

“บุตรชายข้านี่ไม่ธรรมดา เจ้าเด็กนั่นแม้จะเงียบขรึม แต่กลับทำให้ตระกูลเยี่ยนเอ่ยปากสู่ขอถึงที่ได้!”

ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลายต่างร่วมวงยินดี เสียงหัวเราะดังทั่วห้องโถง

“คุณชายของเราช่างมีวาสนา! เยี่ยนอวี่ซินเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ ทั้งงดงาม ทั้งฉลาด มีใครบ้างจะไม่อยากเกี่ยวดองด้วย!”

“นี่เท่ากับตระกูลเรามีสายสัมพันธ์กับหนึ่งในขั้วอำนาจในราชสำนักเลยน่ะสิ!”

บิดาของจื่อหานถึงกับสั่งให้จัดโต๊ะอาหารใหม่ เพิ่มรายการอาหารโปรดของบุตรชายคนโตเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองล่วงหน้าโดยไม่รอฟังความเห็นใดจากเจ้าตัวแม้แต่น้อย

หวงจื่อหานเพียงนั่งนิ่งขณะกินมื้อเช้า ดวงตาดำสนิททอดมองถ้วยน้ำชาในมือตนอย่างครุ่งคิด เขาไม่แสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย เพราะรู้ดีว่าครอบครัวของเขาหวังสิ่งใดจากการเกี่ยวดองครั้งนี้

ในใจของจื่อหานเต็มไปด้วยความรู้สึกตึงเครียดที่ไม่อาจบอกใครได้

...เขาเกลียดการถูกควบคุม โดยเฉพาะจากอำนาจ

เกลียดการถูกใครสักคนเอาอำนาจมาครอบไว้เหนือศีรษะ แล้วให้เขาทำตามเพื่อความรุ่งโรจน์

หลังมื้ออาหารเช้าจบลงเขาก็ขอตัวแยกจากผู้ใหญ่ในตระกูลออกมา เวินอวี้บ่าวผู้ติดตามเดินเข้ามาพร้อมข่าวเพิ่มเติมจากที่รู้

“คุณชายขอรับ บ่าวสืบพบว่าเป็นความต้องการของคุณหนูเยี่ยนที่มีใจให้ท่านขอรับ... นางใช้ชีวิตตนเองมาขู่ทำให้ใต้เท้าเยี่ยนทำเช่นนี้ขอรับ”

จื่อหานเงียบไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาวาวโรจน์อย่างน่าหวั่นเกรง

“ฝากเจ้านัดนางออกมาพบข้าให้หน่อย ขอเร็วที่สุด”

“คุณหนูเจ้าขา! คุณชายหวง…ส่งคนมาแจ้งแบบลับ ๆ ว่าต้องการพบท่านเจ้าค่ะ!”

เสียงหงเซียงดังขึ้นพร้อมใบหน้าตื่นเต้นดีใจสุดขีด ราวกับพบประกาศิตจากสวรรค์ ทว่าเจ้านายของนางที่ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกลับมีสีหน้าตรงกันข้ามแทน

เยี่ยนอวี่ซินที่เพิ่งเสร็จจากผลัดแป้งเติมสีสันอยู่หน้าคันฉ่องถึงกับชะงักมือโดยพลัน

“เจ้า...พูดว่าอะไรนะ?”

ไม่ใช่ว่านางพยายามอยู่แต่ในเรือน ปรับตัวกับชีวิตใหม่ในนิยายอย่างเงียบ ๆ หรอกหรือ เหตุใดถูกติดต่อจากพระเอกในนิยายอย่างหวงจื่อหานเสียได้

“คุณชายหวง! เขาส่งคนมาขอพบท่านเจ้าค่ะ! ข้าว่าเขาต้องเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วแน่ ๆ ถึงได้ทำเช่นนี้!”

“รู้ใจตัวเอง?”

อวี่ซินหันไปมองบ่าวคนสนิทด้วยแววตาว่างเปล่า นางรู้นิสัยของบุรุษผู้นี้ดี

เขาคือคนที่มีความมุ่งมั่นสูง ไม่ยอมให้ใครใช้อำนาจข่ม ไม่สนใจนางร้ายอย่างเยี่ยนอวี่ซินแม้ร่างเดิมจะเข้าหาอย่างไรก็ตาม

แล้วตอนนี้เขาจะมานัดพบนางเพื่ออะไร?

หลังจากทบทวนและตั้งสติได้แล้วว่าตนคงต้องใช้ชีวิตเป็นตัวร้ายในนิยายต่อไปอย่างไม่รู้จุดสิ้นสุด เช่นนั้นเพื่อให้รอดพ้นจากชะตาตายเพราะเหล่าตัวเอกในนิยาย นางจึงตั้งใจจะหลีกหนีให้ห่างจากพวกเขามากที่สุด

คำตอบของนางจึงมีแต่...

“ไม่ต้องไปตอบเขา” อวี่ซินเอ่ยนิ่ง ๆ ขณะเดินไปนั่งที่โต๊ะจิบชาอย่างสง่างาม

“เจ้าคะ?” หงเซียงตาค้างไปแล้ว!

“หากเขาส่งจดหมายมาอีก…ให้เอาไปเผา หรือโยนทิ้งลงสระก็ได้ ไม่ต้องมาแจ้งข้าอีก”

หงเซียงอ้าปากพะงาบ ๆ คิดอยู่นานก่อนจะยกมือปิดปากตัวเอง ทำหน้าเหมือนค้นพบแผนลับอะไรบางอย่างแทน

“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ…คุณหนูจะใช้แผนเมินเฉยคุณชายหวงเพื่อให้อีกฝ่ายคะนึงหา เหมือนในนิยายเล่มนั้นแน่ ๆ! โอ๊ย...นี่มันกลยุทธ์ขั้นสูง! บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”

เยี่ยนอวี่ซินหันขวับไปมองบ่าวตัวน้อยอย่างสิ้นคำพูด ได้แต่มองตามหงเซียงที่วิ่งจากไปอย่างไม่ทันทักท้วง

วันหนึ่งในวันที่อากาศดี แดดอบอุ่น เยี่ยนอวี่ซินก้าวเดินอย่างสง่างามในชุดผ้าหรูสีอ่อน มือหนึ่งมีพัดผ้าไหมไว้คอยโบกเบา ๆ นางเบื่อกับการนอนอืดอยู่บนเตียงนอนหรือเดินชมดอกไม้ในสวนแล้ว วันนี้จึงถือโอกาสที่บิดาออกไปราชสำนักแต่เช้าและมารดาไปดูร้านรวงแอบออกมาเที่ยวเล่นที่ตลาดในเมืองกับหงเซียงสองคน

“คุณหนูเจ้าขา ร้านขนมนั่นเพิ่งออกขนมงาดำสดใหม่เจ้าค่ะ!”

หงเซียงพูดพร้อมกับจูงแขนเจ้านายอย่างเริงร่าพาไปตามกลิ่นหอมนั้น อวี่ซินพยักหน้ารับก่อนก้าวเดินอย่างไม่รีบร้อน เพราะนางคิดจะมาเดินเที่ยวชมเพื่อผ่อนคลายจริง ๆ

ชาติที่แล้ว นางขยันแทบตาย กินข้าวกล่องทุกมื้อ เก็บเงินแทบไม่กล้าซื้อขนมหนึ่งชิ้นเพราะกลัวไม่มีข้าวกิน ในเมื่อฟ้าส่งนางมาอยู่ในร่างคุณหนูผู้มั่งคั่งแล้ว... นางก็จะใช้เงินที่ไม่มีวันหมดนี้ให้คุ้มค่าไม่ทำให้สวรรค์ผิดหวังเลย

อวี่ซินเดินผ่านสตรีชราผู้หนึ่งที่สวมเสื้อขาดกำลังนั่งก้มหน้าอยู่ริมกำแพงอย่างน่าเวทนา ภาพนี้ทำให้นางนึกถึงตนเองในชาติก่อนที่ตกทุกข์ได้ยากจนเกือบต้องมาขอทานเช่นนี้ขึ้นมา

มือเรียวเอื้อมไปหยิบเงินจากถุง แล้ววางลงในชามไม้หน้าหญิงชรา พร้อมเอ่ยเสียงเบา

“เอาไว้ซื้อข้าวร้อน ๆ กินสักมื้อเถิด”

หญิงชราเงยหน้าขึ้น ดวงตาขุ่นมัวสั่นระริกก้มลงคำนับอย่างซาบซึ้ง

อวี่ซินยิ้มบาง ๆ ให้ ก่อนจะเดินจากมาโดยไม่รู้เลยว่า สายตาหนึ่งจากชั้นสองของโรงน้ำชาฝั่งตรงข้าม กำลังจับจ้องอยู่อย่างไม่ไว้ใจ

หวงจื่อหานวางถ้วยน้ำชาลงช้า ๆ แววตาคมใต้คิ้วเข้มจ้องลงไปยังร่างบางที่กำลังเดินผ่านย่านผู้คน

“สร้างภาพ...”

เสียงทุ้มต่ำพึมพำในลำคอแฝงแววเย้ยหยันชัดเจน

เยี่ยนอวี่ซิน…เห็นเขามองอยู่ก็เลยรีบทำตัวเป็นนางฟ้าสินะ?

แน่นอน…ว่าเขามองออกว่านางคงพยายามเล่นบทบาทใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อดึงความสนใจเขา

ทว่าขณะที่สายตาเขาไล่ตามแผ่นหลังนั้นไป... ก็กลับเห็นเงาดำคนหนึ่งเคลื่อนตามอย่างแนบเนียนจากมุมตึกอีกฝั่ง ดวงตาของจื่อหานหรี่ลงทันที

นั่นไม่ใช่ขอทาน ไม่ใช่คนเดินถนนธรรมดา แต่เป็นโจรที่กำลังเลือกเหยื่อเพื่อลงมือต่างหาก

เขาขยับตัวลุกขึ้นทันทีแล้วหันไปสั่งเวินอวี้เสียงต่ำแฝงไปด้วยความไม่พอใจและขัดใจตนเอง แม้เขาจะไม่ชอบหน้าเพียงใดแต่ก็มิอาจปล่อยให้นางอยู่ในสถานการณ์ร้ายแรงได้

“ตามไป…ขืนปล่อยไว้แบบนั้น เกิดอะไรขึ้นมาจริง ๆ จะยุ่งยากเอาได้”

เวินอวี้เลิกคิ้วเล็กน้อย “คุณชาย...จะไปช่วยนางหรือขอรับ?”

“ข้าแค่ไม่อยากให้มีข่าวลือว่าสตรีจากตระกูลใหญ่ถูกทำร้ายกลางตลาด ทั้งที่มีข้าอยู่ใกล้แค่นี้” เขาตอบเสียงเรียบ สีหน้าไม่เปลี่ยน “อีกอย่าง...นางก็มีแค่บ่าวหญิงเพียงคนเดียว ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา จะต้านไหวได้อย่างไร?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel