บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

แม้จะบอกให้ตัวเองเข้มแข็ง แต่สัมปันนีก็กินอะไรไม่ได้นั่งเหม่อลอยติดต่อกันหลายวัน รวมถึงทุกๆ คืนเธอมักจะสะดุ้งตื่นจากการฝันร้าย ฝันถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นซ้ำๆ วนไปวนมา พยายามแค่ไหนก็สลัดมันออกไปจากหัวไม่ได้ โดยเฉพาะเงาของผู้ชายคนนั้น ความทุกข์ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเธอ แม้จะไม่มีน้ำตาแต่แววตาของเธอก็ยังคงเศร้าสร้อยไร้ความสดใส

วรรณีเองก็ทุกข์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาว เธอพยายามชวนคุยชวนไปทำบุญไปต่างจังหวัด แม้สัมปันนีจะไปด้วยทุกๆ ที่ทว่าก็ยังไร้ซึ่งชีวิตชีวา กระทั่งคืนหนึ่ง สัมปันนีก็ยอมเล่าเรื่องบางอย่างให้เธอฟัง

ความรู้สึกขณะนั้นเหมือนหัวใจของคนเป็นแม่แบบเธอถูกกระชากออกจากอกแล้วใช้มีดแทงซ้ำๆ มันทั้งช็อค ทั้งจุกแน่นในอก ทั้งตกใจจนชาไปทั้งตัว เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าสัมปันนีจะได้พบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนั้น ทั้งสองกอดกันร้องไห้และจับมือกันเพื่อจะก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน

“ผลสัมภาษณ์งานที่ใหม่ออกหรือยังลูก” วรรณีเอ่ยถามเพราะเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนจะเกิดเรื่องสัมปันนีบอกว่าได้ลาออกจากบริษัทเดิมพร้อมสัมภาษณ์งานที่บริษัทใหม่แล้ว เหตุผลที่ลาออกจากที่เก่าเพราะถูกหัวหน้างานที่เป็นผู้ชายคุกคาม แม้จะร้องเรียนหลายครั้งก็ยังไม่เป็นผล สุดท้ายจึงเลือกที่จะพาตัวเองออกมาจากที่นั่น

“ยังค่ะ น่าจะมะรืนนี้”

“แม่ขอให้ลูกได้ข่าวดีนะ”

“ขอบคุณค่ะแม่” สัมปันนีส่งยิ้มให้แม่ทว่าจู่ๆ น้ำตาของวรรณีก็ไหลอาบแก้มเสียดื้อๆ นั่นเพราะหลายวันแล้วที่เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้มของลูกสาวแบบนี้

“หนูขอโทษที่ทำให้แม่ร้องไห้”

“ไม่ๆ ลูก ที่แม่ร้องเพราะแม่ดีใจที่ลูกสาวของแม่ยิ้มได้แล้ว อะไรที่ไม่ดีที่มันเลวร้ายก็ปล่อยมันไปนะลูกนะ ถือว่าเป็นกรรมที่เราต้องชดใช้ให้คนเลวๆ พวกนั้น”

“ค่ะ” สัมปันนีเอ่ยรับ ตอนนี้จิตใจเธอค่อยๆ กลับมาเข้มแข็งแล้ว แม้จะไม่มากแต่ก็ยังดีกว่าอ่อนแออยู่แบบนั้น ระหว่างรอผลสัมภาษณ์ออกเธอจะพยายามเข็มแข็งให้มากขึ้น เธอจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น จะไปทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

“เดี๋ยวแม่จะออกไปตลาด ลูกอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”

“ไม่ค่ะ เพราะแม่ทำอะไรก็อร่อย” สัมปันนีส่งยิ้มให้แม่ที่รสมือเรื่องทำอาหารนั้นไม่เป็นสองรองใคร อร่อยกว่าเชฟหรือแม่ครัวตามร้านอาหารมีชื่อที่เคยไปกินก็หลายร้าน

ทุกๆ วันแม่ของเธอจะตื่นมาตั้งแต่ตีสองเพื่อปรุงอาหารอร่อยๆ กับลูกมืออีกหนึ่งคน ซึ่งเมนูแต่ละวันก็จะไม่ซ้ำกัน ไทย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ยุโรปสลับกันไป จากนั้นก็แพ็กใส่กล่องอาหารจัดวางสวยๆ เพื่อดึงดูดใจคนซื้อ ประมาณตีห้าก็จะมีแม่ค้าพ่อค้าเจ้าประจำมารับไปขายต่ออีกทอด

นอกจากอาหารคาวแล้วแม่เธอยังทำขนมไทยอร่อยมาก โดยเฉพาะขนมมงคลที่ใช้ในงานแต่งงาน ซึ่งชื่อของเธอก็มาจากขนมเช่นกัน

เมื่อบอกสัมปันนีเรียบร้อย วรรณีหอบหิ้วตะกร้าจ่ายตลาดคู่ใจแล้วเดินออกไปขึ้นรถสองแถวเจ้าประจำที่จะมารับทุกครั้งที่เธอจะออกไปซื้อของ อันที่จริงถ้า สัมปันนีไม่อยากกลับไปทำงานบริษัทเธอก็สามารถเลี้ยงดูลูกสาวให้อยู่สุขสบายได้ แต่ดูเหมือนสัมปันนีจะไม่อยากทำแบบนั้น เพราะตั้งแต่เรียนจบก็ทำงานมาตลอดไม่เคยขอเงินเธอใช้อีกเลย อยากได้อะไรก็ทำงานเก็บเงินซื้อเอง เป็นลูกกตัญญูด้วยซ้ำแต่ทำไมโลกถึงได้ใจร้ายกับสัมปันนีนัก

วรรณีลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ในขณะที่สมองยังคงคิดแต่เรื่องลูก ในขณะที่สัมปันนีก็ยังคงนั่งอยู่จุดเดิมในบ้าน กระทั่งได้ยินเสียงคล้ายประตูรั้วหน้าบ้านถูกเปิดออก

“แม่ลืมอะไรหรือเปล่าคะ” สัมปันนีเอ่ยถามออกไปเพราะคิดว่าแม่ลืมของแล้วกลับมาเอา พร้อมกันนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่แล้วเดินออกไปหากระทั่งเห็นว่าเป็นใครเธอถึงกับชะงักเท้า

“พี่โอเปิ้น”

“ดีใจจังที่เจอ พี่แวะเอาเงินส่วนแบ่งมาให้” รอยยิ้มของพิจิกาเกิดขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับยื่นเงินปึกหนึ่งให้สัมปันนี ในขณะที่เจ้าบ้านหน้าถอดสีจนซีดราวกับกระดาษนั่นเพราะไม่คิดว่าพิจิกาจะกล้ามาหาเธอถึงที่บ้านแถมยังแสดงสีหน้าท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่พิจิกาทำไว้กับเธอเมื่อหลายวันก่อนมันยากเกินจะให้อภัยไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนทั้งนั้น

สัมปันนีกำหมัดแน่นพร้อมกับรวบรวมแรงเท่าที่มีเดินตรงไปหาแขกที่ไม่ได้รับเชิญและเป็นแขกที่เธอกรวดน้ำคว่ำขันให้มาตลอดหลายวันว่าขออย่าได้พบอย่าได้เจอกันอีกเลย เรียวขาเล็กๆ ของเธอสั่นเทารวมถึงแววตาที่สั่นระริกจากความโกรธทว่าผู้หญิงตรงหน้ากลับยังคงส่งยิ้มให้เธอ

เพียะ

เสียงตบฉาดใหญ่ดังขึ้นมันแรงจนฝ่ามือของ สัมปันนีชา ในขณะที่พิจิกาเองก็ตกใจมากที่จู่ๆ เธอก็ถูกรุ่นน้องตบจนหน้าหันแบบนี้ รอยยิ้มที่มีให้ในตอนแรกแปรเปลี่ยนมาเป็นความโกรธเกรี้ยวพร้อมตั้งท่าจะตบคืน ทว่าต้องชะงักเมื่อสบตากับสัมปันนีที่เวลานี้แข็งกร้าวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“เอาสิ ตบมาสิ” สัมปันนีท้าทายทั้งๆ ที่น้ำตายังคลอเบ้า “คนอย่างพี่แค่ถูกตบมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

“จะมากไปแล้วนะ”

“ไม่มากไปสักนิดเพราะถ้าทำได้ลูกหนูอยากฆ่าพี่แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้ทำเลวแบบนั้นกับลูกหนูได้ ทั้งๆ ที่พี่ก็เป็นผู้หญิง ทำไม” นั่นเพราะที่ผ่านมาสัมปันนีไว้ใจพิจิกาเสมอ นับถือเป็นพี่เป็นน้องเข้านอกออกในบ้านกันได้ตลอดเวลาด้วยซ้ำไป แต่เวลานี้เธอเกลียดผู้หญิงตรงหน้ามากที่สุดเช่นเดียวกัน

“พี่แค่ร้อนเงิน” พิจิกาให้เหตุผลซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ วันนั้นเธอรับงานซ้อนเลยต้องส่งคนไปแทนเท่านั้นแล้วแจ็คพอตมันก็ไปออกที่สัมปันนีเพราะนัดกินข้าวกับพอดี ทุกอย่างมันประจวบเหมาะไปหมดรวมถึงราคาค่าตัวของสัมปันนีที่ทางนั้นให้มากกว่าที่เธอแจ้งไปหลายเท่า

แม้จะไม่รู้ว่าคืนนั้นแขกของสัมปันนีเป็นใคร แต่เธอมั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องกระเป๋าหนักแน่นอน

“แล้วทำไมถึงไม่ขายตัวเอง ทำไมต้องเป็นลูกหนู” แม้จะไม่อยากถามหาเหตุผลทว่าพอเจอหน้าพิจิกาประโยคเหล่านี้ก็ออกจากปากสัมปันนีอย่างไม่รู้ตัว

“ที่โกรธพี่ขนาดนี้เพราะยังไม่ได้เงินใช่ไหม พี่เอามาให้แล้วนี่ไง รับไปสิ” พิจิกาพยายามยัดเยียดเงินก้อนนั้นให้สัมปันนีอีกครั้ง อันที่จริงเธอเก็บเงินทั้งหมดไว้เองก็ได้แต่นึกสงสารเลยแบ่งมาให้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel